AWC ทุ่มเงินก้อนใหญ่เป็นประวัติศาสตร์ของบริษัท ด้วยงบ 16,000 ล้านบาท เตรียมก่อสร้าง 'เวิ้งนครเกษม เยาวราช' โครงการมิกซ์ยูสที่ใหญ่ที่สุดในย่านไชน่าทาวน์ คาดพร้อมเปิดให้บริการเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ได้ในปี 2572
บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC จัดพิธีลงเสาเอก “เวิ้งนครเกษม เยาวราช” โครงการมิกซ์ยูสระดับแลนด์มาร์กที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของบริษัทบนพื้นที่ยุทธศาสตร์กว่า 14 ไร่ (22,400 ตารางเมตร) ใจกลางเยาวราช หนึ่งในย่านเก่าแก่และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯ และศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและการค้าที่สำคัญมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 18 ด้วยงบลงทุนสูงที่สุดของบริษัทกว่า 16,000 ล้านบาท
พร้อมพลิกโฉมไชน่าทาวน์สู่มิติใหม่ภายใต้แนวคิด “Legacy of the Past, Inspiration of Tomorrow” เชื่อมคุณค่าจากอดีตสู่แรงบันดาลใจแห่งอนาคต ด้วยพื้นที่ชอปปิ้งระดับพรีเมียม โรงแรมลักชัวรี 2 แห่ง ศาลาจีนร่วมสมัย และพื้นที่วัฒนธรรมเพื่อชุมชนและครอบครัว
วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) (AWC) กล่าวว่า "การพัฒนาโครงการ ‘เวิ้งนครเกษม เยาวราช’ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในฐานะโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ระดับแฟลกชิปแห่งแรกของ AWC ที่ทุกคนรอคอย ด้วยขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดและใช้งบลงทุนสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท ภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาสู่การเป็น AWC’s Lifestyle Destination ที่พร้อมสร้างสรรค์ประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ครบวงจรสำหรับทุกคน
และด้วยความร่วมมือจากพันธมิตรระดับโลกอย่าง เครืออินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป (IHG Hotels & Resorts) หนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านธุรกิจโรงแรม และไทย โอบายาชิ (Thai Obayashi) บริษัทก่อสร้างชั้นนำมาตรฐานระดับโลก รวมถึงชุมชนโดยรอบโครงการที่ให้การสนับสนุนการพัฒนาโครงการ ให้ ‘เวิ้งนครเกษม เยาวราช’ เป็นจุดหมายปลายทางแห่งความภาคภูมิใจของชาวเยาวราชและคนไทยทุกคน พร้อมร่วมสร้างกรุงเทพฯ ให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวยั่งยืนชั้นนำระดับโลก"
สำหรับโครงการ “เวิ้งนครเกษม เยาวราช” ตั้งอยู่บนพื้นที่ประวัติศาสตร์ขนาด 14 ไร่ ใจกลางย่านเยาวราช ด้วยพื้นที่การพัฒนากว่า 135,000 ตารางเมตร ที่ได้รับการออกแบบเพื่อสะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมไทย-จีนของย่านไชน่าทาวน์ ผ่านการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดั้งเดิมและการสร้างสรรค์องค์ประกอบใหม่ที่สอดคล้องกับความทันสมัยเพื่อพลิกฟื้นมรดกแห่งเยาวราช ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่สำคัญ 3 ส่วน ไม่ว่าจะเป็น
ศาลาจีน (Chinese Pavilion) ความสูง 8 ชั้น พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์และแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของไชน่าทาวน์ ที่ได้รับการออกแบบอย่างโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เปิดให้ผู้คนได้เข้ามาสักการะเพื่อเสริมโชคลาภและความเป็นสิริมงคล รวมถึงพิพิธภัณฑ์เวิ้งนครเกษมที่จัดแสดงภาพประวัติศาสตร์ ตลอดจนสิ่งของในวิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชน เสริมสร้างการเรียนรู้เชิงวัฒนธรรม และเพิ่มพื้นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจในใจกลางเมือง
โรงแรมระดับลักชัวรี (World-Class Hospitality) แห่งแรกของไชน่าทาวน์ จำนวน 2 โรงแรม รวมห้องพักกว่า 500 ห้อง ประกอบไปด้วย โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล (InterContinental) จำนวนกว่า 300 ห้องพัก โดดเด่นด้วยอาคารหลักสูง 10 ชั้น และอาคารพาณิชย์เก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์โครงสร้างเดิมและปรับปรุงอย่างพิถีพิถันให้กลายเป็นห้องสวีทสุดหรู
รวมถึงโรงแรมระดับลักชัวรีในเครือ IHG (Luxury Hotel) จำนวนกว่า 200 ห้องพัก บนพื้นที่อาคารหลักสูง 10 ชั้น และอาคารพาณิชย์อนุรักษ์บริเวณริมคลองโอ่งอ่าง นำเสนอความสง่างามเหนือกาลเวลา ผสมผสานระหว่างประเพณีและความทันสมัยอย่างไร้ที่ติ พร้อมด้วยการบริการ รวมถึงห้องอาหารและบาร์อันโดดเด่น
ศูนย์การค้าระดับไอคอนิค (Iconic Heritage And Luxury Retail) ด้วยพื้นที่รวมกว่า 68,000 ตารางเมตร ภายในพื้นที่อาคารหลัก พื้นที่พลาซ่ากลางแจ้งขนาดใหญ่ใจกลางไชน่าทาวน์บริเวณอาคารพาณิชย์อนุรักษ์ที่เป็นสัญลักษณ์โดดเด่นของเวิ้งนครเกษม และพื้นที่ชั้นใต้ดินในฐานะหนึ่งในพื้นที่ชอปปิ้งใต้ดินขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร รวบรวมร้านค้าแบรนด์เนมหรูชั้นนำ ร้านค้าคอนเซ็ปต์ใหม่ ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ คาเฟ่ และร้านค้าท้องถิ่นของชุมชนที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดี พร้อมลานจอดรถชั้นใต้ดินที่สามารถรองรับได้ถึง 750 คัน
“เรามั่นใจว่า เวิ้งนครเกษม เยาวราช จะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้มาเยือน พร้อมส่งเสริมให้เศรษฐกิจในชุมชนโดยรอบสามารถเติบโตไปด้วยกัน ซึ่งในส่วนของพื้นที่ที่ปล่อยเช่าสำหรับร้านค้านั้น มั่นใจได้ว่าจะตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคและผู้ประกอบการที่ต้องการนำเสนอประสบการณ์ในการช้อปปิ้งที่แตกต่างไปจากเดิมซึ่งแตกต่างกลุ่มธุรกิจที่เน้นขายผ่านทางออนไลน์ได้อย่างชัดเจน โดยโครงการมีกำหนดเริ่มต้นการก่อสร้างในปี 2568 และคาดการณ์ได้ว่าจะพร้อมเปิดตัวแบบเป็นทางการอย่างยิ่งใหญ่ได้ในปี 2572” ผู้บริหารของ AWC กล่าวทิ้งท้าย
ภาพ : AWC
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : สรุปเทรนด์เช่า - ซื้ออสังหาฯ ปี 67 คนยังหาที่อยู่ใน ‘กรุงเทพฯ’ มากที่สุด โดยเฉพาะทำเลติด ‘BTS สายสีเขียว’
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine