แอสเซทไวส์ ตั้งเป้าปี 68 ยอดขาย 19,500 ล้าน โตจากปีก่อน 20% เตรียมเปิดตัว 10 โครงการ รุกตลาดภูเก็ตต่อเนื่อง พร้อมขยายธุรกิจใหม่เพิ่มทั้งเอนเตอร์เทนเมนต์, คอมมูนิตี้มอลล์ และ Health & Wellness
กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เผยว่า ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 20 แอสเซทไวส์สามารถทำยอดขายปี 2567 ได้ถึง 19,330 ล้านบาท สูงเกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ และเติบโตขึ้นกว่า 17% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ในปี 2568 แอสเซทไวส์ เตรียมแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่ารวม 22,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 8 โครงการ มูลค่ารวม 20,500 ล้านบาท ผ่านแบรนด์หลักอย่าง KAVE, ATMOZ และ MODIZ พร้อมสานต่อความสำเร็จของโครงการ Leisure Residences ในภูเก็ตแบรนด์ THE TITLE ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE ในเครือแอสเซทไวส์ และโครงการแนวราบ 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท เตรียมขยายแบรนด์ THE TITLE สู่โครงการ Luxury Villa เป็นครั้งแรกอีก 2 โครงการบนทำเลหาดในยางและเชิงทะเล
"ในส่วนของคอนโดเพื่อการลงทุนจะเห็นได้ว่ามีการเติบโตเพิ่มมากขึ้นหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงสู่ภาะปกติ อีกทั้งความต้องการของบรรดานักศึกษาต่างชาติในการพักอาศัยอยู่ตามคอนโดติดสายรถไฟฟ้าสีต่างๆ เพื่อการเดินทางไปสถานศึกษาได้อย่างสะดวกก็มีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการลงทุนสำหรับปล่อยเช่าก็น่าจะโตเพิ่มขึ้นตามไปด้วยเราจึงวางโครงการใหม่ไว้ตามทำเลสถานศึกษาให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการรุกตลาดอสังหาฯ และธุรกิจใหม่อื่นๆ ที่มีศักยภาพในจ.ภูเก็ต ก็น่าจะช่วยหนุนให้รายได้ในปีนี้เป็นไปตามเป้าได้มากขึ้น" ผู้บริหารของแอสเซทไวส์ กล่าวเสริม
สำหรับเป้าหมายยอดขายและรายได้ในปี 2568 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายอยู่ที่ 19,500 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้ 10,500 ล้านบาท เติบโต 20% จากปี 2567 ขณะเดียวกัน แอสเซทไวส์ยังมีโครงการสร้างเสร็จใหม่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2568 ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่ารวม 14,050 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) สิ้นปี 2567 มูลค่ารวมกว่า 25,200 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นโครงการในกรุงเทพฯ ปริมณฑล จำนวน 12,600 ล้านบาท โครงการในทำเล EEC จำนวน 2,700 ล้านบาท และโครงการในภูเก็ตอีกกว่า 9,900 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้สร้างความแข็งแกร่งให้บริษัทอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2570
ทั้งนี้ บริษัทยังขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) โดยเน้นลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพและเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของคนทุกเจเนอเรชันผ่านบริษัทย่อยในเครือ เริ่มจากธุรกิจ Health & Wellness ผ่าน WHB ให้บริการ Rocket Fitness ฟิตเนสทางเลือกใหม่ในราคาและทำเลเข้าถึงง่าย และ Vitala คลินิกกายภาพบำบัดและฟื้นฟูร่างกาย
และมีแผนขยายสาขาต่อเนื่องในธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ ผ่าน ZAAP World ในการจัดคอนเสิร์ตและอีเวนต์ต่างๆ โดยในปีที่ผ่านมาได้จัดคอนเสิร์ตและอีเวนต์ไปแล้วกว่า 40 งาน อาทิ SangSom MOONLAB งานอาร์ตแลนด์มาร์กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปี, SkyTrain Music Fest เทศกาลดนตรีบนรถไฟฟ้าครั้งเเรกในเอเชีย เป็นต้น ธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์และรีเทล ผ่าน Treasure M โดยพัฒนา Mingle Mall แหล่งไลฟ์สไตล์ที่รวมร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์กีฬาในร่ม ซึ่งล่าสุดเปิด 'Mingle Naiyang' จ.ภูเก็ต
นอกจากนี้ แอสเซทไวส์ยังมุ่งสร้างความสุขอย่างยั่งยืนให้กับสังคม ลูกค้า และ Stakeholder ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม นำแนวคิด GrowGreen มาปฏิบัติจริงในองค์กร โครงการที่อยู่อาศัย และขยายผลสู่ชุมชนต่างๆ ด้านสังคม โดยร่วมกับมูลนิธิก้าวคนละก้าว ซึ่งมีตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย เป็นประธานมูลนิธิฯ พร้อมสนับสนุนเงินจำนวน 10 ล้านบาท ให้กับโครงการ 'ก้าวเพื่อน้องปีที่ 5' ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่หลุดออกจากระบบการศึกษา ผ่านกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของแอสเซทไวส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโอกาสพิเศษนี้บริษัทได้เปิดตัวพรีเซนเตอร์ โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร และไบรท์-พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ คู่รักนักเปียโนและผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ที่มีคาแรคเตอร์สมาร์ท อบอุ่น ที่สร้างความสุขและรอยยิ้มให้กลุ่มคนทุกเจเนอเรชัน มาร่วมสะท้อนตัวตนของแบรนด์แอสเซทไวส์ และถ่ายทอดแนวคิด 'การสร้างความสุข ให้ทุกจังหวะของชีวิต' โดยการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา AssetWise 20 years of Happiness ผ่านโซเชียลมีเดียครั้งแรก มีขึ้นในวันที่ 5 ก.พ.นี้ สามารถรับชมได้ทาง Facebook Page: AssetWise และ YouTube: AssetWise
ภาพ : แอสแซทไวส์
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : แสนสิริ กางแผนปี 68 ตั้งเป้ายอดขาย 53,000 ลบ. ยอดโอน 46,000 ลบ. พร้อมเปิดตัว 29 โครงการใหม่
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine