เจ้าแม่เพลงป๊อป Taylor Swift ขึ้นแท่นคนดังทำรายได้สูงสุดของโลกปี 2019 - Forbes Thailand

เจ้าแม่เพลงป๊อป Taylor Swift ขึ้นแท่นคนดังทำรายได้สูงสุดของโลกปี 2019

Forbes เผยการจัดอันดับคนดังทำเงินสูงสุดของโลก Celebrity 100 : 2019 รายได้เวิลด์ทัวร์ส่งเจ้าแม่เพลงป๊อป Taylor Swift ขึ้นอันดับ 1

Taylor Swift เริ่มต้นยุคของอัลบั้ม Lover ด้วยการครองอันดับ 1 ในการจัดอันดับ Celebrity 100 หรืออันดับคนดังทำเงินสูงสุดโดย Forbes หลังมีรายได้ก่อนหักภาษีในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 185 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นรายได้ที่มากที่สุดของเธอ โดยเพิ่มขึ้น 131% จากปีก่อนที่อยู่ที่ 80 ล้านเหรียญ (เช็กอันดับการจัดอันดับ Celebrity 100 ของปีนี้ได้ที่นี่)

เจ้าแม่เพลงป๊อปอย่าง Swift เคยอยู่ในอันดับ 1 ของการจัดอันดับ Celebrity 100 มาแล้วในปี 2016 ซึ่งในขณะนั้นเธอมีรายได้ 170 ล้านเหรียญซึ่งเป็นรายได้ที่มาจากการจัดคอนเสิร์ต The 1989 World Tour ทั้งนี้ การทัวร์คอนเสิร์ตของ Swift นั้นมีบทบาทอย่างยิ่งที่ทำให้เธอครองอันดับคนดังที่ทำรายได้มากที่สุดได้

ข้อมูลจาก Billboard Boxscore ระบุว่า การทัวร์คอนเสิร์ต Reputation Stadium Tour ในสหรัฐฯ ระหว่าง 8 พฤษภาคม - 6 ตุลาคม 2018 นั้นสร้างรายได้มากกว่าการทัวร์คอนเสิร์ต 1989 World Tour ที่จัดขึ้นระหว่าง 15 พฤษภาคม - 31 ตุลาคม 2015 เสียอีก โดย Reputation Stadium Tour ยังเป็นคอนเสิร์ตที่ทำรายได้สูงสุดในสหรัฐอเมริกา กวาดรายได้เฉพาะในสหรัฐฯ ไปถึง 266.1 ล้านเหรียญ ขณะที่ 1989 World Tour กวาดรายได้ไป 181.5 ล้านเหรียญ

Reputation Stadium Tour ยังถือเป็นการทัวร์คอนเสิร์ตที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ด้วยการแสดงใน 53 สเตเดียม 36 เมือง 7 ประเทศ 4 ทวีป ทำรายได้รวมไป 345 ล้านเหรียญ

Taylor Swift แสดงในคอนเสิร์ต Reputation Stadium Tour (ภาพจาก AFP)

ในปี 2018 ยักษ์ใหญ่ในวงการสตรีมมิ่งวิดีโออย่าง Netflix ยังนำการแสดงสดคอนเสิร์ต Reputation Stadium Tour ลงฉายในช่วงก่อนปีใหม่ 2019 ซึ่งการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ของ Netflix และการลงนามทำข้อตกลงกับแบรนด์ต่างๆ อย่าง Apple, AT&T และ Diet Coke นั้นช่วยเพิ่มรายได้ให้ Swift หลายล้านเหรียญเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา Taylor Swift ได้แยกทางกับค่ายที่เธออยู่มาด้วยยาวนานอย่าง Big Machine Label Group หรือ BMLG และย้ายไปอยู่กับค่าย Republic Records ซึ่งดูแลโดย Universal Music Group หรือ UMG

ซึ่งข้อมูลจากหลายแห่งระบุว่าดีลนี้มีมูลค่าถึง 200 ล้านเหรียญ

แต่การย้ายค่ายของเธอนั้นกลายเป็นประเด็นใหญ่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลัง Swift ออกมาโพสต์ใน  Tumblr  เพื่อเรียกร้องการเป็นเจ้าของเพลงมากมายที่เธอแต่ง ซึ่งอยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ของค่ายเก่าอย่าง BMLG พร้อมโจมตี Scooter Braun เจ้าของค่าย Ithaca Holdings ที่เข้ามาซื้อกิจการของ BLMG ในราคา 300 ล้านเหรียญ

โดย Braun ยังเป็นผู้จัดการของนักร้องสาว Ariana Grande และนักร้องหนุ่ม Justin Bieber ทั้งยังสนิทกับ Kanye West ผู้ที่จัดได้ว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาตของ Swift รวมทั้ง Braun ยังเคยถากถางและหัวเราะเยาะสมัยที่เธอถูกโจมตีจาก West และ Kim Kardashian ผู้เป็นภรรยา ทำให้การขาย BMLG ให้กับ Ithaca Holdings สร้างความเจ็บปวดให้ Swift

Swift อ้างว่า BMLG เสนอโอกาสให้เธอได้รับผลตอบแทนจากอัลบั้มของเธออย่างทีละน้อย (คือเซ็นสัญญา 1 ครั้งต่อการได้ครอบครองอัลบั้มเพียง 1 อัลบั้ม) เธอจึงปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวเพราะคาดว่าเจ้าของค่าย BMLG อย่าง Scott Borchetta คงจะขายเพลงเธอในที่สุด

ขณะที่ Borchetta เขียนจดหมายโต้กลับเธอว่า Swift นั้นมีโอกาสที่จะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ทุกอย่างในโลก ไม่ใช่แค่เพลง แต่ยังเป็นวิดีโอ, ภาพถ่าย และทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับงานของเธอ

สำหรับอัลบั้ม Lover ที่จะวางแผงในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ Taylor Swift กล่าวว่า เธอจะยังเป็นเจ้าของสิ่งใดก็ตามที่เธอสร้างกับ UMG ซึ่งถือว่าเป็นลางดีสำหรับเธอ รวมถึงการติดอันดับ Celebrity 100 ด้วย

หมายเหตุ: การจัดอันดับรายได้คนดัง Celebrity 100 นั้นจัดอันดับจากคนดังที่ "อยู่หน้ากล้อง" โดยวัดจากรายได้ก่อนหักภาษีระหว่าง 1 มิถุนายน 2018 - 1 มิถุนายน 2019     ที่มา     แปลและเรียบเรียงโดย กนกวรรณ มากเมฆ / Online Content Creator
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine