สู่ยอดมงกุฎแห่ง EmQuartier “BHIRAJ TOWER” อาคารสำนักงานเกรด A - Forbes Thailand

สู่ยอดมงกุฎแห่ง EmQuartier “BHIRAJ TOWER” อาคารสำนักงานเกรด A

BHIRAJ TOWER at EmQuartier สำนักงานให้เช่าแห่งล่าสุดของกลุ่มบริษัทภิรัชบุรี ถือเป็นอีกหนึ่งสำนักงานให้เช่าเกรดเอแห่งใหม่ที่เปิดให้บริการเมื่อ 2 ปีก่อน

ถึงวันนี้ ประสาน บุรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทภิรัชบุรี และ วิญญู วานิชศิริโรจน์ รองประธานบริหาร บริษัท ดีไซน์ 103 อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด สถาปนิกผู้ออกแบบอาคาร ได้ฤกษ์นำชมโครงสร้างภายในอาคารและบริเวณ Glass Peninsula สะพานกระจกใสเหนือพื้นดิน 180 เมตรบนชั้น 45 ซึ่งเป็นไฮไลต์สำคัญ BHIRAJ TOWER at EmQuartier ตั้งอยู่ด้านข้างเยื้องไปทางด้านหลังของศูนย์การค้า EmQuartier ของเดอะมอลล์กรุ๊ป ริมถนนสุขุมวิท ติดสถานี BTS พร้อมพงษ์ มีทางเชื่อมเข้าสู่ EmQuartier ได้โดยตรง และอยู่ตรงข้ามสวนเบญจสิริ ถือเป็นทำเลที่ดีสำหรับสำนักงาน วิญญูกล่าวถึงที่มาของโครงการว่า ภิรัชบุรีซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้ง 13 ไร่ มีแนวคิดพัฒนาพื้นที่เป็นสำนักงานให้เช่ามาตั้งแต่ปี 2547 แต่ในขณะนั้นตลาดสำนักงานให้เช่ายังอยู่ในช่วงซบเซา ทำให้มีการออกแบบโครงการที่ชัดเจนและประกาศจับมือพันธมิตรคือเดอะมอลล์กรุ๊ปมาพัฒนาส่วนรีเทลในปี 2553-54 ดีไซน์ของตึกอยู่ภายใต้คอนเซ็ปท์ โฉบเฉี่ยว ทันสมัย แต่ยังคงความคลาสสิก รูปแบบออกมาเป็นตึกทรงเหลี่ยมกรุกระจก Low-E (กระจกถ่ายเทความร้อนต่ำ) ผสมกับกระจกแบบสะท้อนแสง ความสูง 45 ชั้น และย่อมุมบนยอดตึกด้วยเหตุผล 2 ประการ คือ เพื่อให้ตึกมีจำนวนชั้นสูงมากขึ้น และให้เป็นทรงมงกุฏเพื่อสะท้อนสัญลักษณ์ของภิรัชบุรีผู้พัฒนาโครงการ รายละเอียดภายในตึก 45 ชั้นแห่งนี้ มีพื้นที่เช่าทั้งหมด 4.75 หมื่นตร.ม. โดยชั้นที่ 1-14 เป็นส่วนรีเทลของ EmQuartier (ศูนย์การค้าระบุเป็นชั้น G-5 เนื่องจากในศูนย์ฯมีความสูงพื้นถึงเพดานมากกว่าสำนักงาน) ชั้น 15-44 เป็นส่วนออฟฟิศให้เช่า ในขณะที่ชั้น 45 หรือชั้นสูงสุดเป็นพื้นที่จัดเลี้ยง ประชุม สัมมนา เรียกว่า Ivory Shadow รวมถึงเป็นที่ตั้งของสะพานกระจก Glass Peninsula นอกจากนี้บนดาดฟ้าตึกยังมีจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ที่ใช้งานได้จริง เมื่อเข้าไปภายในอาคาร บริเวณล็อบบี้ต้อนรับจะพบโถงความสูงพื้นถึงเพดาน 10.5 เมตร วิญญูกล่าวเพิ่มเติมว่า กระจกที่กรุผนังแต่ละบานออกแบบให้มีองศาการเอียงตัวไม่เท่ากัน เพื่อให้ทิศทางการสะท้อนเสียงไม่กลับมาในทิศทางเดิม เสียงจึงไม่ก้องภายในตึก ด้านลิฟต์โดยสารมีทั้งหมด 16 ตัว ใช้ระบบกำหนดชั้นปลายทาง (destination control) นั่นคือระบบจะเลือกลิฟต์ตัวที่เหมาะสมให้เราอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ใช้งานใช้เวลารอลิฟต์สั้นที่สุด ลิฟต์พาผู้เยี่ยมชมพุ่งขึ้นสู่ชั้น 32 ซึ่งเป็นพื้นที่เช่าที่ยังเหลือว่างอยู่ การออกแบบชั้นออฟฟิศที่ BHIRAJ TOWER at EmQuartier จะนำส่วนกลางต่างๆ เช่น ห้องเครื่อง ห้องน้ำ ห้องครัว โถงลิฟต์ ไว้ตรงกลางของชั้น เพื่อให้พื้นที่ทำงานอยู่ใกล้ชิดหน้าต่างรับแสงธรรมชาติให้มากที่สุด มีความสูงพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.85 เมตร ออกแบบให้พื้นที่ไร้เสากลาง ทำให้การจัดออฟฟิศง่ายและเปิดโล่ง ด้านชั้น 45 มีห้องประชุม Ivory Shadow สำหรับจัดเลี้ยง ประชุม สัมมนา มียกพื้นด้านหน้าพร้อมผนังฉายพรีเซนเทชันทรงโค้ง เพื่อให้ผู้ร่วมประชุมมองเห็นข้อมูลได้ชัดเจนทั่วถึง ส่วนสุดปลายอีกด้านของห้องเป็น Glass Peninsula สะพานกระจกที่ยื่นออกจากตัวอาคาร 11 เมตร กว้าง 2.8 เมตร อยู่สูงเหนือพื้นดิน 180 เมตร กรุกระจกนิรภัยสูง 1.8 เมตรโดยรอบ มุมมองเห็นได้ไกลถึงบางกระเจ้า โดยจะให้ความรู้สึกเหมือนลอยอยู่กลางอากาศได้มากที่สุดหากใช้งานในช่วงกลางคืน Glass Peninsula ถือเป็นไฮไลต์ของอาคาร BHIRAJ TOWER at EmQuartier แต่เปิดให้ใช้เฉพาะผู้เช่าสถานที่ Ivory Shadow เท่านั้น ซึ่งฝ่ายการตลาดให้ข้อมูลว่าค่าเช่าอยู่ที่ 1.2-1.5 แสนบาทต่ออีเวนท์ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาจัดงาน สำหรับอัตราค่าเช่าของส่วนสำนักงานอยู่ที่ 1,100 บาท/ตร.ม. ปัจจุบันมีการเช่าแล้ว 95% ซึ่งไม่น่าแปลกใจหากพิจารณาจากความสะดวกสบายของทำเลและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มอบให้ ............................. Forbes in Details การเป็นสำนักงานเกรดเอมีปัจจัยหลายประการ ซึ่งวิญญู วานิชศิริโรจน์ รองประธานบริหาร บริษัท ดีไซน์ 103 อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ให้ข้อมูลเกณฑ์สำคัญๆ ที่ต้องมีในออฟฟิศเกรดเอ อาทิ -           รถไฟฟ้าผ่านที่ตั้ง -           ห้องครัวแบบเตรียมอาหาร (pantry) -           ความห่างระหว่างเสาไม่ต่ำกว่า 12 เมตร -           วัสดุกันเสียงสะท้อนบนเพดาน -           ความสูงพื้นถึงฝ้าไม่ต่ำกว่า 2.8 เมตร -           ระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์ (Central Air-conditioning System) -           ระบบปั่นไฟฉุกเฉินในกรณีไฟดับ -           ระบบรักษาความปลอดภัย -           สปริงเกลอร์ดับเพลิงอัตโนมัติ แต่เกณฑ์หนึ่งที่วิญญูกล่าวว่ากลายเป็นสิ่ง ‘ล้าสมัย’ ไปแล้ว คือเดิมสำนักงานเกรดเอจะต้องไม่อยู่ใกล้กับศูนย์การค้าเพื่อคงความรู้สึกจริงจังในการทำงาน แต่ด้วยไลฟ์สไตล์คนทำงานที่เปลี่ยนไป พนักงานต้องการแหล่งร้านอาหารที่หลากหลายและบรรยากาศที่ยังคึกคักแม้จะเลิกงานดึกดื่นแค่ไหนก็ตาม ทำให้สำนักงานที่อยู่ใกล้กับศูนย์การค้ากลายเป็นข้อได้เปรียบขึ้นมาในโลกยุคปัจจุบัน