จอเงิน พร้อมรบ - Forbes Thailand

จอเงิน พร้อมรบ

FORBES THAILAND / ADMIN
21 Oct 2015 | 11:49 AM
READ 4969
เรื่อง: Liyan Chen เรียบเรียง: ชนกานต์ อนันตคุณากร
 
บ่ายวันหนึ่ง Wang Jianlin ก้าวลงมาจากรถลีมูซีนบนถนนเลขที่ 42 ที่อยู่ไม่ไกลจากย่านไทม์สแควร์ในเมือง New York ที่บรรยากาศกำลังอบอวลไปด้วยไออากาศร้อนระอุของช่วงปลายเดือนมีนาคม กลุ่มคนที่ยืนเข้าแถวรอต้อนรับต่างกรูเข้าไปล้อมหน้าล้อมหลังชายผู้นี้แทบจะในทันทีที่เขาปรากฎตัว นี่เป็นครั้งแรกที่พนักงานของ AMC Empire Theatre จะได้พบกับเจ้าของกิจการชาวจีนคนใหม่ ชายผู้ได้ชื่อว่าร่ำรวยที่สุดในเอเชียด้วยมูลค่าทรัพย์สินจำนวน 38,600 ล้านเหรียญ
 
Jianlin ปรากฎกาย โดยมีผู้ติดตามคอยเดินประกบเพื่อให้ข้อมูลความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้ อาคารซึ่งมีอายุเก่าแก่ร่วมร้อยปีหลังนี้เป็นหนึ่งในโรงภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดติดอันดับโลก “รายได้โดยรวมอาจจะสูงที่สุดจริง แต่ถ้าคำนวณรายได้ต่อโรงภาพยนตร์แล้วถือว่าไม่สูง ผมคิดว่ายอดขายบัตรชมภาพยนตร์ของเราที่ Wujiaochang (ในเมือง Shanghai) สูงกว่านี้”
 
ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครรู้จักเขา แต่ความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการบริษัท AMC มูลค่า 2.6 พันล้านเหรียญในปี 2012 ส่งผลให้ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลก การถือหุ้นในกิจการโรงภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าราว 2.1 พันล้านเหรียญ และการเสนอขายหุ้นไอพีโอกิจการสองแห่งของเขาในประเทศบ้านเกิดเมื่อไม่นานมานี้เปลี่ยนสถานะของ Jianlin จากนักธุรกิจชาวจีนผู้ชอบทำตัวลึกลับให้กลายเป็นอภิมหาเศรษฐีลำดับที่ 11 ของโลกไปในทันที

โดยอันดับความมั่งคั่งของเขาแซงหน้า Mark Zuckerberg, Sheldon Adelson และ Li Ka-shing (ซึ่งติดโผอภิมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของเอเชียมาเป็นเวลานานก่อนหน้านี้) และการเสนอขายหุ้นไอพีโอมูลค่า 3.7 พันล้านเหรียญในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาทำให้ Dalian Wanda Commercial Properties บริษัทที่เป็นธุรกิจเรือธงของเขาได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน FORBES Global 2000 List และในปีหน้า Wanda Cinema Line ธุรกิจอีกแห่งหนึ่งของเขาจะเดินรอยตามความสำเร็จแบบเดียวกัน
 
Jianlin ไม่ได้ต้องการเป็นแค่เบอร์หนึ่งในประเทศจีน เขาวางเป้าหมายสำหรับตัวเองและกลุ่มธุรกิจในเครือ Dalian Wanda ที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น โดยตั้งเป้าว่ายอดขายของกลุ่ม Wanda Group จะต้องแตะ 1 แสนล้านเหรียญในปี 2020 ให้ได้ (จากยอดขายปัจจุบันที่ 40,000 ล้านเหรียญ) และมีสัดส่วนรายได้ 1/5 จากต่างประเทศ
 
การพบกันระหว่างทีมงานกับ Jianlin ในครั้งนี้จัดขึ้นที่ห้องสวีทสุดหรูบนถนน Fifth Avenue ในโรงแรม St. Regis โดยเขาได้พูดคุยกับทีมงาน Forbes Asia เกี่ยวกับความฝันของเขาที่จะก้าวไปไกลถึงระดับโลก เนื่องจากเป็นทริปการเดินทางมาอเมริกาช่วงสั้นๆ ตารางงานของเขาในแต่ละวันจึงค่อนข้างจะแน่นเอียด แต่เขาก็พอจะปลีกตัวให้เราได้มีโอกาสนั่งสัมภาษณ์ในวันนี้
 
“เรามีเป้าหมายชัดเจนที่จะขยายธุรกิจไปต่างประเทศ (สำหรับ Wanda Group) ในส่วนของธุรกิจบันเทิงและกีฬา” Jianlin ให้สัมภาษณ์ทีมงานเป็นภาษาจีนขณะโน้มตัวมาทางด้านหน้าของเก้าอี้
 
ปริศนาชิ้นที่สองของการขยายธุรกิจไปต่างประเทศของกลุ่ม Wanda คือ การสร้างอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ระดับหรู ซึ่งเรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปดูภูมิหลังความเป็นมาของ Jianlin ที่ก่อร่างสร้างตัวมาจากการทำธุรกิจในบ้านเกิด เขาเคยเป็นทหารประจำการกองทัพบกและเป็นข้าราชการก่อนที่จะประสบความสำเร็จและร่ำรวยจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันเขาเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้า แหล่งการค้า โรงภาพยนตร์ และโรงแรมหรูในประเทศจีนรวมทั้งสิ้น 430 แห่ง
 
“ผมต้องการใช้เวลา 10 ปีนับจากนี้ในการสร้างตราสินค้าของจีนให้ติดอันดับโลก” Jianlin พูดอย่างโอ้อวดว่ากลุ่มโรงแรมในเครือ Wanda ของเขาจะต้องเลิศหรูอลังการกว่าโรงแรมในเครือ Shangri-La ของ Robert Kuok ซึ่งเป็นอภิมหาเศรษฐีชาวมาเลเซียอย่างแน่นอน โดยเขาได้ลงทุนเงินไปแล้วกว่า 2 พันล้านเหรียญในเมือง Chicago และเมือง Beverly Hills และกำลังจะลงทุนเพิ่มในเมือง New York และเมือง San Francisco ทั้งนี้ Jianlin วาดฝันที่จะเห็นโรงแรมในเครือ Wanda ผุดขึ้นในเมืองสำคัญๆ กว่า 30 แห่งทั่วโลก ไล่เรียงจากกรุงลอนดอนไปจนถึงเมืองซิดนีย์ภายในปี 2025
 
Jianlin ไม่ได้ปิดบังความรู้สึกทะเยอทะยานที่ต้องการก้าวไปไกลถึงระดับฮอลลีวู้ด จะว่าไปตัวเขาก็ไม่ต่างจากชาวจีนส่วนใหญ่ที่ให้ค่าความสำคัญกับขนาดและสถานะเหนือสิ่งอื่นใด ดูได้จากการที่ Dalian Wanda Group ของ Jianlin ลงทุนเงินประมาณ 8 พันล้านเหรียญเพื่อสร้างสตูดิโอผลิตภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่เมือง Qingdao และเชิญดาราภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Nicole Kidman และ Leonardo DiCaprio มาร่วมในงานเปิดตัวโครงการก่อสร้างสตูดิโอดังกล่าว ซึ่งภาพยนตร์แนวอินดี้ไม่อยู่ในกลุ่มที่ได้รับเชิญ Jianlin บอกว่าเฉพาะภาพยนตร์ที่มีทุนสร้างไม่ต่ำกว่า 50 ล้านเหรียญเท่านั้นถึงจะได้เข้าฉายในมหานครแห่งโรงภาพยนตร์ของเขาที่ชื่อว่า Qingdao Oriental Movie Metropolis
 
เมื่อหันมาดูกิจการที่เขาซื้อในต่างประเทศจะเห็นว่ามูลค่ากิจการจะอยู่ระหว่าง 5,000 – 10,000 ล้านหยวน (ราว 800 – 1,600 ล้านเหรียญ) ถึงแม้ว่า Dalian Wanda Group จะไม่สนใจการซื้อสตูดิโอภาพยนตร์ Lionsgate และ MGM แล้วในตอนนี้ แต่ Jianlin ก็ยังออกตระเวนไปตามที่ต่างๆ เพื่อมองหาธุรกิจที่น่าสนใจต่อไป โดยเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “ในอีก 2-3 ปีนับจากนี้ คุณจะได้เห็นดีลการซื้อกิจการของ Wanda อย่างต่อเนื่องแน่นอน” ก่อนจะตบท้ายประโยคว่า “พวกเราจะกวาดให้เกลี้ยง”
คลิ๊กอ่าน "จอเงิน พร้อมรบ" ฉบับเต็มได้ที่ FORBES THAILAND ฉบับ SEPTEMBER 2015