เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ตั้งเป้าปี 68 รายได้ 4,000 ล้าน แม้เศรษฐกิจแย่ แต่ต่างชาติย้ายฐานมาไทย หนุน ‘โรงงาน-คลังสินค้าให้เช่า‘ โตต่อเนื่อง - Forbes Thailand

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ตั้งเป้าปี 68 รายได้ 4,000 ล้าน แม้เศรษฐกิจแย่ แต่ต่างชาติย้ายฐานมาไทย หนุน ‘โรงงาน-คลังสินค้าให้เช่า‘ โตต่อเนื่อง

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ มองตลาดโรงงาน-คลังสินค้าให้เช่ายังขยายตัวได้ต่อเนื่อง ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกจะแย่ แต่นักลงทุนต่างชาติเลือกย้ายฐานการผลิต-ขนส่ง มาแถบอาเซียนมากขึ้น หนุนรายได้ปี 68 ของกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม ที่ให้บริการทุกอย่างครบครัน ทั้งในไทย-อินโด-เวียดนาม โตทะยานกว่า 4,000 ล้านบาท


    พีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT กล่าวว่า แม้บริษัทฯ จะเจอความท้าทายจากภาษีการค้าระหว่างประเทศที่กระทบภาคอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์โดยตรง แต่เราเชื่อมั่นว่าภูมิภาคอาเซียนยังเป็นจุดหมายที่น่าสนใจของนักลงทุน 

    ด้วยปัจจัยความเป็นกลางทางภูมิรัฐศาสตร์ และความพร้อมด้านแรงงานที่สนับสนุนภาคการผลิตและการบริโภคภายในประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการเล็งเห็นประโยชน์จากการย้ายการลงทุนเข้ามาในภูมิภาคนี้ เพื่อลดความเสี่ยงจากสงครามการค้า ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว 

    ทั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งเน้นการบริหารจัดการอย่างยืดหยุ่นและรอบคอบ ตั้งเป้าปีงบการเงิน 2568 (ต.ค.2567-ก.ย.2568) สามารถสร้างรายได้ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อนอุตสาหกรรมแตะ 4,000 ล้านบาท โต 19% เมื่อเทียบกับปีก่อน 


    “ปัจจุบันบริษัทฯ มีพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าในไทยราว 3.4 แสน ตร.ม. และมีพื้นที่รวมที่ตั้งอยู่ในไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม สูงถึง 3.77 ล้านตร.ม. รวมถึงยังมีแลนด์แบงก์พร้อมในการพัฒนาสินค้าที่หลากหลาย รองรับดีมานด์ทุกรูปแบบของลูกค้า ถือเป็นจุดเด่นและข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับผู้เล่นรายอื่นในตลาด ไม่ว่าลูกค้าจะย้ายฐานการผลิตมาที่ไทย หรือต้องการขยายการลงทุนต่อเนื่องไปยังอินโดนีเซียหรือเวียดนาม บริษัทฯ พร้อมเป็นกองหนุนที่ร่วมผลักดันการเติบโตทางธุรกิจไปในทุกสเต็ปของลูกค้า” ผู้บริหารของ

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ กล่าว    


    สำหรับแผนขับเคลื่อนธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯ ดำเนินงานภายใต้แนวคิด “เติบโตอย่างมั่นคงด้วยกลยุทธ์การเน้นคุณค่า ท่ามกลางโลกที่ท้าทาย (Strengthening Growth Through a Value-Focused Strategy in a Challenging Global Landscape)” ประกอบด้วย

    1. บริหารพอร์ตโฟลิโออย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความแข็งแกร่งให้ยั่งยืน (Sustaining Value) โดยบริษัทฯ มีกลยุทธ์การให้เช่าและบริการที่ยืดหยุ่น ทั้งรูปแบบสัญญาเช่าระยะสั้น-ระยะยาวที่ปรับได้ตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุด รวมถึงปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์อาคารให้สามารถใช้งานได้ทั้งรูปแบบคลังสินค้าและอาคารโรงงาน เพื่อดึงดีมานด์และเพิ่มอัตราการเช่า 

    สอดรับกับสถานการณ์ตลาดที่ดีมานด์โรงงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งจากการให้บริการที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) พร้อมการดูแลอย่างใกล้ชิดตั้งแต่การให้คำปรึกษาถึงบริการหลังการขาย ส่งผลให้คะแนนความพึงพอใจของลูกค้าในปีที่ผ่านมาสูงถึง 91%

    2. สร้างคุณค่าพอร์ตโฟลิโออย่างต่อเนื่อง ด้วยอาคารที่พัฒนาภายใต้มาตรฐาน Frasers Property (Creating Value) บริษัทฯ มีโซลูชันการให้บริการที่รองรับความต้องการของลูกค้าทุกรูปแบบ ครอบคลุมการจัดหาที่ดินจนถึงการก่อสร้างอาคารอุตสาหกรรมมาตรฐานสากล ทั้งโรงงานและคลังสินค้าแบบพร้อมใช้ (Ready-Built) หลากหลายขนาด แบบสร้างความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit) แบบสร้างตามฟังก์ชันพร้อมใช้ (Built-to-Function) 

    ตลอดจนการร่วมทุนในการพัฒนาโครงการ ARAYA-The Eastern Gateway ที่พัฒนาเป็นระบบนิเวศเมืองอุตสาหกรรมและนวัตกรรมครบวงจรรูปแบบใหม่ เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมแห่งอนาคต


    ขณะเดียวกัน ยังมุ่งเน้นพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าตามมาตรฐานอาคารเขียวทั้งอาคารที่พัฒนาขึ้นใหม่และยกระดับอาคารเดิมให้เป็นไปตามมาตรฐาน LEED, EDGE, TREES สอดรับกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของกลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ที่ 100% ของอาคารสร้างใหม่ต้องได้รับมาตรฐานอาคารเขียว และ 85% ของสินทรัพย์ที่บริษัทเป็นเจ้าของและบริหารจัดการต้องได้รับการรับรอง หรืออยู่ระหว่างขอการรับรองมาตรฐานอาคารเขียวภายในปี 2573 รวมถึงมีโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและร่วมดูแลชุมชนที่อยู่โดยรอบธุรกิจอีกด้วย

    3. ปลดล็อกศักยภาพของพอร์ตโฟลิโอผ่านการบริหารจัดการทรัพย์สินเชิงกลยุทธ์ (Unlocking Value) บริษัทฯ มุ่งมั่นปลดล็อกคุณค่าพอร์ตโฟลิโอผ่านกลยุทธ์การบริหารจัดการทรัพย์สินในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการขายทรัพย์สินที่พัฒนาแล้วให้กับกองทรัสต์ FTREIT ซึ่งเป็นแนวทางที่ร่วมสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องไปด้วยกัน 

    รวมถึงมีการบริหารที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ เดินหน้าขยายโอกาสการเติบโตทางธุรกิจผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบ Joint Venture

    นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังใช้เทคโนโลยีเพิ่มศักยภาพการทำงานและการให้บริการด้านต่าง ๆ เช่น การติดตั้งระบบมิเตอร์อัจฉริยะที่สามารถวิเคราะห์รูปแบบการใช้พลังงาน หรือแอปพลิเคชัน FTX ที่ให้การติดต่อด้านงานซ่อมบำรุงระหว่างผู้เช่าและบริษัทเป็นไปอย่างรวดเร็วและไร้รอยต่อ พร้อมทั้งยกระดับการบริหารโลจิสติกส์พาร์คของบริษัทตามแนวคิด Smart & Sustainable Logistics Park


    “เฟรเซอร์สฯ มีบริการครบวงจรทั้งสินค้าและบริการที่อยู่บนทำเลยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ใน ไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม จึงเชื่อมั่นได้ว่าบริาษัทจะสามารถตอบโจทย์ทุกดีมานด์ของนักลงทุนได้อย่างครอบคลุม เป็นจุดแข็งที่ดึงดูดลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเดิมตามกลยุทธ์ - Secure Core, Embrace Future ของบริษัท นับสนุนการสร้างการเติบโตของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทยได้ในระยะยาว” พีระพัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย


ภาพ : เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ เผยกลยุทธ์ปี 68 ตั้งเป้ารายได้ 1.6 หมื่นล้าน โตจากปีก่อน 11%

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine