ตลาดอสังหาฯ ไทยยังเป็นที่น่าจับตาท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน นับตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา ความไม่แน่นอนหลายประการเกิดขึ้น ทั้งที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยว ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนในอสังหาฯ และซื้อที่อยู่อาศัยของกลุ่มดีมานด์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
จากผลสำรวจ DDproperty's Thailand Consumer Sentiment Study H1 2020 ที่มีผู้ร่วมตอบแบบสำรวจกว่า 945 คน พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภครอบล่าสุดอยู่ที่ 48% ซึ่งมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากรอบก่อนหน้าที่อยู่ที่ 44% สะท้อนความเชื่อมั่นต่อ ตลาดอสังหาฯ ของผู้บริโภคเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ช่วงเวลาดังกล่าวมีปัจจัยบวกหลายด้าน เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีความชัดเจน การบริโภคของเอกชน การจ้างงาน การส่งออกสินค้า และสถานการณ์การท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มดี รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่สมเหตุสมผลและแนวโน้มของราคาอสังหาริมทรัพย์อยู่ในเกณฑ์บวก
ผู้บริโภคไทยพึงพอใจแค่ไหน-มองราคาบ้าน-คอนโดฯ เป็นอย่างไร
และในส่วนของความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมามีหลายประเด็นที่น่าใจ โดยจะหยิบยกมา 3 ประเด็นด้วยกัน
- 80% มองว่าจำนวนที่อยู่อาศัยในตลาดเพิ่มขึ้น
- 28% มองว่าการได้รับสินเชื่อบ้านหรือรีไฟแนนซ์ง่ายขึ้น
- 23% มองว่าอัตราดอกเบี้ยมีการปรับลดลง
ย้อนกลับมาที่ปัจจัยในการเลือกซื้ออสังหาฯ ของผู้บริโภค พบว่านอกจากเรื่องราคา ทำเล และความสามารถทางการเงิน ฯลฯ ผู้บริโภคก็ได้ให้ความสนใจกับตัวผู้พัฒนาโครงการเช่นเดียวกัน โดยมีเกณฑ์ดังนี้ อันดับแรก 58% พิจารณาจากโครงการที่ผ่านมา เช่นเดียวกับชื่อเสียงของผู้พัฒนาโครงการ รองลงมา 57% พิจารณาจากคุณภาพของวัสดุที่นำมาใช้และบทวิจารณ์ที่มีต่อโครงการของผู้พัฒนารายนั้นๆ ที่เหลือจะเป็นเรื่องของ ส่วนลด โปรโมชั่น เครดิตคืนเงิน และอื่นๆ
เปรียบเทียบความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อตลาดอสังหาฯ ในอาเซียน
หากเปรียบเทียบความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อสถานการณ์ตลาดอสังหาฯ ในแถบประเทศภูมิภาคเดียวกัน โดยเจาะจงไปที่ 4 ประเทศ คือ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย และอินโดนีเซีย ผลสำรวจรอบล่าสุดพบว่าผู้บริโภคในอินโดนีเซียมีความพึงพอใจมากที่สุด โดยอยู่ที่ 66% ปรับขึ้นจากรอบก่อนหน้า 5% รองลงมา คือ สิงคโปร์ ขยับมาอยูที่ 52% ส่วนมาเลเซียและไทยระดับความพึงพอใจลดลง
ทั้งนี้ ระดับราคาอสังหาฯ ที่ขายในแต่ละประเทศ พบว่าไปในทิศทางเดียวกัน โดยผู้บริโภคมองว่าอยู่ในระดับราคาที่สมเหตุสมผลกันมากที่สุด โดยเรียงลำดับดับดังนี้ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย
ทางด้านการประเมินความสามารถในการซื้ออสังหาฯ เมื่อเทียบกับรายได้ปัจจุบัน พบว่า ผู้บริโภคในไทยมีคะแนนรวมสูงสุด โดยอยู่ที่ 72% รองลงมาคือ สิงคโปร์ 68% อินโดนีเซีย 64% และมาเลเซีย 57%
ส่วนอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย มองว่ามีอัตราดอกเบี้ยที่สูงเช่นเดียวกัน 52%, 51% และ 48% ตามลำดับ ในขณะที่สิงคโปร์ 49% มองว่าราคายังสมเหตุสมผลอยู่
สำหรับความคิดเห็นของผู้บริโภคเกี่ยวกับอสังหาฯ ไทยในรอบล่าสุด แม้จะมีข้อมูลทั้งเพิ่มและลดลงอยู่ในหลายประเด็นด้วยกัน แต่ในภาพรวมยังคงไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่นัก เนื่องจากรัฐบาลเองก็ได้มีการออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ เพิ่มเติมมากขึ้น เพื่อให้ความช่วยเหลือทั้งทางฝั่งผู้พัฒนาโครงการสามารถระบายยูนิตคงค้างได้มากขึ้น และผู้บริโภคก็จะสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น แต่ปัจจัยที่ต้องจับตาคือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่อาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและการตัดสินใจของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน ซึ่งจะส่งผลมากน้อยแค่ไหนคงต้องลุ้นกันต่อไป
- อ่านเพิ่มเติม ไตรมาสนี้เป็นโอกาสของผู้ซื้อ “อสังหาฯ” หรือไม่?
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine