“เซ็นทรัล จันทบุรี” จิ๊กซอว์ล่าสุดของ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา มูลค่า 3,500 ล้านบาท ล่าสุดเปิดตัวห้างเซ็นทรัล จันทบุรี คาดอีก 5 ปี เมื่อโครงการมิกซ์ยูสนี้เสร็จสมบูรณ์ ทั้งโรงแรมและที่อยู่อาศัย จะก้าวสู่เป้าหมายของการเป็น ไลฟ์สไตล์ มิกซ์ยูส ดิเวลลอปเม้นท์ ศูนย์รวมการใช้ชีวิตของผู้คน และช่วยเสริมความแกร่งให้กับภูมิภาคตะวันออก
เลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์ Head of Property Management บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากฐานข้อมูล The1 พบว่า จังหวัดจันทบุรีมีกำลังซื้อสูงมาก โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็น Middle to Wealth & Business Successor ของจังหวัด จับกลุ่มประชากรกลุ่มเป้าหมาย Catchment เป็นจำนวนมากกว่า 1.8 ล้านคน รวมประชากรในจันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี สระแก้ว นอกจากนี้ ยังมีศักยภาพในการดึงกลุ่มลูกค้าข้ามแดนจากกัมพูชา ผู้มีกำลังซื้อสูงที่นิยมมาช้อปปิ้ง หลังจากเดินเข้ามาประเทศไทยเพื่อเข้ารับการบริการด้านสุขภาพ ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายโดยรวมของห้าง ประกอบไปด้วยคนในจังหวัดจันทบุรี ร้อยละ 90 จังหวัดใกล้เคียง ร้อยละ 5 และจากกัมพูชาอีก ร้อยละ 5 โดยบริษัทมองว่าพื้นที่ดังกล่าวยังมีความต้องการอีกมาก จึงได้พัฒนาโครงการ เซ็นทรัล จันทบุรี ขึ้นมารองรับ จากปัจจุบันจันทบุรีมีศุนย์การค้า โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ จันทบุรี เปิดให้บริการอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งห่างกันเพียง 1-2 กิโลเมตรเท่านั้น นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า จันทบุรีมียอดขายอันดับต้นๆในสาขาต่างจังหวัด มีสถานศึกษาถึง 45 แห่ง โรงแรม 29 แห่ง และที่พักอาศัย 45 แห่ง และมี GDP จังหวัดอยู่ที่ 240,000 ล้านบาท คิดเป็นอันดับ 14 ของประเทศ และสำหรับการเปิดให้บริการ เซ็นทรัล จันทบุรี ในครั้งนี้ ล่าสุดมียอดจองพื้นที่แล้วร้อยละ 80 กับการนำ 150 แบรนด์ดังและแบรนด์ท้องถิ่นเข้ามาเปิดให้บริการภายในศูนย์ มั่นใจการเปิดให้บริการเซ็นทรัล จันทบุรีนั้นจะคุ้มทุนใน 5-6 ปี และเชื่อว่าจะมีทราฟฟิกต่อวันไม่ต่ำกว่า 30,000 คน ศูนย์การค้า “เซ็นทรัล จันทบุรี” เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยเป็นโครงการมิกซ์ยูส “เซ็นทรัล จันทบุรี” มีมูลค่า 3,500 ล้านบาท เป็นศูนย์การค้าแห่งที่ 37 ของเซ็นทรัลพัฒนา จิ๊กซอว์ล่าสุดมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยเสริมความแกร่งให้กับภูมิภาคตะวันออก รองรับการเติบโตของโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในอนาคต ภายใต้แนวคิด “มหัศจรรย์จันทบุรี” เติมเต็มศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ดีที่สุด ทั้งพื้นที่ศูนย์การค้า Semi-Outdoor, โรงแรม, โครงการที่อยู่อาศัย, คอนเวนชั่นฮอลล์ พร้อมพื้นที่สีเขียวกว่า 4 ไร่ และ Sport Destination 4,000 ตร.ม. ทั้งนี้การพัฒนาโครงการครบทุกเฟสจะใช้เวลา 5 ปีจากนี้ ซึ่งปัจจุบันยังเหลือในส่วนของการพัฒนาโรงแรมและที่พักอาศัย และเมื่อโครงการทั้งหมดก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ จะส่งผลให้เซ็นทรัล จันทบุรี ก้าวสู่เป้าหมายของการเป็น ไลฟ์สไตล์ มิกซ์ยูส ดิเวลลอปเม้นท์ เป็นศูนย์รวมการใช้ชีวิตของผู้คน “กำลังซื้อของผู้คนในจันทบุรีค่อนข้างดี ซึ่งเกิดจากระบบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งมีทั้งในส่วนของกลุ่มโรงงาน ผู้ประกอบการด้านพืชผลทางเกษตร และธุรกิจอัญมณี และเมื่อรวมกับจังหวัดรอบๆ อย่าง ตราด ปราจีนบุรี และสระแก้ว” เลิศวิทย์ กล่าว นอกจากนี้ จุดแข็งของเซ็นทรัล จันทบุรี คือ มีพื้นที่จัดอีเว้นท์รองรับตลาด MICE เพื่อรองรับเป็นเมืองการจัดประชุมสัมมนา โดยโครงการมีพื้นที่คอนเวนชั่นฮอลล์กว่า 1,800 ตร.ม. รวมถึงยังเปิดพิ้นที่ให้ห้างช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการท้องถิ่นและผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะในธุรกิจอัญมณีซึ่งเป็นธุรกิจที่ขึ้นชื่อของจังหวัด โดยรวมมีแบรนด์ท้องถิ่นเข้ามาเช่าพื้นที่เปิดร้านในห้างราว 50 แบรนด์ อ่านเพิ่มเติม: DITP ผนึกกำลัง GIT ขับเคลื่อนงาน Bangkok Gems and Jewelry Fairไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine