สรุปเทรนด์เช่า - ซื้ออสังหาฯ ปี 67 คนยังหาที่อยู่ใน ‘กรุงเทพฯ’ มากที่สุด โดยเฉพาะทำเลติด ‘BTS สายสีเขียว’ - Forbes Thailand

สรุปเทรนด์เช่า - ซื้ออสังหาฯ ปี 67 คนยังหาที่อยู่ใน ‘กรุงเทพฯ’ มากที่สุด โดยเฉพาะทำเลติด ‘BTS สายสีเขียว’

แม้ภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 ยังไม่ฟื้นตัวตามที่หลายฝ่ายคาดกันไว้ หลังจากทั้งฝั่งผู้บริโภคและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องโต้คลื่นความท้าทายตลอดทั้งปี โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากกำลังของซื้อผู้บริโภคที่ชะลอตัวและส่งผลต่อยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ตามไปด้วย แผนการซื้อบ้านจึงยังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนของหลายคน


    ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ยังคงมีปัจจัยบวกหลังจากภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ออกมาเพิ่มเติมในเดือนเมษายน 2567 และที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ในเดือนตุลาคม 2567 ถือเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ตลาดที่อยู่อาศัยมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวในอนาคต

    ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) เผยข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัย DDproperty Thailand Consumer Sentiment Study รอบล่าสุดที่พบว่า ผู้บริโภคเกือบครึ่ง (48%) มองว่าทำเลที่ตั้งของโครงการถือเป็นปัจจัยภายนอกโครงการที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัยมากที่สุด รองลงมาคือต้องการโครงการที่เดินทางได้สะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ (44%)

    ข้อมูลเชิงลึกจากผู้เข้าเยี่ยมชมในเว็บไซต์ www.DDproperty.com ในรอบปี 2567 (เก็บข้อมูลระหว่างเดือนมกราคม - ธันวาคม 2567) ยังสะท้อนเทรนด์ความต้องการซื้อและเช่าที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคชาวไทยทั่วประเทศ พร้อมอัปเดตทำเลศักยภาพที่น่าจับตามอง ดังนี้



‘กรุงเทพฯ’ ยืนหนึ่งจังหวัดยอดนิยมของคนหาบ้าน

    ‘กรุงเทพฯ’ ยังคงครองความนิยมเป็นจังหวัดที่ได้รับความสนใจซื้อ/เช่าทั่วประเทศมากที่สุดในรอบปี 2567 ขณะที่หัวเมืองท่องเที่ยวอย่าง ‘เชียงใหม่’ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจนครองอันดับ 2 ตามมาด้วยอันดับ 3 นนทบุรี, อันดับ 4 ภูเก็ต, อันดับ 5 ชลบุรี, อันดับ 6 ปทุมธานี, อันดับ 7 สมุทรปราการ, อันดับ 8 ประจวบคีรีขันธ์, อันดับ 9 ระยอง และอันดับ 10 ขอนแก่น

    ทั้งนี้ หัวเมืองท่องเที่ยวกลับมาติดอันดับต้นๆ จังหวัดยอดนิยมที่มีการค้นหาที่อยู่อาศัยมากขึ้น หลังจากตลาดอสังหาฯ ในปี 2567 ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวส่งผลให้จำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาในไทยเพิ่มมากขึ้น หัวเมืองท่องเที่ยวเหล่านี้จึงได้รับความสนใจซื้อ/เช่าเพื่อใช้เป็นบ้านพักตากอากาศหรือรองรับการอยู่อาศัยในวัยเกษียณเพิ่มขึ้นตามไปด้วย



ทำเลรถไฟฟ้าน่าจับตามอง ‘BTS อ่อนนุช’ มาแรงเกินต้าน

    การเดินทางด้วยรถไฟฟ้ายังคงเป็นการสัญจรที่สะดวกและรวดเร็วตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมืองหลวง ปัจจุบันมีการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าให้ครอบคลุมการเดินทางได้มากขึ้น ส่งผลให้ทำเลแนวรถไฟฟ้าทั้งเส้นทางที่เปิดให้บริการแล้วและอยู่ระหว่างการก่อสร้างมีความต้องการซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

    สำหรับ 10 อันดับ ทำเลแนวรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT ที่ได้รับความสนใจซื้อ/เช่ามากที่สุดในรอบปี 2567 ได้แก่

    อันดับ 1 BTS อ่อนนุช

    อันดับ 2 BTS พร้อมพงษ์

    อันดับ 3 BTS เอกมัย

    อันดับ 4 BTS ทองหล่อ

    อันดับ 5 BTS อโศก

    อันดับ 6 MRT พระราม 9

    อันดับ 7 BTS อารีย์

    อันดับ 8 MRT ลาดพร้าว

    อันดับ 9 MRT ห้วยขวาง

    อันดับ 10 BTS สะพานควาย

    จากข้อมูล พบว่า 7 ใน 10 เป็นสถานีที่อยู่ในโครงการรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ซึ่งเปิดให้บริการเป็นสายแรกของประเทศไทยและเชื่อมต่อการเดินทางสู่ใจกลางเมืองซึ่งเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่

    ส่วนอันดับ 1 อย่าง BTS อ่อนนุช นั้นเป็นทำเลศักยภาพแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยมากมาย ทั้งเป็นย่านธุรกิจ แหล่งช้อปปิง การเดินทางที่หลากหลาย และยังเป็นสถานีแรกของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายไปยังสถานีเคหะฯ ในจังหวัดสมุทรปราการ อีกทั้งโครงการที่อยู่อาศัยใน

    นอกจากนี้ ข้อมูลของกรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม พบว่า รถไฟฟ้าสายสีเขียวมีปริมาณผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสูงที่สุดในปี 2567 สะท้อนให้เห็นถึงดีมานด์ที่อยู่อาศัยและโอกาสการเติบโตในเชิงธุรกิจที่น่าจับตามอง



‘เขตวัฒนา’ อันดับ 1 ทำเลทองในเมืองหลวง

    กรุงเทพฯ เป็นเป้าหมายหลักของผู้พัฒนาอสังหาฯ ที่ต่างเปิดตัวโครงการในหลากหลายทำเลให้ครอบคลุมความต้องการซื้อ/เช่าทุกระดับราคา ข้อมูลการเข้าชมประกาศอสังหาฯ พบว่า ‘เขตวัฒนา’ ยังได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มคนหาบ้านต่อเนื่องอีกปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนทั้งการเดินทาง สาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย

    สำหรับ 10 อันดับ ทำเลในกรุงเทพฯ ที่มีความต้องการ ซื้อ’ มากที่สุดในรอบปี 2567 ได้แก่

    อันดับ 1 เขตวัฒนา

    อันดับ 2 เขตจตุจักร

    อันดับ 3 เขตห้วยขวาง

    อันดับ 4 เขตคลองเตย

    อันดับ 5 เขตประเวศ

    อันดับ 6 เขตบางกะปิ

    อันดับ 7 เขตสวนหลวง

    อันดับ 8 เขตบางนา

    อันดับ 9 เขตพระโขนง

    อันดับ 10 เขตบางเขน


    ส่วน 10 ทำเลในกรุงเทพฯ ที่มีความต้องการ ‘เช่า’ มากที่สุดในรอบปี 2567 ได้แก่

    อันดับ 1 เขตวัฒนา 

    อันดับ 2 เขตคลองเตย 

    อันดับ 3 เขตห้วยขวาง

    อันดับ 4 เขตราชเทวี 

    อันดับ 5 เขตพระโขนง 

    อันดับ 6 เขตปทุมวัน

    อันดับ 7 เขตจตุจักร

    อันดับ 8 เขตบางนา

    อันดับ 9 เขตบางรัก 

    อันดับ 10 เขตสาทร


ย่าน ‘จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย’ ขึ้นแท่นทำเลน่าจับตามอง

    ทำเลใกล้สถานศึกษาถือเป็นอีกตลาดที่ผู้พัฒนาอสังหาฯ หันมาให้ความสำคัญมากขึ้น มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนอย่างนักเรียน-นักศึกษา ผู้ปกครอง และบุคลากรในสถานศึกษาที่ต้องการความสะดวกในการเดินทาง และสามารถลงทุนระยะยาวโดยประกาศขายหรือปล่อยเช่าได้เรื่อยๆ ส่งผลให้เทรนด์แคมปัสคอนโดฯ (Campus Condo) หรือคอนโดฯ ในทำเลใกล้สถานศึกษามีการเติบโตต่อเนื่อง

    ทำเลในละแวก ‘จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย’ มีการค้นหาที่อยู่อาศัยเพื่อซื้อ/เช่ามากที่สุด เนื่องจากเป็นย่านธุรกิจสำคัญใจกลางเมือง ส่งผลให้กลายเป็นทำเลที่มีราคาที่ดินสูงสุดในกรุงเทพฯ



    ผลการสำรวจราคาที่ดินในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เผยว่า ที่ดินบริเวณสยามสแควร์ ชิดลม เพลินจิต ครองอันดับ 1 ราคาที่ดินสูงที่สุดของประเทศไทย โดยประมาณการไว้ที่ 3.75 ล้านบาทต่อตารางวา หรือไร่ละ 1,500 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567

    สำหรับ 5 ทำเลใกล้สถานศึกษาที่ได้รับความสนใจ ซื้อ’ มากที่สุดในรอบปี 2567 ได้แก่

    อันดับ 1 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

    อันดับ 2 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

    อันดับ 3 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

    อันดับ 4 มหาวิทยาลัยศรีปทุม

    อันดับ 5 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 

 

    ขณะที่ 5 ทำเลใกล้สถานศึกษาที่ได้รับความสนใจ เช่า’ มากที่สุดในรอบปี 2567 ได้แก่

    อันดับ 1 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

    อันดับ 2 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

    อันดับ 3 มหาวิทยาลัยศรีปทุม

    อันดับ 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์)

    อันดับ 5 Bangkok Prep International School

 

ผู้ซื้อมองหาที่อยู่ราคาไม่เกิน 2 ล้าน สะท้อน Real Demand

    จากข้อมูลฝั่งตลาดซื้ออสังหาฯ พบว่า ผู้ที่วางแผนซื้อที่อาศัยทั่วประเทศในรอบปี 2567 เลือกใช้ฟิลเตอร์เพื่อค้นหาบ้าน/คอนโดฯ ที่มี 2 ห้องนอนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กที่ต้องการแยกสัดส่วนที่พักอาศัยให้ชัดเจน รองลงมาอันดับ 2 ได้แก่ ที่อยู่อาศัย 3 ห้องนอน และอันดับ 3 สนใจซื้อที่อยู่อาศัย 1 ห้องนอน

    ทั้งนี้ ผู้ซื้อเกือบ 2 ใน 3 (64%) มองหาโครงการที่อยู่อาศัยที่ตกแต่งให้ครบแบบพร้อมเข้าอยู่ (Fully Furnished) มากที่สุด เนื่องจากช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการตกแต่ง ทำให้วางแผนการเงินได้ง่ายขึ้น และสามารถย้ายเข้าอยู่ได้ทันที ขณะที่ 28% เลือกโครงการที่ไม่มีการตกแต่งใดๆ เพื่อที่จะได้แต่งบ้านในสไตล์ที่ชอบเองทั้งหมด ส่วนอีก 22% ต้องการโครงการที่ตกแต่งให้บางส่วน (Fully Fitted) เท่านั้น

    เมื่อพิจารณาด้านราคาที่ผู้ซื้อค้นหาบนเว็บไซต์ DDproperty มากที่สุด พบว่าระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทมีการค้นหามากที่สุด สะท้อนให้เห็นความต้องการของผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) ที่ต้องการค้นหาที่อยู่อาศัยในราคาที่เอื้อมถึง และไม่จำเป็นต้องอยู่ใจกลางเมืองอีกต่อไป เนื่องจากมีการเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายไปยังพื้นที่ชานเมืองมากขึ้น ผู้บริโภคจึงสามารถเลือกซื้อบ้าน/คอนโดฯ ในทำเลชานเมืองซึ่งมีราคาย่อมเยากว่าได้ ซึ่งช่วยลดภาระทางการเงินได้มากพอสมควร

    ระดับราคาที่อยู่อาศัยที่ชาวไทยสนใจ ซื้อ’ มากที่สุดในรอบปี 2567 ได้แก่

    อันดับ 1 ระดับราคา 1,000,000 - 2,000,000 บาท 

    อันดับ 2 ระดับราคา 500,000 - 1,500,000 บาท 

    อันดับ 3 ระดับราคา 500,000 - 2,000,000 บาท



ผู้เช่ามองหาโครงการตกแต่งพร้อมอยู่ ค่าเช่าไม่เกิน 15,000 บาท

    ความท้าทายทางการเงินถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้เทรนด์การเช่าที่อยู่อาศัยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคที่ต้องการลดภาระหนี้ที่ไม่จำเป็นในยุคที่เศรษฐกิจไม่ฟื้นตัวจึงเลือกเช่าบ้าน/คอนโดฯ แทนการซื้อ

    ข้อมูลจากผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ฯ พบว่า ผู้ที่วางแผนเช่าที่อาศัยทั่วประเทศในรอบปี 2567 ค้นหาบ้าน/คอนโดฯ ที่มี 2 ห้องนอนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 คล้ายกับความต้องการของผู้ซื้อ รองลงมา อันดับ 2 สนใจเช่าที่อยู่อาศัย 1 ห้องนอน และอันดับ 3 สนใจเช่าที่อยู่อาศัย 3 ห้องนอน ซึ่งความต้องการเหล่านี้แตกต่างกันไปตามจำนวนสมาชิกของแต่ละครอบครัวเป็นหลัก

    1 ใน 4 (80%) ของผู้เช่าที่อยู่อาศัยต้องการโครงการที่ตกแต่งให้ครบแบบพร้อมเข้าอยู่ (Fully Furnished) มากที่สุด เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการซื้อเฟอร์นิเจอร์ อีกทั้งยังสะดวกทั้งในการย้ายเข้า-ออกหากต้องโยกย้ายทำเลในอนาคต ส่วน 18% สนใจโครงการที่ตกแต่งให้บางส่วน (Fully Fitted) มีผู้เช่าเพียง 9% เท่านั้นที่เลือกโครงการที่ไม่มีการตกแต่งใดๆ เลย

    ขณะที่ระดับค่าเช่าส่วนใหญ่ที่มีผู้เช่าค้นหามากที่สุดอยู่ในช่วงไม่เกิน 15,000 บาท/เดือน ซึ่งถือเป็นค่าเช่าที่อยู่ในระดับปานกลาง เหมาะสมและตอบโจทย์ผู้ที่มองหาบ้าน/คอนโดฯ ให้เช่าในทำเลแนวรถไฟฟ้า มีสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ใช้สอยครบครัน ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับการซื้อที่ต้องมีภาระหนี้ในระยะยาว และยังต้องกังวลกับการปรับขึ้นของดอกเบี้ยที่ส่งผลต่อราคาผ่อนบ้าน/คอนโดฯ อีกด้วย

    ระดับราคาที่อยู่อาศัยที่ชาวไทยสนใจ ‘เช่า’ มากที่สุดในรอบปี 2567 ได้แก่

    อันดับ 1 ระดับค่าเช่า 8,000 - 15,000 บาท/เดือน

    อันดับ 2 ระดับค่าเช่า 10,000 - 15,000 บาท/เดือน 

    อันดับ 3 ระดับค่าเช่า 6,000 - 8,000 บาท/เดือน


ภาพ: DDproperty


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ตลาดออฟฟิศให้เช่ากำลัง Oversupply หลังอุปทานสะสมสูง แต่คนทำงานแบบไฮบริด

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine