เดือนเมษายนและพฤษภาคม ถือเป็นช่วงเทศกาลและวันหยุดต่อเนื่อง เหมาะสำหรับการพักผ่อนและใช้เวลาแห่งความสุขสนุกสนานกับครอบครัวและเพื่อนฝูง แหล่งท่องเที่ยวที่ยังเป็นที่นิยมท็อปฮิตตลอดกาลคงหนีไม่พ้นทะเลและหาดทราย โดยงปัจจุบันมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยผุดขึ้นมาหลากหลายโครงการ
หากพูดถึงโครงการติดทะเลระดับลักชัวรี่ คงหนีไม่พ้นโครงการศรีพันวา ภูเก็ต โครงการโรงแรมและบ้านพักตากอากาศสุดหรูหลายพันล้านบาท บนเนื้อที่กว่า 80 ไร่ ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต โดย วรสิทธิ อิสสระ หรือ ปลาวาฬ ทายาทรุ่นที่ 3 ของโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเครืออิสสระ และทายาทคนโตของ สงกรานต์ อิสสระ กับบทบาทหน้าที่กรรมการผู้จัดการ ศรีพันวา ภูเก็ต และ บริษัท อิสสระ จุนฟา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท จุนฟา เรียล เอสเตท จำกัด จากประเทศจีน และ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเทนท์ จำกัด (มหาชน)
การเดินทางของทีมงาน Forbes Thailand ในครั้งนี้เพื่อมาสัมผัสบรรยากาศวิวทะเลที่ เดอะ ฮาบิตา (The Habita) โรงแรมเฟสสุดท้ายของศรีพันวา ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา โดยเปลี่ยนบรรยากาศจากวิลล่าที่เราคุ้นเคย เป็นรูปแบบเพนท์เฮ้าส์ สไตล์ทรอปริคอลร่วมสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของโรงแรม ที่พักโซนใหม่ของศรีพันวานี้ ตั้งอยู่บนเนินเขา หันหน้าไปทางทิศตะวันตก เหมาะกับการชมวิวพระอาทิตย์ตกดินเป็นอย่างดี
เดอะ ฮาบิตา ประกอบไปด้วย ห้องพักแบบพูลสวีท 20 ห้อง และห้องพักแบบเพนท์เฮาส์ 10 ห้อง แต่ละห้องมีขนาด 70-140 ตารางเมตร พร้อมด้วยสระว่ายน้ำส่วนตัวทุกห้อง ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงสระว่ายน้ำส่วนกลางขนาดใหญ่ ร้านอาหาร Baba Chino, Terrace Bar และ Baba Hot Box โดยมีราคาเริ่มต้นที่คืนละ 13,000 บาทต่อคืน ซึ่งก่อนจะมาเป็นชื่อ เดอะ ฮาบิตา คำว่า “เดอะ ลีฟ” (The Leaf) เป็นหนึ่งในชื่อตัวเลือกของโครงการนี้ เพราะด้วยความร่มรื่นและเต็มไปด้วยต้นไม้ใบไม้ และยังมีสถาปัตยกรรมในส่วนที่เป็นพื้นที่หลักของโครงการที่ได้ถูกออกแบบมาให้เป็นหลังคารูปใบไม้ใหญ่ ซึ่งเป็นตัวแทนของโครงการได้เป็นอย่างดี แต่จากความลึกซึ้งของการอยู่อาศัยในนิยามของวรสิทธิ ไม่ต้องการให้รู้สึกประทับใจเพียงเพราะเห็นจากรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังต้องการให้รู้สึกถึงความอบอุ่นอย่างแท้จริงเวลาเข้ามาพักอาศัย “เดอะ ฮาบิตา” จึงครอบครองใจไปในที่สุด
(เดอะ ฮาบิตา (The Habita) ขอบคุณภาพจาก http://sripanwa.blogspot.com/2016/01/the-habita-sri-panwa.html)
นอกจากนี้ เรายังได้มีโอกาสไปเยี่ยมชม บีชฟร้อนท์วิลล่า 5 ห้องนอน บ้านเดี่ยวซึ่งเนื้อที่บ้านและสนามหญ้าทอดยาวต่อเนื่องไปกับชาดหาด ให้อารมณ์เหมือนมีทะเลส่วนตัวหน้าบ้าน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2559 นี้ ในโครงการ Baba Beach Club อีกหนึ่งโครงการที่บริหารงานและดูแลโดย ปลาวาฬ วรสิทธิ ด้วยมาตรฐานเดียวกับศรีพันวา
โครงการใหม่นี้ตั้งอยู่ที่หาดนาใต้ บนพื้นที่ 42 ไร่ พร้อมด้วยหน้าหาดที่มีความยาว 180 เมตร ด้วยวิวทะเลอันดามัน ซึ่งห่างจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตไปทางเหนือเพียง 20 นาทีเท่านั้น กับคอนเซปต์ทรอปริคอลร่วมสมัย ซึ่ง Baba Beach Club ประกอบด้วย โรงแรมสไตล์บีชคลับ 16 ห้อง, บีชฟร้อนท์วิลล่า 5 ห้องนอน ขนาด 1,300 ตารางเมตร จำนวน 6 ยูนิต, พูลวิลล่า 2 ห้องนอน จำนวน 36 ยูนิต และบาบาสวีทหรือพูลสวีทขนาด 1 ห้องนอน จำนวน 104 ยูนิต กับราคาเริ่มต้น 10.7 ล้านบาท เพนท์เฮาส์ขนาด 2 ห้องนอน จำนวน 8 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 26 ล้านบาท โดยโครงการได้รับการออกแบบให้มีวิวสวนสวยพร้อมวิวทะเลนาใต้ กับมาตรฐานด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมกิจกรรมอื่นๆ รอบโครงการ และในพื้นที่รีสอร์ทยังแบ่งส่วนของอสังหาริมทรัพย์สำหรับอยู่อาศัยเองหรือเพื่อการพาณิชย์อีกดัวย
จากความสำเร็จของโครงการศรีพันวา สู่โครงการใหม่ล่าสุด Baba Beach Club อีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงความมีวิสัยทัศน์และความสามารถในการมองหาโอกาสและการวางแผนธุรกิจของทายาทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในวัย 30 ต้นๆ วรสิทธิ อิสสระ กับการหาทำเลที่สวยและดี ในเวลาที่ราคาที่ดิน สิ่งก่อสร้าง และการแข่งขัน เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองอุปสงค์ของมหาเศรษฐีที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของธรรมชาติและคนท้องถิ่นต่อไป
