เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2563 เติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์
โสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมของบริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบัน FPT มีอัตราการเช่าพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 82
นอกจากนี้ ยังมีความต้องการคลังสินค้าแบบ Build-to-Suit ทั้งจากการขยายธุรกิจของกลุ่มผู้เช่าเดิม และดีมานด์ใหม่จากกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคที่หมุนเวียนเร็ว (Fast Moving Consumer Goods – FMCG) อี-คอมเมิร์ซ และอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งมีบทบาทในการขับเคลื่อนธุรกิจในช่วงนี้ นอกจากนั้น ในปีนี้บริษัทฯ มั่นใจผลการดำเนินงานตามเป้าโดยเฉพาะการพัฒนาโครงการ Build-to-Suit รวมทั้งสิ้น 150,000 ตารางเมตร
นอกจากนี้ FPT ยังเตรียมรับรู้กำไรจากการขายที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซีให้แก่กลุ่มบริษัท ไมเดีย จากประเทศจีน เพื่อพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ใหญ่ที่สุดของไมเดียนอกประเทศจีน ทั้งนี้ FPT เตรียมเปิดที่ดินเพิ่มเติมในบริเวณใกล้เคียง พร้อมรองรับความต้องการของซัพพลายเชนของกลุ่มไมเดียที่จะย้ายฐานการผลิตมาประเทศไทยอีกจำนวนมาก
และสำหรับปีงบประมาณ 2563 นี้ บริษัทฯ ยังตั้งเป้าขายสินทรัพย์ให้แก่กองทรัสต์ FTREIT มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท
โดย กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม โชว์ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 (ตุลาคม-ธันวาคม 2562) แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง รายได้จากค่าเช่าและค่าบริการรวม 442 ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 4.60 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่อาคารโรงงานสูงสุดในรอบ 5 ปี จากร้อยละ 72 ในปีที่ผ่านมา เป็นร้อยละ 75 และมีอัตราการเช่าพื้นที่คลังสินค้าสูงขึ้นอย่างน่าพอใจ จากร้อยละ 81ในปีก่อน เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 86 รับอานิสงค์จากการพัฒนาพื้นที่อีอีซี และการโยกย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนในช่วงที่ผ่านมา
ด้าน กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย สร้างรายได้รวม 3,546 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ 2563 ปรับตัวลงเล็กน้อย ร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากภาวะตลาดภายหลังมาตรการคุมเข้มสินเชื่อที่อยู่อาศัย LTV อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลกระทบอาจคลี่คลายลงหลังจากการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมา โดยในเดือนธันวาคม 2562 โกลเด้นแลนด์มียอดขายพรีเซลล์รวมมูลค่า 7,100 ล้านบาท จากโครงการที่ดำเนินการอยู่ 58 โครงการ และมียอดบ้านที่ได้รับการจองแล้วและรอโอนอยู่ที่ 3,654 ล้านบาท
ขณะที่ กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ มีการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.34 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากรายได้ค่าเช่าที่สูงขึ้นของอาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ และโครงการสามย่าน มิตรทาวน์
โดยงบการเงินรวมของ FPT สำหรับไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 มีรายได้รวม 4,609 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 308 ล้านบาท โดยในไตรมาสนี้หากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จะไม่มีรายการขายทรัพย์เข้ากองทรัสต์ ดังนั้น หลังปรับรายการขายทรัพย์ดังกล่าวในปีที่แล้วเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 1/2563 แล้ว รายได้รวมจะลดลงเพียงเล็กน้อยที่ 3.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัย
“ไตรมาส 1/2563 นับเป็นการเริ่มต้นปี 2563 ที่แข็งแกร่ง ด้วยผลการดำเนินงานเกินความคาดหมาย โดย FPT จะเดินหน้าพัฒนาโครงการมูลค่าสูงหลากหลายโครงการอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมองหาโอกาสในการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มเติม และสร้างสรรค์มูลค่าเพิ่มทางธุรกิจร่วมกันกับโกลเด้นแลนด์ ซึ่งจะสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท” โสภณกล่าว
อ่านเพิ่มเติมไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine