ถอดมุมคิด 3 ทายาท "บุญรอด-เนสกาแฟ-ซีพี" เปิดพรมแดนใหม่ขยายอาณาจักร - Forbes Thailand

ถอดมุมคิด 3 ทายาท "บุญรอด-เนสกาแฟ-ซีพี" เปิดพรมแดนใหม่ขยายอาณาจักร

วันที่ 27 มิถุนายน 2562 นิตยสาร Forbes Thailand นิตยสารธุรกิจภาษาไทยที่นำเสนอเรื่องราวความสำเร็จของเจ้าของกิจการและนักบริหาร จัดงานสัมมนาประจำปี Forbes Forum 2019 : The Next Tycoon โดยในช่วงแรกเป็นหัวข้อ Leading to New Frontiers 

ปิติ ภิรมย์ภักดี กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจซัพพลายเชน บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจของบุญรอดในปัจจุบันตั้งอยู่บนพื้นฐานของธุรกิจเดิม ไม่ว่าจะเป็นการบริการ อาหาร และโลจิสติกส์ ถึงแม้บางธุรกิจอาจไม่หวือหวาหรือมีขนาดใหญ่ แต่ก็กำลังพัฒนาไปในช่องทางต่างๆ

“ขณะที่โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หลายคนพูดถึงการถูกดิสรัปชั่น (disruption) ในวงการธุรกิจ ซึ่งมองว่าจริงๆ แล้วดิสรัปชั่นไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่ เป็นเรื่องปกติ เพราะการทำธุรกิจคือการที่เราต้องตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้อยู่แล้ว ดังนั้น ผมว่าเราอย่าไปตื่นเต้นกับดิสรัปชั่นมากเกิน ที่ผ่านมาสิ่งที่ออกมาเพื่อดิสรัป สามารถดิสรัปได้จริงๆ ไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ดิสรัปชั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เราควรมองข้าม เพราะการทำธุรกิจต้องเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แต่การเปลี่ยนแปลงต้องทำเมื่อเราพร้อม บางธุรกิจอาจต้องใช้ความเร็วการเปลี่ยนแปลง แต่การตัดสินใจในบางธุรกิจต้องอาศัยความแม่นยำ”

ปิติ ภิรมย์ภักดี

ปิติ กล่าวว่า ดิสรัปชั่นเป็นเรื่องที่ดี และเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจเติบโต ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม คนรุ่นเก่าหรือผู้ใหญ่อาจมีความกังวลใจพอสมควร ไม่อยากเปลี่ยน ส่งผลให้ลูกน้องไม่อยากเปลี่ยนไปด้วย ดังนั้น ในการเปลี่ยนแปลงจึงต้องตั้งคำถามให้แม่นยำ สร้างความเข้าใจกันระหว่างกัน ถ้ามีความเข้าใจ การเปลี่ยนแปลงก็จะเกิดขึ้นได้

 

ลองผิดลองถูกนำมาซึ่งประสบการณ์

เฉลิมชัย มหากิจศิริ ซีอีโอและประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท พีเอ็มส์ กรุ๊ป และโทรีเซน ไทย กล่าวว่า ในช่วงที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลง ข้อมูลข่าวสารเข้ามามากมาย ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็ว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นักธุรกิจหรือผู้บริหารองค์กรต่างๆ ต้องตระหนักคืออย่าตามกระแสมากเกินไป

“ขณะที่เรื่องดิสรัปชั่น หลายคนมองแค่เรื่องของเทคโนโลยี ซอฟต์แวร์ สิ่งที่มาใหม่ๆ แต่มองว่าในทุกธุรกิจต้องเจออุปสรรคอยู่แล้ว เพียงเราต้องเรียนรู้และยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น เราต้อง Talk, Trust และ Try คือพูดคุยกับทีมว่าสิ่งที่จะมาดิสรัปนั้นมีอะไรบ้าง จากนั้นเชื่อสัญชาตญาณ แล้วไปทดลองทำ ถึงแม้เทคโนโลยีใหม่มีโอกาสสำเร็จแค่ไม่ถึง 10% แต่เงินลงทุนนั้นก็นำมาซึ่งประสบการณ์ ที่เราสามารถนำมาแบ่งปันกับคนในองค์กร”

เฉลิมชัย มหากิจศิริ

เฉลิมชัย กล่าวว่า “ผมเป็นคนกล้าลองผิดลองถูก เพราะเชื่อว่าถ้าไม่ลองจะไม่ได้ประสบการณ์ แต่บางครั้งก็พลาดการลงทุนที่น่าสนใจไปเนื่องจากความแตกต่างทางความคิดระหว่างผู้บริหารในองค์กร คนยุคเก่าหรือผู้ใหญ่ที่ไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีจะพลาดโอกาสในการลงทุนสมัยใหม่ ซึ่งไม่ผิด แต่จริงๆ อยากให้ทุกคนศึกษาข้อมูล ยอมรับกับสิ่งที่โลกกำลังเดินไป ไม่ใช่ปิดตาแล้วไม่เอา ไม่อย่างนั้นเราจะพลาดโอกาสดีๆ ที่อาจนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกิจหลักของเราได้

 

พลิกมุมคิดพนักงานให้กล้าออกจากกรอบ

ธนิศร์ เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการ LOTS Wholesale Solutions กล่าวว่า ธุรกิจใหม่ของบริษัทตอนนี้คือการไปบุกเบิกสยามแม็คโครในประเทศอินเดีย ที่ดำเนินการมาได้ 2-3 ปีแล้ว ซึ่งจริงๆ มองว่าตลาดค้าปลีกและค้าส่งอินเดียยังไม่ใช่ตลาดที่พัฒนาเท่าไหร่ ถึงแม้จะมีคู่แข่งเป็น Wallmart และ Metro ซึ่งอยู่มานานแต่ยังขยายช้า ดังนั้นมองว่าเรายังมีโอกาสเติบโตได้

“สำหรับคนไทยตลาดอินเดียอาจให้ความรู้สึกซับซ้อน แต่ก่อนที่เราจะลงทุน เราได้จ้างคนไปศึกษาเพื่อให้เราเข้าใจตลาด เมื่อเข้าใจตลาดก็ต้องยอมรับว่าอินเดียเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม แม้แต่ในเมืองเดียวกันผู้คนยังแตกต่างกันมาก ดังนั้น ในการทำงานเราจึงต้องพึ่งพาคนอินเดียอยู่ พร้อมกับนำระบบของไทยไปประยุกต์ใช้”

ธนิศร์ เจียรวนนท์

ธนิศร์ กล่าวว่า อินเดียเป็นประเทศที่ท้าทาย แต่สำคัญที่สุดคือเราต้องทำให้พนักงานเราไม่คิดว่าตลาดอินเดียยาก หรือจะทำแต่สิ่งเดิมๆ ที่เคยทำ เราต้องผลักดันให้พนักงานกล้าก้าวออกมา ดังนั้น การทำธุรกิจที่อินเดียจึงไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่เป็นเรื่องคนที่จะทำอย่างไรให้เขาเชื่อว่าเขาชนะคู่แข่งได้

อ่านเพิ่มเติม Forbes Thailand Forum 2019 The Next Tycoons ช่วงที่ 1   อ่านเพิ่มเติม  
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine