Editor’s Note
Where there’s a will, there’s a way.
สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน
ในอดีตยามที่คนไทยมีโอกาสเดินทางไปยังประเทศเฉกเช่น เกาหลี ญี่ปุ่น จีน หรือฮ่องกง สิ่งหนึ่งที่มักจะเล็ดลอดเข้าไปอยู่ในลิสต์ของฝากที่ต้องซื้อกลับบ้าน คือ สาหร่ายอบแห้งปรุงรส ที่เป็นหนึ่งในขนมขบเคี้ยวยอดฮิตที่หาทานได้ไม่ง่ายนักในเวลานั้น และหลายปีต่อมา คนไทยก็ต้องตื่นตาตื่นใจยามที่ได้เห็นสาหร่ายปรุงรสนานาชนิดวางเรียงรายอยู่ ตามชั้นในร้านสะดวกซื้อ และซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วราชอาณาจักร ภายใต้ชื่อยี่ห้อที่สะดุดหูและสัญลักษณ์ที่สะดุดตาอย่าง “เถ้าแก่น้อย”
เรื่องราวแห่งความสำเร็จของการเปิดตลาดใหม่และปลุกปั้นจนสาหร่ายปรุงรสขยับขึ้น แท่นเป็นหนึ่งในขนบขบเคี้ยวยอดฮิตสำหรับคนไทย และนักท่องเที่ยวชาวเอเชียที่ทุกวันนี้ต้องมีสาหร่าย “เถ้าแก่น้อย” เป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านเสมอ ต้องยกให้ อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ที่รู้จักกันดีในนาม “ต๊อบ เถ้าแก่น้อยพันล้าน” ผู้เล็งเห็นโอกาสอันหอมหวลของตลาดสาหร่ายปรุงรสเมื่อ 10 ปีที่แล้วยามที่เขามีอายุไม่ถึง 20 ปี และต่อยอดผลิตภัณฑ์จนมีมากกว่า 100 รายการ พร้อมทั้งผลักดันแบรนด์จนเป็น “top of mind” ของผู้บริโภคที่ครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 60% อีกทั้งยังคิดการใหญ่ รุกตลาดต่างประเทศ หมายมั่นแจ้งเกิดในเวทีโลก
หนทางของอิทธิพัทธ์ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทว่ามีขวากหนามนานัปการเฉกเช่นเดียวกันกับเจ้าของธุรกิจรายอื่นที่ Forbes Thailand ฉบับนี้ได้นำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวการพลิกโฉมของ “แป้งศรีจันทร์” จากเครื่องสำอางค์ที่มีภาพลักษณ์ “กระต๊อบชานเมือง” สู่ความเป็นอินเตอร์ ของ รวิศ หาญอุตสาหะ ทายาทรุ่นที่สาม ในคอลัมน์ “Thriving 30s” หรือความบากบั่นในการเนรมิต “ทะเลกรุงเทพฯ” ของ ไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ ผู้บุกเบิก “สวนสยาม” และ วุฒิชัย ทายาทรุ่นสอง ผู้ปลดหนี้และยกเครื่องสวนสนุกครั้งใหญ่ หมายเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในอาเซียน ในคอลัมน์ “Asean Biz” โดยผู้ประกอบการเหล่านี้ ต่างสร้างตำนานของตนเอง และสิ่งหนึ่งที่พวกเขาต่างมีไว้ในครอบครองเหมือน ๆ กัน คือ “ใจที่สู้” และ “ความมุ่งมั่นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด” ภายใต้ความเชื่อในมนต์ขลังของคำกล่าวที่ว่า “Where there’s a will, there’s a way.”
ศรีวิภา สิริปัญญาวิทย์
Editor
FORBES THAILAND