วชิราวุธวิทยาลัย ได้แต่งตั้งบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล เป็นตัวแทนในการจัดหาผู้เช่าให้ที่ดินขนาด 6 ไร่ 51 ตารางวา ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ ริมถนนราชดำริ โดยเป็นการเปิดให้นักลงทุนที่สนใจยื่นข้อเสนอสำหรับการเช่าระยะยาว 30 ปี หรือ 50 ปี
ที่ดินแปลงดังกล่าวของ วชิราวุธวิทยาลัย ตั้งอยู่ในทำที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของใจกลางกรุงเทพฯ ติดกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสราชดำริ พร้อมทิวทัศน์พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของราชกรีฑาสโมสรซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม และนับเป็นที่ดินแปลงใหญ่แปลงเดียวติดริมถนนราชดำริที่มีเสนอให้เช่าระยะยาวในขณะนี้ โดยนักลงทุนอาจเลือกที่จะปรับปรุงอาคารเดิมที่มาพร้อมกับที่ดิน หรือจะพัฒนาโครงการใหม่ขึ้นมาแทน ไม่ว่าจะเป็นโครงการมิกซ์ยูส อาคารสำนักงานเกรดเอ โรงแรมระดับหรู และ/หรือคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ สุพินท์ มีชูชีพ ประธานกรรมการบริหาร เจแอลแอล กล่าวว่า “เราคาดว่า ที่ดินของวชิราวุธวิทยาลัยแปลงนี้จะได้รับความสนใจสูงจากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยและจากภูมิภาคนี้” “ขณะนี้ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำนวนหนึ่งที่มีความแข็งแกร่งทางการเงินสูง ยังคงกำลังมองหาโอกาสการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมี่ยมบนทำเลที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดของกรุงเทพฯ นอกจากนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสนใจการเช่าที่ดินทำเลชั้นดีมากขึ้น เนื่องจากที่ดินในทำเลชั้นดีเช่นนี้แทบไม่มีเสนอขาย หรือถ้ามี ก็จะเป็นราคาที่สูงมาก” สุพินท์ อธิบาย ไมเคิล แกลนซี กรรมการผู้จัดการ เจแอลแอลกล่าวว่า “ที่ดินที่เสนอให้เช่าประกอบด้วยที่ดินติดกันสองแปลง แปลงแรกมีขนาด 3 ไร่ 70 ตารางวา พร้อมอาคารสำนักงาน และอีกแปลงขนาด 2 ไร่ 3 งาน 81 ตารางวา พร้อมอาคารอะพาร์ตเมนต์โดยที่ดินแปลงแรกจะพร้อมส่งมอบให้ผู้เช่าในปี 2564 และอีกแปลงจะพร้อมส่งมอบในปี 2568 การส่งมอบที่เหลื่อมเวลากันเช่นนี้ จะเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สนใจเช่า สามารถแบ่งพัฒนาโครงการใหม่บนที่ดินออกได้เป็นเฟสๆ และได้ประโยชน์จากการที่อสังหาริมทรัพย์กลุ่มหลักๆ ของกรุงเทพฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงเดียวที่การพัฒนาโครงการจนเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 4-6 ปีข้างหน้า” “นอกจากนี้ นักลงทุนที่สนใจ ยังอาจลงทุนเช่าที่ดินแปลงนี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องพัฒนาโครงการใหม่ เนื่องจากมีทางเลือกที่จะปรับปรุงยกระดับอาคารสำนักงานและอาคารอะพาร์ตเมนต์ที่มีอยู่เดิมบนที่ดินปัจจุบัน” ไมเคิลกล่าว อาคารที่มีอยู่บนแปลงที่ดินประกอบด้วยอาคารสำนักงานความสูง 18 ชั้นมีพื้นที่รวมประมาณ 29,700 ตารางเมตร และอาคารอะพาร์ตเมนต์ความสูง 20 ชั้นพร้อมพื้นที่รวมประมาณ 24,600 ตารางเมตร โดยทั้งสองอาคารมีอายุ 30 ปีและ 26 ปีตามลำดับ การเปิดรับข้อเสนอการเช่าได้เริ่มขึ้นแล้ว และจะปิดรับภายในกลางเดือนกรกฎาคม 2564 อ่านเพิ่มเติม: JWD ชูยุทธศาสตร์ขนส่งครบวงจร หมื่นล้านใน 5 ปีไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine