ดี-แลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ เผยยอดจับจ่าย “พอร์โต้ โก” (Porto Go) 2 สาขา ทั้ง บางปะอิน และ ท่าจีน ในช่วงเทศกาลหยุดยาววันสงกรานต์ตลอด 9 วัน มียอดจับจ่ายสะพัด 13 ล้านบาท เติบโตกว่า 50% จากปีก่อน
ดี-แลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ เผยยอดจับจ่าย “พอร์โต้ โก” (Porto Go) ทั้ง 2 สาขา ได้แก่ บางปะอิน และ ท่าจีนตลอด 9 วันช่วงสงกรานต์ มียอดจับจ่ายสะพัด 13 ล้านบาท เติบโตกว่า 50% จากปีก่อน และมียอดทราฟฟิกรถเข้า Porto Go บางปะอิน และ Porto Go ท่าจีน รวมทั้ง 2 สาขารวมกว่า 6 หมื่น คิดเป็นจำนวนคนมากกว่า 120,000 คน
สุเทพ ปัญญาสาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี-แลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คอมมูนิตี้มอลล์ และจุดพักรถ หรือ Rest Area เปิดเผยว่า จากผลบวกการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวในประเทศเดินทางกลับภูมิลำเนาและออกท่องเที่ยวมากขึ้น
ในขณะที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศเริ่มกลับเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดันทราฟฟิกรถในช่วงสงกรานต์ตลอด 9 วัน เดินทางคึกคักกว่า 4 แสนคันใน 2 เส้นทาง บางปะอิน ถนนสายเอเชียก่อนถึงตัวเมืองอยุธยา และท่าจีน ถนนพระราม 2
โดยมีทราฟฟิกรถเข้า Porto Go บางปะอิน และ Porto Go ท่าจีน รวมทั้ง 2 สาขารวมกว่า 6 หมื่น คิดเป็นจำนวนคนมากกว่า 120,000 คน และมียอดจับจ่ายภายในศูนย์ฯ ทั้ง 2 แห่ง สะพัดกว่าที่ 13 ล้านบาท เติบโตกว่า 50% จากปีก่อน
“บรรยากาศโดยรวมพบว่านักท่องเที่ยวกลับมาเดินทางสัญจรกันมากขึ้น ส่งผลให้ยอดทราฟฟิกของ Porto Go ทั้งสาขาบางปะอิน และท่าจีน มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลใช้บริการไม่ขาดสายในช่วงหยุดยาวที่ผ่านมา
ด้วยประสบการณ์ในการเลือกและออกแบบพื้นที่ ให้เข้าถึงง่าย สะดวก สบาย สำหรับนักเดินทาง โดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้งอยู่บนเส้นทางหลวงเชื่อมจังหวัด ตอบโจทย์นักเดินทางในการเป็นจุดพักรถ หรือจุดแวะระหว่างทาง ตอบโจทย์เทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคทั้งสำหรับคนที่ยังคงมีความกังวลและรักษาระยะห่างด้วยห้องน้ำสะอาดแบบไร้สัมผัสพร้อมติดเครื่องปรับอากาศ
และเป็นจุดพักรถที่มีร้านบริการไดร์ฟ-ทรูมากที่สุดในประเทศไทยรวมจำนวนร้านไดร์ฟ-ทรูถึง 4 ร้านต่อสาขา รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติก็มีหน้าร้านที่สามารถนั่งทานได้กว่า 30 ร้านในแต่ละสาขา
พร้อมทั้งยังมีจุดชาร์จรถไฟฟ้าทั้งแบบ DC และ AC โซนจำหน่ายสินค้าเพื่อนักเดินทาง ภายใต้มาตรการการดูแลความสะอาดอย่างเข้มงวด ทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในการเข้าใช้บริการที่ Porto Go ทั้ง 2 สาขามากขึ้น” สุเทพกล่าว
อย่างไรก็ดี Porto Go ยังคงเดินหน้าพัฒนาศูนย์บริการทั้ง 2 สาขา อย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านจุดให้บริการสาธารณะต่าง ๆ ให้มีความสะดวก สะอาด และปลอดภัย ตลอดจนการเปิดรับพันธมิตรร้านอาหารต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์และเพียงพอต่อการรองรับนักเดินทางที่แวะสัญจร รวมถึงตั้งเป้าที่จะนำพาพันธมิตรให้เติบโตไปพร้อม ๆ กัน คาดยอดจับจ่ายโตเพิ่ม 30% ในสิ้นปีนี้
อ่านเพิ่มเติม: “อากะ” กับภารกิจ Revamp Brand หนุนเป้าปี 66 โต 1,500 ล้านบาทในสิ้นปี
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine