LPN เปิดตัวโครงการบ้านหรูแห่งแรกของบริษัท ‘BANN 365 by LPN พระราม 3’ เริ่มต้น 18-60 ล้านบาท โดยเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ Year of Change ที่ต้องการปรับพอร์ตโครงการของบริษัท พัฒนาที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงพรีเมียมแทนที่คอนโดฯ ระดับล่างเพื่อพลิกฟื้นรายได้บริษัท
สุรวุฒิ สุขเจริญสิน เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมระดับพรีเมียมแห่งแรกของบริษัทภายใต้แบรนด์ใหม่ BANN 365 by LPN ในทำเลถนนพระราม 3 มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท เนื้อที่ 22 ไร่ จำนวน 99 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 41 ยูนิต และทาวน์โฮม 51 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 18-60 ล้านบาท
โดยจะเปิดตัวเป็นทางการวันที่ 14-15 ก.ค. 2561 แต่หลังจากเปิดขายแบบ soft launch บริษัทมียอดขายไปแล้ว 700 ล้านบาท หรือประมาณ 25 ยูนิตของโครงการ ตั้งเป้าว่ายอดขายถึงสิ้นปีนี้จะสามารถปิดการขายได้ 1,200 ล้านบาท

“ลูกค้า 20% ที่เข้ามาซื้อเป็นลูกค้าเก่าของแอลพีเอ็น มีทั้งกลุ่มที่อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมของเราและต้องการขยับขยายที่อยู่อาศัยที่ใหญ่กว่า และกลุ่มนักลงทุนคอนโดฯ ที่เข้ามาซื้อ BANN 365 เพื่อเป็นที่อยู่หลัก” สุรวุฒิกล่าว
อสังหาฯ พรีเมียมพลิกฟื้นรายได้
การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับบนนี้เป็นทิศทางการดำเนินงานภายใต้ กลยุทธ์ Year of Change ของแอลพีเอ็น โดยสุรวุฒิกล่าวว่า ในยุคก่อนแอลพีเอ็นเน้นพัฒนาเฉพาะโครงการระดับกลางล่าง คือคอนโดฯ ราคาต่ำกว่า 7 หมื่นบาทต่อตร.ม. คิดเป็นสัดส่วน 80-90% ของรายได้รวม
แต่ปี 2561 พอร์ตดังกล่าวได้ปรับให้หลากหลายมากขึ้น กลุ่มที่อยู่อาศัยระดับกลางล่างลดเหลือ 50% ของพอร์ต ขณะที่กลุ่มคอนโดฯ ระดับกลาง ราคา 7 หมื่น - 1.5 แสนบาทต่อตร.ม. มีสัดส่วนประมาณ 40% และกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับบน คือคอนโดฯ ราคา 1.5 แสนบาทต่อตร.ม.ขึ้นไป และบ้านเดี่ยวราคา 35 ล้านบาทขึ้นไป มีสัดส่วนในพอร์ตราว 10%
“เราเปลี่ยนเพื่อจะกลับไปแข็งแรงเหมือนเดิม เป็นการบริหารความเสี่ยงเพื่อไม่ให้เราอยู่กับลูกค้ากลุ่มเดียว”

สุรวุฒิเชื่อว่าการเปลี่ยนจากการพัฒนาคอนโดฯ ระดับกลางล่างมาเป็นบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียมไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจของลูกค้า เพราะแอลพีเอ็นเคยพิสูจน์ตัวเองมาแล้วกับโครงการคอนโดฯ เดอะ ลุมพินี 24 ราคา 1.6-1.7 แสนบาทต่อตร.ม. (ณ ช่วงเปิดตัวโครงการ) ซึ่งปัจจุบันขายหมดทั้งโครงการแล้ว
ทั้งนี้ ปี 2561 แอลพีเอ็นตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท เทียบกับปี 2560 ทำได้ 9,655 ล้านบาท ซึ่งสุรวุฒิยอมรับว่าปีก่อนเป็นปีที่รายได้ตกต่ำที่สุด ส่วนไตรมาสแรกของปีนี้ทำรายได้ไป 2,514 ล้านบาท และเชื่อว่ารายได้จาก BANN 365 จะเข้ามาช่วยดันรายได้ช่วงท้ายปีเนื่องจากจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์บางส่วนตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้

“เรายังคงมองหาทำเลขยายโครงการ BANN 365 ต่อเนื่อง โดยต้องเป็นทำเลใกล้เมืองและจะเน้นทำเลที่ลูกค้ารู้จักแอลพีเอ็นอยู่แล้ว รวมถึงจะเร่งสร้างภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของแอลพีเอ็นไปในลูกค้าวงกว้างกว่านี้”
แก้ปัญหาทาวน์ชิปรังสิตค้างสต็อก ปล่อยเช่าเป็น Recurring Income
สุรวุฒิกล่าวต่อว่า สำหรับที่อยู่อาศัยระดับกลางล่าง กลุ่มลูกค้ายังมีความต้องการที่อยู่อาศัยแต่มีปัญหากำลังซื้อ ทำให้บางโครงการคือที่คอนโดฯ ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต คลอง 1 นำบางส่วนมาปล่อยเช่าในลักษณะอะพาร์ตเมนต์ 1 ตึก จำนวน 200 ยูนิตในราคาเช่า 5,000 บาทต่อเดือนซึ่งปัจจุบันมีผู้เช่าเต็ม
แอลพีเอ็นเลือกจะบริหารตึกนี้เป็นอะพาร์ตเมนต์ต่อไปก่อนในระยะนี้เพื่อเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) แต่ยังเปิดช่องอนาคตอาจขายตึกนี้แบบเหมาตึกพร้อมผู้เช่าให้กับนักลงทุนซึ่งจะคิดเป็นมูลค่าขายประมาณ 200 ล้านบาท
สำหรับ Recurring Income ถือเป็นการปรับพอร์ตในกลยุทธ์ Year of Change ของแอลพีเอ็นเช่นกัน โดยสุรวุฒิกล่าวว่าปัจจุบันแอลพีเอ็นมีรายได้ประจำต่ำกว่า 1% ส่วนใหญ่มาจากพื้นที่รีเทลเล็กๆ ใต้ตึกโครงการคอนโดฯ ต่างๆ แต่อะพาร์ตเมนต์ดังกล่าวรวมกับอาคารสำนักงานให้เช่า ลุมพินี ทาวเวอร์ วิภาวดี-จตุจักร จะทำให้แอลพีเอ็นมีรายได้ประจำเพิ่มขึ้นซึ่งช่วยบริหารความเสี่ยงได้
บ้านหรูระดมเปิดตัวปี 2561
ด้าน ประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินีวิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด เปิดเผยว่า บ้านแนวราบระดับพรีเมียมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งบ้านและทาวน์โฮมในราคา 10 ล้านบาทต่อหลังขึ้นไป ตั้งแต่ปี 2558 ถึง ไตรมาส 1 ปี 2561 มีซัพพลายเปิดตัวใหม่รวม 1,554 ยูนิต
โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีแรก 2561 ประพันธ์ศักดิ์ประเมินว่ามีบ้านหรูเปิดตัวแล้วกว่า 600 ยูนิต คาดว่าตลอดปีนี้น่าจะมีการเปิดตัวราว 1,200 ยูนิต ส่วนหนึ่งเกิดจากปี 2560 ผู้ประกอบการมีการชะลอเปิดตัวบ้านหรูไปบางส่วนทำให้มีซัพพลายมาเปิดขายในปีนี้เป็นจำนวนมาก
สำหรับทำเลยอดฮิตที่มีโครงการบ้านหรูเปิดตัวใหม่มากที่สุดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้แก่
1.สุขุมวิท (พร้อมพงษ์-เอกมัย)
2.ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์
3.พระราม 9-ศรีนครินทร์-พัฒนาการ
4.ราชพฤกษ์
5.สาทร-พระราม 3