บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR เตรียมเปิดตัวบ้านเดี่ยว 4 โครงการใหม่เจาะตลาดลักซ์ชัวรี่ มูลค่ารวมกว่า 3,500 ล้านบาท ใช้กลยุทธ์ปักหมุดทำเลทอง 1 โครงการในกรุงเทพฯ (กาญจนาภิเษก-พุทธมณฑลสาย 1) และ 3 โครงการใน จ. ระยอง (บ้านฉาง) ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในพื้นที่ที่มีการเติบโตต่อเนื่อง
ไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) เผยว่า ปี 2568 นี้ ESTAR เตรียมเปิดตัว 4 โครงการใหม่ระดับลักซ์ชัวรี่ มูลค่ารวมกว่า 3,500 ล้านบาท โดยเน้นปักหมุดทำเลทองจำนวน 1 โครงการ ในกรุงเทพฯ (กาญจนาภิเษก-พุทธมณฑลสาย 1) และอีก 3 โครงการในพื้นที่ จ.ระยอง (บ้านฉาง)
“เราเน้นเจาะตลาดกลุ่ม Luxury ขายบ้านในระดับราคาตั้งแต่ 5-30 ล้าน ขึ้นไปมากยิ่งขึ้น โดยเป็นผลมาจาก 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ 1. Supply size ของบ้านหลังละ 10-30 ล้านบาท เติบโตมากถึง 200% เป็นตัวเลข 37,775 ยูนิต ภายในระยะเวลา 3 ปี (ปี 2565-2568) 2. Demand size ของบ้านราคา 10-30 ล้านบาท ยังโตต่อเนื่องถึง 78% และ 3. กลุ่มลูกค้าในระดับนี้มีความมั่นคงทางการเงินแม้ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันจะยังคงผันผวนต่อเนื่อง” ไพโรจน์ กล่าว

ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ ESTAR โดยใช้กลยุทธ์ Creating What's Different (สร้างสรรค์สิ่งที่แตกต่าง) ผ่าน 4 แกนหลัก ได้แก่
1. Segment เจาะกลุ่ม High Net Worth และ Mid-High Segment ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงและมองหาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เหนือระดับ
2. Speed วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงไตรมาส 3 - 4 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตลาดมีความคึกคักและพร้อมรับการลงทุน
3. Quality ยกระดับคุณภาพงานออกแบบทนำเสนอดีไซน์ระดับพรีเมียม เน้นฟังก์ชันการใช้งานตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง
4. Connection เชื่อมต่อทำเลศักยภาพสูงในทำเลทองทั้งในกรุงเทพฯ และระยอง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายและสร้างโอกาสในการเข้าถึงทำเลสำคัญ
"บ้านฉางไม่ใช่แค่ทำเลแห่งอนาคตในเชิงเศรษฐกิจ แต่ปัจจุบันก็มีศักยภาพด้านคุณภาพชีวิตอย่างชัดเจน ESTAR มั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดโอนกรรมสิทธิ์ได้ตามเป้า 2,000 ล้านบาท ภายในปีนี้ได้อย่างแน่นอน หลังจากแรงส่งของยอดโอนในครึ่งปีแรก และ Backlog ที่พร้อมส่งมอบมีแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท“ ไพโรจน์ กล่าว

สำหรับ 4 โครงการใหม่ระดับ Luxury ที่จะทยอยเปิดตัวในปีนี้ ได้แก่
1. แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ อู่ตะเภา - บ้านฉาง:
o มูลค่าโครงการ: 1,100 ล้านบาท
o ประเภท: บ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม
o ราคา: 11 - 20 ล้านบาท
o สถานะ: เปิดขายตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และสามารถทำยอดขายเฟสแรกไปแล้วกว่า 70%



2. แกรนด์ เธร่า พรีม่า บูรพาพัฒน์ - สุขุมวิท:
o มูลค่าโครงการ: 200 ล้านบาท
o ประเภท: บ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน บนที่ดิน 72 ตารางวา ตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง
o ราคา: 5 - 8 ล้านบาท
o สถานะ: เตรียมเปิดขายในไตรมาส 3 ปี 2568



3. โครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ เวลาน่า (บูรพาพัฒน์ - สุขุมวิท):
o มูลค่าโครงการ: 700 ล้านบาท
o ประเภท: บ้านเดี่ยวดีไซน์ French Villa ที่มอบความหรูหราและสง่างามเหนือกาลเวลา
o ราคา: 6 - 9 ล้านบาท
o สถานะ: เตรียมเปิดตัวในไตรมาส 4 ปี 2568
โดยทั้ง 3 โครงการนี้เน้นการออกแบบภายใต้แนวคิดที่ให้ความสำคัญกับความสงบ ร่มรื่น ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากศูนย์กลางอุตสาหกรรม สนามบิน และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทำให้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่มองหาความสมดุลระหว่างคุณภาพชีวิตและการเติบโตทางเศรษฐกิจของ จ.ระยอง ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงสุดของประเทศโดยในปี 2567 และมีรายได้เฉลี่ยต่อคนสูงถึงกว่า 1.03 ล้านบาท มี GPP รวมสูงถึง 1.08 ล้านบาท



4. แกรนด์ เวลาน่า คราวน์ กาญจนาภิเษกฯ - พุทธมณฑล สาย 1:
o มูลค่าโครงการ: 1,500 ล้านบาท
o ประเภท: บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่
o ราคา: 20 - 30 ล้านบาท
o จุดเด่น: โดดเด่นด้วยดีไซน์ Modern European Classic
ภายใต้แนวคิด “THE AESTHETICS OF SUCCESS” สะท้อนความเป็นมรดกแห่งความสำเร็จ ตอบโจทย์กลุ่มผู้ซื้อกำลังซื้อสูงที่มองหาความพิเศษและแตกต่าง
o สถานะ: จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาส 3 ปี 2568



“รากฐานที่แข็งแกร่ง”: ธุรกิจรายได้ประจำ มิติใหม่ของการเติบโต
ทั้งนี้ทาง ESTAR ไม่ได้หยุดอยู่แค่การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขาย แต่ยังก้าวไปอีกขั้นด้วยการ สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจในระยะยาวและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยมีแผนพัฒนาโครงการบ้านฉาง ได้แก่
• SEASTAR Serviced Apartment & Hotel: โครงการให้บริการบ้านเช่า 23 หลัง และห้องพัก 114 ยูนิต โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงกว่า 70% ซึ่งบ่งบอกถึงความต้องการที่แข็งแกร่ง และยังมีแผนขยายเพิ่มอีก 27 หลังในเฟสถัดไป เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
• The Sphere Sport Club: มี 2 สาขา ที่เปิดให้บริการเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ครบครัน และคลาสออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Tabata, Pilates, Kickboxing, Aqua Fit และ K-pop Dance ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพ ปัจจุบันรองรับสมาชิกองค์กรกว่า 50 บริษัท และสมาชิกใช้งานประจำกว่า 500 ราย โดย ESTAR ตั้งเป้ารายได้จากกลุ่มนี้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาทในปีนี้ และคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% ตลอด 5 ปีข้างหน้า
• “One Stop Living Service”: บริการครบวงจรที่ครอบคลุมการดูแลบ้าน รีโนเวต ซ่อมแซม ทำสวน และแม้กระทั่งบริการแม่บ้าน เพื่อสร้าง ระบบนิเวศการอยู่อาศัยแบบครบวงจรอย่างแท้จริง ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกบ้าน

ภาพ : ESTAR
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : บิ๊กดีลครั้งประวัติศาสตร์! “ไทยโอบายาชิ-เครือสหพัฒน์” ร่วมทุนสร้างโรงแรมหรูใจกลางราชดำริ
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine