“สังคมผู้สูงวัย” ตลาดกำลังซื้อสูงจากกลุ่ม Baby Boomer และ Gen X ช่วงวัยตั้งแต่ 50 ขึ้นไปกลายเป็นตลาดเป้าหมายของหลายธุรกิจ เพราะมีความพร้อมในด้านกำลังซื้อ และสุขภาพที่ดีกว่าคนวัยเดียวกันในยุคก่อน ด้วยเหตุนี้สินค้า-บริการหลากหลายจึงพุ่งเป้าตอบสนองคนกลุ่มนี้มากขึ้นกลุ่มนารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ จึงปัดฝุ่นคอนโดฯ เก่าสู่โครงการ "นายาเรสซิเดนซ์"
นายาเรสซิเดนซ์ Independent Living ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นโครงการล่าสุดที่กลุ่มนารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ ลุกขึ้นมาปรับโฉมคอนโดฯ ยุคเริ่มแรกอย่าง “ริเวอร์ไรน์ เพลส” (Riverine Place) คอนโดมิเนียมที่สร้างในยุคก่อนวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ที่ยังเหลือพื้นที่ขายอีก 1 อาคาร มาจัดเป็นบ้าน (ห้องชุดในคอนโดมิเนียม) สำหรับผู้สูงวัยซึ่งทางกลุ่มเรียกว่า “วัยอิสระ” นิยามสำหรับผู้มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ในกลุ่ม Baby Boomer และรอยต่อ Gen X ที่ยังมีสุขภาพแข็งแรง โดยนำพื้นที่ 7 ชั้นของอาคารริวเวอร์ไรน์ เพลส มาปรับปรุงเป็นห้องชุดสำหรับวัยอิสระจำนวน 70 ยูนิต และทำตลาดในลักษณะการเช่าแบบหลากหลายสัญญา ตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป จนถึงสูงสุด 30 ปี ตามความต้องการของลูกค้า “เทรนด์ใหม่คนหนุ่มสาวรุ่นนี้หลายคนไม่ซื้อบ้านหรือคอนโดฯ แต่เลือกที่จะเช่าแทน เพราะคล่องตัวในเวลาที่ต้องการเปลี่ยนทำเล สำหรับกลุ่มวัยอิสระก็เช่นกัน การเช่าคอนโดฯ ที่มีบริการดูแลสุขภาพตลอด 24 ชั่วโมง เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความต้องการ” อรฤดี ณ ระนอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด และผู้บริหารโครงการ นายาเรสซิเดนซ์ (Naya Residence) ในเครือนารายณ์พร็อพเพอร์ตี้ กล่าว พร้อมระบุว่า ปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กำลังปรับตัวเพื่อให้สอดรับกับสังคมผู้สูงวัย ซึ่งเป็นเทรนด์ของโลก ซึ่งจากสถิติพบว่าในปี 2563 ประชากรโลกที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมีจำนวนมากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก สำหรับประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว (คนอายุ 60 ปีขึ้นไปมีสัดส่วนร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ ตามนิยามของสหประชาชาติ) และคาดการณ์ว่าภายในปี 2578 ไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมสูงวัยเต็มตัว (คนอายุ 60 ปีสัดส่วนร้อยละ 30 ของประชากรทั้งประเทศ) ทั้งยังพบว่าผู้สูงวัยที่ยังมีสุขภาพแข็งแรง กระฉับกระเฉง แสวงหาคุณค่าในตัวเองและสามารถดูแลตนเองได้ หรือเรียกว่า “วัยอิสระ” นั้นมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น พวกเขาต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้นตามไปด้วย“นายาเรสซิเดนซ์” บาย “ลิฟเวล”
ดังนั้น เพื่อตอบโจทย์ เทรนด์การพัฒนาสังคมผู้สูงวัยที่มีคุณภาพและสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนวัยเกษียณ โดยเฉพาะกลุ่มที่เรียกว่า “วัยอิสระ” โดยอยู่ภายใต้การบริหารดูแลโดย ลิฟเวล (Livwell) ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการ ดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุด้วยทีมงานบริหารระดับมืออาชีพ นำโดย แพทย์หญิงนาฏ ฟองสมุทร ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการด้านผู้สูงอายุมากว่า 23 ปี มีประสบการณ์การทำงานเกี่ยวกับโครงการที่พักผู้สูงอายุ (senior living) กับทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ โครงการสวางคนิเวศ ของสภากาชาดไทย จึงทำให้มีความเข้าใจในทุกวิติการใช้ชีวิตของผู้สูงวัย นายาเรสซิเดนซ์ เป็นโครงการที่พักผู้สูงอายุแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาตสถานประกอบกิจการดูแลผู้สูงอายุประเภท Independent Living ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้ชีวิตของผู้สูงวัยในกลุ่มวัยอิสระโดยเฉพาะ คือ บุคคลที่ยังมีสุขภาพแข็งแรง สามารถดูแลตนเองได้และชอบที่จะแสวงหาคุณค่าในตัวเอง หรือที่เรียกว่า Active Aging โดยการออกแบบ Independent Living จะให้ความสำคัญกับการดูแลป้องกันและชะลอความเสื่อมของร่างกาย เพื่อให้วัยอิสระมีคุณภาพชีวิตที่ดีและแข็งแรงได้ยาวนานที่สุด ด้วยบริการด้านสุขภาพ โภชนาการ กิจกรรม ในสังคมที่รายล้อมด้วยความสุข รอยยิ้ม และมิตรภาพ โครงการรูปแบบให้เช่าระยะยาว (Leasehold) ผู้สนใจสามารถเลือกระยะเวลาการเช่าได้ขึ้นอยู่กับผู้เช่า สามารถเช่าระยะยาวได้เต็มที่ 30 ปี หรือต้องการเช่าเป็นรายเดือนก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ ยังมีพันธมิตรอื่นๆ เข้ามาเพิ่มเติมคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้สูงวัย อาทิ การจับมือร่วมกับบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต พัฒนาแพคเกจประกันสำหรับผู้สูงวัย และการจับมือร่วมกับศูนย์พยาบาลในการดูแลกรณีพิเศษ โครงการนี้พัฒนาเป็นโครงการพร้อมอยู่ ตั้งอยู่ในริเวอร์ไรน์ วิลเลจ บนเนื้อที่กว่า 23 ไร่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ริเวอร์ไรน์วิลเลจ ประกอบด้วยชุมชนผู้พักอาศัยในคอนโดริเวอร์ไรน์ เพลส 1 และ 4 จำนวนกว่า 300 ครอบครัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางภายใต้การบริหารจัดการของ NARAI CLUB - HEALTH & FITNESS อาทิ ลู่เดินวิ่งแวดล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำขนาด 50 เมตร ห้องยิม ห้องออกกำลังกายแอโรบิคส์ โยคะ พิลาทิส สนามเทนนิส แบดมินตัน มวย นอกจากนี้ในริเวอร์ไรน์วิลเลจยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ ห้องฟังค์ชั่น ห้องอาหาร ร้านทำผม และร้านสะดวกซื้อ “นายาเรสซิเดนซ์” ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 70 ห้อง มีให้เลือก 2 แบบ คือ ขนาด 1 ห้องนอนตั้งแต่ 62 - 76 ตร.ม. และขนาด 2 ห้องนอนตั้งแต่ 105 - 120 ตร.ม. เป็นสัญญาลักษณะการปล่อยเช่า โดยราคาเช่าสำหรับขนาด 1 ห้องนอนกำหนดไว้ที่ 40,000 บาท/เดือน กรณีเป็นสัญญาเช่า 1 เดือน แต่หากเช่าระยะยาว 10-15 ปี คิดราคาตามตลาด โดยเทียบเคียงราคาเช่า จากราคาขายอสังหาฯ ในรูปแบบเดียวกัน ทำเลเดียวกัน ราคาเช่าจะต่ำกว่าราคาซื้อขายประมาณฯ 30-60 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับระยะเวลา และรายละเอียดของโครงการที่ปล่อยเช่า โดยราคานี้จะรวมบริการดูแลสุขภาพตลอด 24 ชั่วโมง โดยทีมงานของ LivWell ซึ่งร่วมกับ SCG ในการพัฒนาระบบติดตามด้านสุขภาพ และแจ้งเตือนกรณีสุขภาพต่างๆ โดยมีทีมพยายามสแตนด์บายให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเข้าถึงบริการภายใน 4 นาที หลังได้รับสัญญาณแจ้งเหตุจากผู้เช่า ภายในโครงการ นายาเรสซิเดนซ์ ออกแบบภายในด้วยบรรยากาศอบอุ่น ภายใต้หลัก Universal Design คัดสรรอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและวัสดุที่เหมาะสมกับวัยอิสระ พื้นห้องนุ่มรับแรงกระแทก เฟอร์นิเจอร์ถูกออกแบบพิเศษเพื่อรองรับการใช้ wheel chair ในอนาคต ที่สำคัญทุกห้องพักติดตั้งด้วยระบบดูแลสุขภาพ SCG DoCare ซึ่งเป็นเทคโนโลยี IOT พร้อมปุ่มเรียกฉุกเฉิน ที่วัดอุณหภูมิ ความดัน ปริมาณออกซิเจนในร่างกาย และนาฬิกา เชื่อมต่อกับระบบที่ห้องดูแลสุขภาพของลิฟเวล (CARE) โดยมีพยาบาลวิชาชีพประจำ 24 ชั่วโมง สำหรับพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบเฉพาะวัยอิสระของโครงการฯ ได้แก่ ห้องบริหารร่างกายด้วยอุปกรณ์เฉพาะของวัยอิสระ ห้องกายภาพบำบัดโดยนักกายภาพที่เชี่ยวชาญเฉพาะ (FIT) และห้องจัดกิจกรรมของลิฟเวล (CLUB) เพื่อสังสรรค์ร่วมทำกิจกรรมนันทนาการ นอกจากนี้ลิฟเวลมีบริการอาหารเช้า ซักรีด และทำความสะอาดห้องพักเพื่อให้การใช้ชีวิตของวัยอิสระมีคุณภาพและเปี่ยมด้วยความสุขรับดูแลช่วงต่อ “วัยอิสระ”
ด้าน แพทย์หญิงนาฏ ฟองสมุทร ผู้บริหารลิฟเวล กล่าวว่ าแต่ละคนจะมีอยู่ 3 ช่วงวัย คือวัยเด็ก วัยทำงาน และวัยเกษียณ ซึ่งช่วงเวลาหลังเกษียณนั้นเป็นช่วงชีวิตที่ยาวนานพอๆ กับช่วงก่อนวัยทำงาน บางคนเกษียณอายุก่อน 60 ปี และบางคนเกษียณหลัง 60 ปี เริ่มวางภาระในชีวิตลงเมื่อลูกหลานเติบโต มีครอบครัวและมีชีวิตเป็นของตนเอง ส่วนคนโสดก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ดังนั้นในวัยเกษียณจึงเป็นอีกหนึ่งช่วงชีวิตที่สำคัญและต้องวางแผนว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุข และการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของคนวัยนี้คือการที่พวกเขาสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ด้วยการมีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่แข็งแรง รวมถึงการมีสุขภาพด้านการเงินที่ดี มีเงินทองใช้อย่างเพียงพอ “จากประสบการณ์ที่ทำงานเกี่ยวกับผู้สูงอายุมาตลอด ทำให้รู้ว่าปัญหาที่ผู้สูงอายุต้องประสบคืออะไร อุปสรรคในการดำเนินชีวิตทั้งในเรื่องที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมมีอะไรบ้าง และอะไรที่จะเป็นปัจจัยในการสนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถพึ่งพาตัวเองได้มากที่สุดและนานที่สุด ลดการไปอยู่โรงพยาบาลให้น้อยที่สุด เปลี่ยนความคิดจากการใช้ชีวิตตามอายุขัยที่เปลี่ยนไป มาเป็นการดูแลสุขภาพกายและใจให้เป็นช่วงเวลาที่มีคุณภาพ สามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระได้ยาวนานที่สุด ซึ่งนั่นคือเป้าหมายที่ตั้งใจไว้” แพทย์หญิงนาฏ กล่าว อ่านเพิ่มเติม: 10 บริษัทชั้นนำของโลกที่เป็นมิตรต่อผู้หญิง ประจำปี 2021ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine