อสังหาลักชูปักหมุดภูเก็ตไม่หยุด! เปิดตัว ‘GARDEN ATLAS BAYVIEW’ บ้านพักหรูหลังละ 150 ล้าน

อสังหาลักชูปักหมุดภูเก็ตไม่หยุด! เปิดตัว ‘GARDEN ATLAS BAYVIEW’ บ้านพักหรูหลังละ 150 ล้าน

“การ์เด้น แอทลาส” เปิดตัวโครงการ “GARDEN ATLAS BAYVIEW” บ้านพักตากอากาศหรูหลังละ 150 ล้านบาท บนอ่าวมะขาม แหลมพันวา ภูเก็ต ขายเศรษฐีไลฟ์สไตล์หรูเทียบชั้น “โมนาโก-ดูไบ-ฮ่องกง-สิงคโปร์” เปิดตัว 2 ปีข้างหน้า ก่อนจ่อพัฒนาที่เกาะอื่นๆในภาคใต้ พร้อมดัน “GARDEN ATLAS” สู่ Residences Brand ระดับโลก ลุยบ้านหรูภูมิภาคเอเชีย


    ต่อศักดิ์ ใจชื่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การ์เด้น แอทลาส เบย์วิว วิลล่า จำกัด ผู้พัฒนาโครงการพักอาศัยระดับ Ultra Luxury ในภูเก็ต เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัว GARDEN ATLAS BAYVIEW บ้านพักอาศัยระดับ Ultra Luxury สไตล์ Modern Bali Contemporary มูลค่า 2,000 ล้านบาท บนทำเลอ่าวมะขาม แหลมพันวา จังหวัดภูเก็ต บนพื้นที่ 16 ไร่ จำนวน 15 ยูนิต ราคาเฉลี่ยหลังละ 150 ล้านบาท เป็นบ้านขนาดใหญ่ 6 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ 2 ห้องครัว 3 สเปซพักผ่อน 3 ที่จอดรถ 2 สระว่ายน้ำ พร้อมพูลเดย์เบดแบบฮันนีมูนซีท 6 ชุดอยู่ในสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 6x15 เมตร และมีพื้นที่พิเศษสวนลอยฟ้าพร้อมศาลา วิลล่ามีพื้นที่ใช้สอยทั้งภายในและภายนอกรวมประมาณ 1,585 ตารางเมตร ก่อสร้างเสร็จในอีก 2 ปีข้างหน้า


    “บ้านระดับ 1,000 กว่าตารางเมตรในภูเก็ตแทบจะหาไม่ได้แล้วในปัจจุบัน และด้วยเงินเท่ากันถ้าซื้อในโมนาโกจะได้พื้นที่ราว 100 ตารางเมตรเท่านั้น ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ใช่ตลาดแคบเลย เพราะคนที่มีกำลังซื้อระดับพันล้านยูโรทั่วโลก มีอยู่เป็นร้อยล้านคน และพวกเขากำลังมองหา ‘เมืองใหม่’ ที่น่าอยู่ ปลอดภัย และคุ้มค่าในระยะยาว” ต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า กลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้ มองไปที่กลุ่มเจ้าของธุรกิจ นักลงทุนผู้มั่งคั่งทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม Hybrid Billionaire เป็นคนไทย 60% และต่างชาติ 40%

    สาเหตุที่เขาพัฒนาโครงการบนอ่าวมะขาม แหลมพันวา เพราะเป็นพื้นที่ชายฝั่งสงบ หายาก ไม่ถูกรบกวน สภาพอ่าวเป็นพื้นที่ทะเลมีน้ำลึกและสันอ่าวนิ่ง เหมาะกับการจอดเรือยอชต์และการเดินเรือสากล นอกจากนี้ยังใกล้ท่าเรือระดับนานาชาติ และบริการ Ocean Leisure ครบวงจร

ต่อศักดิ์ ใจชื่น


    ขณะที่อ่าวมะขามยังเป็นอ่าวเดียวในภูเก็ตที่เดินทางได้ทั้งทางรถ ทางเรือ และเครื่องบินทางน้ำ หรือ Seaplane ซึ่งภาครัฐและเอกชนกำลังผลักดันการพัฒนาเทอร์มินัลซีเพลนที่ภูเก็ต เพื่อเชื่อมรีสอร์ตเดสติเนชั่นทั้งสมุย พัทยา และหัวหินเข้าด้วยกัน ช่วยลดเวลาเดินทางข้ามอ่าวไทยและอันดามัน ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการจัดทำ EIA และผลักดันเชิงนโยบาย

    นอกจากนี้ภูเก็ตยังมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ อาทิ การพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ระยะที่ 2 โครงการทางพิเศษกะทู้–ป่าตอง การพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้าเบา (MRTA) 42 กม. อยู่ในแผนแม่บทของการรถไฟฟ้าฯ เพื่อเชื่อมสนามบิน–เมือง–ฉลอง เป็นต้น และล่าสุดยังมีแผนการเปิดเทอร์มินัลใหม่ของท่าเรือน้ำลึกอ่าวมะขาม (Cruise Terminal) เพื่อรองรับเรือสำราญลำใหญ่ เทียบท่าได้โดยไม่ต้อง tender ซึ่งจะช่วยยกระดับภูเก็ตเป็น “gateway port” ของอันดามันและอาเซียน

    อีกเหตุผลที่ต่อศักดิ์ตัดสินใจจ่ายเงินซื้อที่ดินผืนนี้ตัดหน้าคู่แข่งอีก 2-3 รายซึ่งสนใจพื้นที่นี้เช่นเดียวกัน เพราะตลาดทางฝั่งตะวันตกของภูเก็ตแข่งขันกันอย่างสมบูรณ์แบบ มีบริษัทมหาชนกว่า 10 รายลงทุนเป็นหมื่นๆ ล้านบาท และที่สำคัญการเป็นคนพื้นที่ภูเก็ต และอยู่ในวงการอสังหาฯ มา 20 ปี ต่อศักดิ์จึงเห็นจังหวะการเปลี่ยนผ่านของตลาดจากบ้านหลังละ 4 ล้านบาท ที่ขยับมาจนถึงระดับ 50 ล้านบาท และจุดที่จะไม่สามารถซื้อที่ดินใกล้ชายหาดฝั่งตะวันตกได้อีกแล้ว เพราะทุกตารางนิ้วถูกจับจองเกือบหมด และราคาที่ดินสูงมาก


    “การพัฒนาอสังหาฯ แบบเดิมแทบจะเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป เพราะต้นทุนทุกอย่างสูงขึ้นเกือบ 3 เท่าในเวลาไม่กี่ปี ผมซื้อที่ดินใจกลางภูเขา เข้าถึงยาก หลายคนมองว่าเป็นข้อเสีย แต่ผมกลับมองว่านั่นแหละคือเสน่ห์ ที่ดินที่เข้าถึงยากมักจะเงียบสงบ ราคาก็ไม่สูง” ต่อศักดิ์บอก

    ก่อนเริ่มพัฒนาโครงการ ต่อศักดิ์กับทีมได้ศึกษาอย่างละเอียดทั้งกฎหมายผังเมือง สิ่งแวดล้อม และเงื่อนไขการก่อสร้าง เพราะบ้านบนเขาไม่เหมือนบ้านบนที่ราบ จะเปลี่ยนแบบระหว่างทางไม่ได้ จึงต้องแม่นยำทั้งด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมตั้งแต่ต้น เพราะต้องวางระบบรับน้ำหนักไว้ล่วงหน้า

    “เวลาผมพัฒนาโครงการ ผมจะคิดเสมอว่าถ้าราคาที่ดินเท่ากัน ผมต้องเลือก ‘วิว’ ที่ดีที่สุดแน่นอน เพื่อให้แข่งกับคู่แข่งในตลาดได้ แต่สิ่งที่ผมคิดต่อคือ... ลูกค้าที่ชอบบ้านบนที่ราบ กับลูกค้าที่ชอบบ้านบนเนินมีวิว ใช่กลุ่มเดียวกันจริงหรือไม่? เมื่อสำรวจตลาดอย่างละเอียด พบว่าไม่ใช่คนกลุ่มเดียวกันเลย จึงตัดสินใจเลือกพัฒนาโครงการ GARDEN ATLAS BAYVIEW ในทำเลอ่าวมะขาม แหลมพันวา เพราะเป็นทำเลที่มีความเหมือนกับเมืองชายฝั่งสำคัญของโลกอย่างโมนาโกทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่มั่งคั่ง และเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองมหาเศรษฐีที่มีชีวิตความเป็นอยู่หรูหรา” ต่อศักดิ์กล่าว

    เขาคาดการณ์ว่า อีกไม่เกิน 10 ปี อ่าวมะขาม แหลมพันวา จะได้รับความนิยมเช่นเดียวกับโมนาโก เพราะปัจจุบันโมนาโกไม่สามารถพัฒนาโครงการใหม่ได้แล้ว และราคาคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 52,000-130,000 ยูโรต่อตารางเมตร แพงกว่าราคาอสังหาฯ ในพื้นที่อ่าวมะขาม แหลมพันวา หลายเท่าตัว

ประกายเพชร มีชูสาร


    ประกายเพชร มีชูสาร หัวหน้าแผนกซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดที่พักอาศัยตากอากาศประเภทวิลล่ามีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าปี 2567 มียอดขายเพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อนหน้า หากพิจารณาโครงการระดับลักชัวรี่ที่มีมูลค่ามากกว่าหลังละ 90 ล้านขึ้นไป ซัพพลายในตลาดมีเพียง 6.89% ซึ่งมียอดขายแล้วกว่า 76% โดยทำเลที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดคือทำเลชายฝั่งตะวันออก (ทิศใต้) สามารถทำยอดขายได้สูงที่สุดถึง 92.8%

    เหตุผลที่ทำเลนี้ได้รับความสนใจอย่างมากสำหรับตลาดลักชัวรี่คือ ความงดงามของวิวทะเล ที่เรียงรายด้วยเกาะแก่งต่างๆ ทั้งยังเห็นเรือสำราญจอดเทียบท่า ทำให้ทำเลนี้มีศักยภาพที่จะดึงดูดนักลงทุนและผู้ซื้อระดับบนจากทั่วโลกที่ต้องการไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับ และได้ความคุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาว

    จากพฤติกรรมลูกค้าที่ซื้อที่พักอาศัยตากอากาศประเภทวิลล่านี้ จุดประสงค์ในการซื้อเพื่อการลงทุนสูงถึง 68% และเพื่ออยู่อาศัยเอง 31% แบ่งเป็นสัดส่วนลูกค้าชาวไทย 57% และชาวต่างชาติ 43% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากยุโรป อเมริกา และเอเชีย

    ต่อศักดิ์กล่าวต่อว่า GARDEN ATLAS BAYVIEW เป็นโครงการเดียวในภูเก็ตที่รวม 4 คุณสมบัติไว้พร้อมกัน คือ วิวทะเลแบบ 180 องศา, ทำเลติดอ่าวลึกที่ปลอดภัย, ความเป็นส่วนตัวระดับสูงสุด, และดีไซน์วิลล่าขนาด Ultra Site ที่คิดบนแนวคิด “President Suite Living” ทุกหลังใช้วัสดุ Hi-End ทั้งหลัง พร้อมระบบ Home Automation และสระว่ายน้ำ See-through 2 ชั้นที่ออกแบบเชื่อมต่อมิติของน้ำ แสง และวิวได้อย่างลงตัว ที่สำคัญคือโครงการนี้สร้างเพียง 15 หลังเท่านั้น สำหรับผู้ที่ต้องการความแตกต่างในชีวิตจริงๆ


    “ผมเชื่อว่าความสำเร็จในตลาดอสังหาฯ ระดับบน ไม่ได้วัดที่ราคา แต่วัดที่แนวคิด เราต้องกล้าที่จะเป็นผู้นําเทรนด์ กําหนดตลาดใหม่ในระดับโลก ไม่ใช่ตามตลาดที่มีอยู่ การพัฒนา Garden Atlas Bayview จึงเริ่มจากคำถามที่ว่าสิ่งที่ยังไม่มีในประเทศไทยคืออะไร และเราจะสร้างมันขึ้นมาอย่างมีคุณค่าได้อย่างไร ดังนั้น นอกจากจะพัฒนาโครงการ Garden Atlas Bayview ในทําเลที่ไม่มีใครคิดถึงแล้ว เราจะทำให้มันเป็น Maritime Hilltop แห่งแรกของไทย และเติมเต็มอ่าวมะขาม แหลมพันวาเป็นโมนาโกแห่งเอเชียในอีก 10 ปีข้างหน้า” ต่อศักดิ์บอก

    เขาเล่าว่า ตอนเด็กๆ ครอบครัวเขาเคยล้มละลาย เขาเป็นหนี้กว่า 100 ล้านบาทตั้งแต่อายุ 23-24 ปี ชีวิตของเขาไม่ได้เริ่มจากศูนย์เหมือนใครหลายคน แต่เริ่มจาก ‘ติดลบเป็นร้อยล้าน’ จึงรู้ดีว่าความรู้สึกของการ ‘ไม่มีอะไรเลย’ นั้นเป็นอย่างไร และก็รู้เช่นกันว่า วันที่มีเงินให้ความรู้สึกแบบไหน นี่ทำให้ต่อศักดิ์เข้าใจคุณค่าของทุกการตัดสินใจและทุกบาททุกสตางค์อย่างลึกซึ้ง

    ดังนั้น Garden Atlas Bayview จึงเป็นอีกความตั้งใจที่ Garden Atlas จะพัฒนาและยกระดับให้มีความคุ้มค่าและเป็นต้นแบบของคำว่า “Monaco of Asia” อย่างแท้จริง


    เขากล่าวว่า หากมองจากเหนือสุดของเกาะลงมาจนถึงใต้สุดติดมหาสมุทรอินเดียในปัจจุบัน ฝั่งตะวันตกถูกพัฒนาไปแทบหมดแล้ว โรงแรม ร้านค้า รีสอร์ต แท็กซี่ แข่งกันทุกตารางเมตร ความสงบแทบไม่เหลือเลย

    “ภูเก็ตตอนนี้กลายเป็น ‘แมสมาร์เก็ตที่เป็นลักชัวรี’ ไปแล้ว ในสายตาชาวต่างชาติที่เป็นลูกค้าผม หลายคนเขาบอกเสมอว่า Luxury จริงๆ คือ ‘ความสงบ’ และ ‘ความเป็นส่วนตัว’ ไม่ใช่ความทันสมัยหรือแบรนด์เนม เขาอยากตื่นมาแล้วเดินออกจากบ้านไม่กี่ก้าวถึงร้านกาแฟ หรือกลับบ้านโดยไม่มีใครตามรบกวนได้ ผมเลยออกแบบโครงการนี้ให้ตอบโจทย์กลุ่มที่ไม่ได้ต้องการ Sunset หรือ Beach Club อีกต่อไป เพราะความสงบต่างหากที่กลายเป็นของหายาก และเป็น Limited Edition ของยุคนี้” เขาบอก

    นี่คือทิศทางใหม่ที่ต่อศักดิ์กำลังมุ่งไป เพราะกลุ่ม HNW (High Net Worth) และ Ultra-High Net Worth กำลังมองหาทรัพย์สินที่ปลอดภัยและมีคุณค่าทางจิตใจ มากกว่าการเก็งกำไร

    ต่อศักดิ์เล่าว่าภายหลังจากพัฒนาโครงการนี้เสร็จและให้ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ดูแลการขาย บริการครบวงจร เขาจะไปพัฒนาโครงการใหม่ และมองไกลถึงการปั้น Garden Atlas ให้เป็น Residences Brand สำหรับบ้านหรูมูลค่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอนาคต รวมทั้งการร่วมทุนกับพันธมิตรต่างชาติพัฒนาโครงการบ้านหรูในตลาดเอเชียด้วยในอนาคต

    “แต่ตอนนี้ขอทำที่ภูเก็ตต่อ เพราะผมยังหลงรัก ‘เกาะ’ อยู่ครับ เพราะเกาะมีเสน่ห์เฉพาะตัว มีจังหวะชีวิต มีเอกลักษณ์ และมีขีดจำกัดที่สร้างคุณค่าในตัวเอง เกาะที่มีขนาดจำกัดเหมือนสิงคโปร์ เหมือนฮ่องกง เมื่อถึงจุดที่เต็มหรือแม็กซ์ มูลค่าจะพุ่งขึ้นอย่างมหาศาล ผมตั้งใจจะอยู่กับภูเก็ตต่อไปจนถึงวันที่เกาะนี้แตะจุดที่เรียกว่า ‘Near the Max’ ถึงตอนนั้น ผมถึงจะขยับออกไปจากเกาะนี้” ต่อศักดิ์กล่าว


    เขาบอกว่า ตัวเขาสนใจเข้าไปพัฒนาพื้นที่ในเกาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวในภาคใต้ โดยเฉพาะเกาะที่มีคนตั้งแต่ 10 ล้านขึ้นไป และต้องเป็น “เกาะจริงๆ” ที่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ (Limited Land) และความจำกัดนี่จะกลายเป็น “คุณค่าทางเศรษฐกิจ” ที่แท้จริง และเมืองจะเติบโตได้ ต้องมีคนเข้ามาหมุนเวียนใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคนต่อปี นั่นจึงเป็นเหตุผลที่สนใจเฉพาะ “เกาะในประเทศไทย” ที่มีศักยภาพจะไปถึงจุดนั้น โดยเฉพาะเกาะที่มีสะพานเชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ เพราะต้นทุนการพัฒนาต่ำกว่า และระบบโลจิสติกส์สะดวกกว่า

    “ตลอด 25 ปีในวงการ ผมเดินดูเกาะแทบทุกเกาะในประเทศไทย จนรู้ว่าศักยภาพทางเศรษฐกิจของเกาะไม่ได้อยู่ที่วิวสวยหรือที่ดินราคาถูก แต่อยู่ที่จำนวนคนและข้อจำกัดของพื้นที่ และภูเก็ตวันนี้ยังไปได้อีกไกลมาก เพราะนอกจากทางบกและทางเรือแล้ว อีกไม่นานจะมีระบบรางเหมือนสิงคโปร์ มีระบบคมนาคมครบทุกด้าน ในอีก 10–15 ปีข้างหน้า ภูเก็ตจะกลายเป็น ‘Monaco of Asia’ อย่างแท้จริง แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ หรอกครับ คุณต้องเข้าใจกฎหมาย ต้องมีทุน ต้องมีประสบการณ์ และที่สำคัญต้องมี ‘ลูกค้าที่เชื่อมั่นในตัวคุณ’" ต่อศักดิ์กล่าวสรุปในตอนท้าย



ภาพ: บริษัท การ์เด้น แอทลาส เบย์วิว วิลล่า จำกัด



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Marriott จับมือ แค๊ปสโตนฯ ลุย Branded Residences ที่ภูเก็ต เปิดตัวแบรนด์ Autograph Collection ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิกที่ PEYLAA Phuket

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine