สุวรรณี มหณรงค์ชัย จาก พลัสฯ เผย ทำเลเอกมัย ยังตอบโจทย์กลุ่มคนทำงานชาวไทยและกลุ่มชาวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี ผลสำรวจพบราคาขายต่ำกว่าซอยใกล้เคียงที่ร้อยละ 25 ส่วนราคาเติบโตร้อยละ 11.5 ต่อปี
สุวรรณี มหณรงค์ชัย รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนากลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมตอบโจทย์ทุกบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่าจากการสำรวจของฝ่ายวิจัยและพัฒนาของพลัสฯ พบว่า ทำเลเอกมัย กลายเป็นแหล่งอยู่อาศัยที่ตอบโจทย์กลุ่มคนทำงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างน่าสนใจ เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อย่านธุรกิจและแหล่งงานต่างๆ ที่อยู่โซนสุขุมวิทตอนต้น ขณะเดียวกันก็สามารถเดินทางสู่แหล่งงานแห่งใหม่โซนบางนาได้อย่างสะดวก นอกจากนี้เอกมัยยังเป็นทำเลที่รู้จักกันดีในมุมของการอยู่อาศัยและแหล่งไลฟ์สไตล์กลางเมือง รองรับทั้งกลุ่มชาวไทยและชาวต่างชาติ ทำให้ตลาดเช่าถือเป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเอกมัย สามารถรองรับการเติบโตของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดปี 2562 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 93,714 คน หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และแม้ในช่วงครึ่งปีแรก จำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯจะลดลงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่คาดว่าชาวต่างชาติจะกลับเข้ามามากขึ้นภายหลังสถานกาณ์ดังกล่าวดีขึ้น ทั้งนี้ จากการสำรวจคอนโดมิเนียมภายใต้การบริหารจัดการของพลัสฯ พบว่า จำนวนตัวเลขของชาวต่างชาติที่อยู่อาศัยในช่วงสุขุมวิทตอนกลางเป็นชาวญี่ปุ่นถึงร้อยละ 32 ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดปล่อยเช่าทำเลสุขุมวิทตอนกลางรวมถึงเอกมัยได้รับการตอบรับที่ดี จากข้อมูลการสำรวจพบว่า จากปี 2560 ถึง ปี 2562 ทำเลเอกมัยมีอุปทานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดในปี 2562 มีจำนวนคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในซอยเอกมัย 9,239 ยูนิต จาก 29 โครงการ ซึ่งสามารถขายได้แล้วร้อยละ 65 หรือคิดเป็น 6,039 ยูนิต สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมที่พัฒนาในทำเลซอยเอกมัย จะมีระดับราคาไม่ต่ำกว่า 150,000 บาทต่อตารางเมตร และมีโครงการระดับลักซ์ชัวรี่ตั้งอยู่ปากซอยที่เปิดขายเมื่อเร็วๆ นี้ ในระดับสูงกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตร อีกหนึ่งปัจจัยคือราคาคอนโดมิเนียมในซอยเอกมัยโดยเฉลี่ยถือว่าต่ำกว่าราคาในทำเลใกล้เคียง (พร้อมพงษ์และทองหล่อ) ราวร้อยละ 25 แต่ในทางกลับกัน ราคาคอนโดมิเนียมในซอยเอกมัยยังมีทิศทางการเติบโตถึงร้อยละ 11.5 ต่อปี ส่งผลให้ย่านเอกมัยได้รับความสนใจทั้งจากนักลงทุนและผู้ที่ต้องการซื้ออยู่อาศัยจริง ขณะเดียวกันราคาที่ดินในย่านเอกมัยก็เพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจ โดยผลการสำรวจย้อนหลังจากปี 2558-2563 พบว่าค่าเฉลี่ยการเติบโตของราคาที่ดินบริเวณเอกมัย เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.81 ต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยการเติบโตของราคาที่ดินในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.89 ต่อปี โดยล่าสุดจากปี 2562-2563 ราคาที่ดินช่วงเอกมัยตอนต้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และเอกมัยช่วงท้ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.06 ส่วนข้อมูลด้านการปล่อยเช่า ตัวอย่างห้องขนาด 43 ตารางเมตร ปล่อยเช่าเดือนละ 25,000 บาท ได้รับผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าโดยเฉลี่ยที่ร้อยละ 5 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเหมาะสมสำหรับการลงทุน “จุดเด่นที่น่าสนใจของซอยเอกมัยคือเป็นซอยเดียวที่สามารถเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง หากเดินทางด้วยรถยนต์สามารถเชื่อมโยงระหว่างซอยย่อยด้วยกันเองซึ่งโดยปกติซอยในสุขุมวิทจะไม่สามารถเชื่อมกันเองได้ และสามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้ในเวลาเร่งด่วน อยู่ท่ามกลางแหล่งไลฟ์สไตล์ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตกลางเมือง นอกจากนี้เอกมัยและทองหล่อ สามารถแชร์ร้านค้า ร้านอาหาร และใช้ประโยชน์ของสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ร่วมกันได้อย่างเต็มที่ ส่วนเทรนด์ของที่อยู่อาศัยในซอยเอกมัยนั้น ต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุค New Normal ที่รองรับกิจกรรมที่ผู้คนต้องอยู่บ้านมากขึ้น ทั้งในบริเวณส่วนกลาง เช่น มี Co-kitchen ห้องครัวส่วนกลาง มีพื้นที่ Co-space ในส่วนกลาง เช่นห้องประชุม ห้องสันทนาการรวมทั้งการออกแบบฟังก์ชั่นที่ยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ในพื้นที่ห้องส่วนตัวและตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตยุคใหม่ ดังนั้น เอกมัยจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักลงทุนหรือผู้ที่ต้องการซื้ออยู่อาศัยจริง ด้วยผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าถึง 5%” สุวรรณี กล่าว อ่านเพิ่มเติม: ริสแลนด์ ทุนฮ่องกงเดินหน้าลงทุนอสังหาฯ ไทยไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine