บทสัมภาษณ์พิเศษ Shojiro Kojima กรรมการผู้จัดการ Mitsubishi Estate Asia ในเครือ Mitsubishi Estate Group - Forbes Thailand

บทสัมภาษณ์พิเศษ Shojiro Kojima กรรมการผู้จัดการ Mitsubishi Estate Asia ในเครือ Mitsubishi Estate Group

FORBES THAILAND / ADMIN
10 Jan 2018 | 04:49 PM
READ 3790
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยได้รับความสนใจจากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาอะไรคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้บริษัทญี่ปุ่นและ MitsubishiEstate Group สนใจตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ไทยเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราคาดหวังว่าจะยังคงรักษาระดับการเติบโตเช่นนี้ได้ต่อไป โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เราเห็นการย้ายถิ่นของประชากรจากต่างจังหวัดเข้ามาอยู่อาศัยในกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำไปสู่การเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดอสังหาริมทรัพย์เราจึงมองว่าตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ มีการเติบโตที่น่าสนใจ น่าเข้ามาลงทุน บริษัทอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่นอื่นๆ ก็มีความเห็นเหมือนกับเรา ดังนั้น เราจึงเห็นบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งเข้ามาลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย สิ่งใดคือปัจจัยที่ Mitsubishi Estate Group ใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาว่าจะเข้าไปลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเทศใด ปัจจัยสำคัญข้อแรกเลยก็คือการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่เรามองหาลู่ทางเข้าไปลงทุนนอกจากนั้น เรายังให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดความรู้และความเชี่ยวชาญของเราที่สั่งสมจากการดำเนินธุรกิจในญี่ปุ่นด้วย อย่างไรก็ตามในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เรายังเห็นว่าความเข้าใจกฎระเบียบและประเพณีปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจในแต่ละประเทศก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นเราจึงเห็นว่าการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรภายในประเทศเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญ ในแต่ละปีหรือแต่ละช่วงเวลา Mitsubishi Estate Group ได้ตั้งงบลงทุนในต่างประเทศไว้ที่เท่าไร งบลงทุนในต่างประเทศของ Mitsubishi Estate Group รวม 3 ปี (2018-2020) อยู่ที่ 4 แสนล้านเยน (ประมาณ 1.17 แสนล้านบาท) โดยเป็นงบลงทุน ในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ยุโรป จีน และประเทศอื่นๆ ในอาเซียน Mitsubishi Estate Group พอจะเรียงลำดับขนาดเม็ดเงินลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศได้หรือไม่ เรามีการลงทุนในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรฝรั่งเศส เยอรมนี จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ เวียดนามมาเลเซีย อินโดนีเซีย เมียนมา ออสเตรเลีย และไทย โดยสหรัฐอเมริกาจะมีการลงทุนที่มากที่สุดอันดับ 2 คือสหราชอาณาจักร และในอนาคตเรามีแผนจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในเอเชียให้มากขึ้นเนื่องจากเห็นว่าตลาดเอเชียมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว งบลงทุนในประเทศไทยอยู่ที่เท่าไร คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของงบลงทุนในต่างประเทศทั้งหมด แม้จะไม่สามารถระบุตัวเลขการลงทุนโดยรวมและสัดส่วนงบลงทุนได้อย่างชัดเจน แต่พอจะบอกได้ว่า เรายังคงถือว่าไทยเป็นเป้าหมายหลักในการลงทุนของเราประเทศหนึ่ง ซึ่งเรากับ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) มีแผนจะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมด้วยกันหลายโครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ2 หมื่นล้านบาทต่อปี Mitsubishi Estate Group คาดหวังอะไรจากการเข้ามาลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทย และการเป็นพันธมิตรร่วมลงทุนกับ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) โดยรวมๆ แล้วเราค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้จากการร่วมลงทุนกับเอพีฯ ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา ซึ่งเราอยากจะเดินหน้าทำงานร่วมกับเอพีฯ ต่อไปในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อป้อนตลาดอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ในอนาคต เรามีเป้าหมายที่จะขยับขยายพื้นที่ทำเลในการพัฒนาโครงการออกไปจากย่านใจกลางของกรุงเทพฯ อีกเล็กน้อยรวมทั้งจะเพิ่มความหลากหลายให้กับรูปแบบของคอนโดมิเนียมที่จะพัฒนาป้อนตลาดอีกด้วย Mitsubishi Estate Group ได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการร่วมลงทุนและตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย เราพบว่ามีความคล้ายคลึงกันบางอย่างในส่วนของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ความเชี่ยวชาญกันไปในระยะหนึ่ง เราก็ได้เรียนรู้ว่ามันมีกฎระเบียบและประเพณีปฏิบัติในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ที่เป็นลักษณะเฉพาะตัว เราจึงตั้งใจที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์กับเอพีฯ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นและเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากพวกเขาคุณคิดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยได้ประโยชน์อะไรบ้างจากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่นได้มีการแบ่งปันองค์ความรู้ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการก่อสร้างที่นำมาสู่โครงการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพในประเทศไทย สำหรับ Mitsubishi Estate Group ความเสี่ยงและโอกาสในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยมีอะไรบ้าง ความเสี่ยงที่เราเห็นมีอยู่ 2 อย่างอย่างแรกคือ ตลาดคอนโดมิเนียมมีการแข่งขันสูง จำนวนโครงการใหม่มีการพัฒนาออกมาเรื่อยๆ ทั้งจากผู้ประกอบการในไทยเอง และโครงการร่วมทุนจากต่างประเทศความเสี่ยงอีกอย่างก็คือ ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงมีความจำเป็นต้องมีความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน ต้องปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนเปลงไม่หยุดนิ่ง ตามสภาวะเศรษฐกิจของประเทศและไลฟ์สไตล์ของคนไทย มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นใดบ้างที่ Mitsubishi Estate Group สนใจอยากจะลงทุนในประเทศไทยในอนาคตและเพราะเหตุใด เรามีความสนใจในการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทในประเทศไทยเนื่องจากเห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยมีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งและคิดว่าจะเติบโตต่อเนื่องสม่ำเสมอต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ เรายังเชื่อว่าเราจะนำความรู้ความชำนาญที่เรามีมาพัฒนาสร้างสรรค์โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพให้กับคนไทย โดย บุญธร ศิริสวาสด์
ติดตามการลงทุนและการใช้ชีวิตรอบโลกได้ที่ ForbesLife Magazine ฉบับพิเศษประจำเดือน พฤศจิกายน 2560 ได้ในรูปแบบ e-Magazine