เอไอเอ ประเทศไทย เตรียมเปิดตัวอาคารสำนักงานระดับพรีเมียมพร้อมพื้นที่ค้าปลีกให้เช่าแห่งใหม่ “เอไอเอ อีสต์ เกตเวย์” (AIA East Gateway) ติดถนนบางนา-ตราด กม.4.5 อสังหาริมทรัพย์แห่งที่ 3 ของเอไอเอ ชูคอนเซ็ปต์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นของผู้ใช้สอยอาคารคาดสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ปี 2565
โยฮัน ดีทอย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน เอไอเอ ประเทศไทย เปิดเผยว่า “เอไอเอ ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่องภายใต้วิสัยทัศน์ของกลุ่มบริษัทเอไอเอ ที่ต้องการขยายฐานการลงทุนเพิ่มในธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือไปจากธุรกิจประกันชีวิตที่เป็นธุรกิจหลัก เพื่อมีส่วนช่วยเป็นกำลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย และตอบรับไลฟ์สไตล์ด้านสุขภาพของคนไทยในยุค Next Normal ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา เอไอเอประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานให้เช่าระดับพรีเมียมไปแล้ว 2 โครงการ คือ อาคารเอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ บนถนนรัชดาภิเษก และอาคารเอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ ย่านสาทร ปัจจุบันทั้ง 2 อาคารมีอัตราการเช่าสูงถึงร้อยละ 90 สวนทางกับภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น ในปีนี้เอไอเอเตรียมจะเปิดตัวอาคารสำนักงานให้เช่าระดับพรีเมียมแห่งที่ 3 “เอไอเอ อีสต์ เกตเวย์” ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ ติดถนนบางนา-ตราด กม.4.5 ซึ่งจะช่วยรองรับการขยายตัวทางธุรกิจในอนาคตของกลุ่มบริษัทและนักลงทุนชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ เอไอเอมองเห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาและการเติบโตทางเศรษฐกิจของย่านบางนา-ตราด ทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพราะเป็นย่าน New CBD หรือศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ย่านกรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออก อีกทั้งยังสะดวกในด้านการคมนาคม และระบบขนส่งทางราง ที่มีทั้งรถไฟฟ้าสายสุขุมวิทสีเขียว และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ที่คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการกลางปีนี้ โดยที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีศรีเอี่ยมประมาณ 350 เมตรเท่านั้น รถไฟฟ้าสายสีเหลืองเส้นนี้สามารถพาคนเข้า-ออกตัวเมืองได้ง่ายมากขึ้น ตั้งแต่ลาดพร้าวจนถึงสำโรง และเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าในอนาคตได้อีกหลายเส้นทาง อาทิ สายสีน้ำเงิน สายสีเทา สายสีส้ม สายสีชมพู Airport Rail Link และสายสีเขียว เป็นต้น สำหรับอาคาร เอไอเอ อีสต์ เกตเวย์ เป็นอาคารสำนักงานสูง 33 ชั้น คิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมดประมาณ 136,000 ตารางเมตร ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งตามแผนงานก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ปี 2565 นี้ โดยตัวอาคารถูกออกแบบให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้ใช้สอยอาคารตามเกณฑ์มาตรฐานของ LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) และ WELL Building Standard ระดับโกลด์ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเอไอเอ “Healthier, Longer, Better Lives - เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น” ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพ เพื่อสนับสนุนให้ผู้เช่าได้มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีระดับเวิลด์คลาส อาทิ AIA Vitality Zone ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับให้ผู้ใช้สอยภายในอาคารสามารถเข้ามาใช้ทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพได้ นอกจากนี้ยังมีสวนผักออร์แกนิก (Urban Farming) ฟิตเนสเซ็นเตอร์ครบวงจร Trail Network Rooftop Running Track สระว่ายน้ำระบบเกลือ และ Co-Working Area พร้อมความสะดวกสบายด้วยที่จอดรถมากกว่า 1,500 คัน ด้าน รุ่งรัตน์ วีระภาคย์การุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จากศักยภาพและความโดดเด่นของอาคาร เอไอเอ อีสต์ เกตเวย์ รวมถึงทำเลที่ตั้งที่อยู่ในย่าน New CBD บนถนนบางนา-ตราด กม.4.5 ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่มีความโดดเด่น ทั้งในเรื่องของความสูงภายในพื้นที่สำนักงานที่สูงถึง 3 เมตร มีดีไซน์ที่ล้ำสมัย โดยใช้เทคโนโลยีอนุรักษ์พลังงานตามมาตรฐานระดับสากล และคำนึงถึงคุณภาพของสิ่งแวดล้อมภายในอาคาร นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ค้าปลีก สวนพักผ่อน และสถานที่ออกกำลังกายให้กับคนที่ทำงานอยู่ในอาคารแห่งนี้ได้ใช้บริการ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้เช่าที่มองหาพื้นที่สำนักงานที่มีคุณภาพ รวมทั้งยังอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้สอยภายในอาคารด้วย” สำหรับพื้นที่ใช้สอยของอาคารทั้งหมดมีประมาณ 70,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย พื้นที่ค้าปลีก 5 ชั้น ประมาณ 10,000 ตารางเมตร ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 20 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่รีเทลชั้น 1-3 มีทั้งร้านค้า ร้านกาแฟ และร้านสะดวกซื้อ พื้นที่ฟิตเนส และสระว่ายน้ำบนชั้น 4 และพื้นที่ Co-Working Space บนชั้น 4-5 ส่วนพื้นที่สำนักงานให้เช่าทั้งหมดประมาณ 60,000 ตารางเมตร จะตั้งอยู่บนชั้น 6–33 ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 85 ตางรางเมตร ไปจนถึงพื้นที่ขนาดใหญ่เต็มชั้น 2,270 ตางรางเมตร โดยสามารถจัดสรรพื้นที่การทำงานได้หลายรูปแบบ นอกจากนี้ พื้นที่ระหว่างชั้นยังสามารถติดตั้งบันไดภายในออฟฟิศได้เพื่อความสะดวกของผู้ใช้งาน เน้นความโปร่งโล่งด้วยความสูงตั้งแต่พื้นถึงเพดาน 3 เมตร ที่สำคัญไม่มีเสากั้นกลางพื้นที่เช่า ทำให้ใช้สอยพื้นที่ได้ทุกตารางเมตร โดยคิดอัตราค่าเช่าเปิดตัวที่ 700 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน อ่านเพิ่มเติม: Time and Space Asset แบรนด์แนวคิดใหม่ เปิดตัวโปรเจกต์แรก “Sol Residence”ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine