อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คิง เพาเวอร์ จัดงานแถลงนโยบาย และแผนการดำเนินธุรกิจ ประจำปี 2566 ชูแนวคิด "THE POWER OF POSSIBILITIES" ชีวิตไม่หยุดค้นหาความเป็นไปได้ ยืนหยัดขับเคลื่อนธุรกิจคนไทยให้ก้าวสู่มิติใหม่ระดับสากล พร้อมผสาน Digital Transformation ด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมสินค้าที่ทันสมัย และเซอร์วิสโซลูชันใหม่ๆ ทั้งในสนามบิน และใจกลางเมือง
การปรับทัพในรอบ 30 ปีนี้ คิง พาวเวอร์ ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่จากเดิม 4 เป็น 8 แกนหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจสินค้าปลอดอากร, กลุ่มธุรกิจค้าปลีก, กลุ่มธุรกิจอาหาร, กลุ่มธุรกิจโรงแรม, กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคและบริโภค, กลุ่มธุรกิจสร้างสรรค์ประสบการณ์, กลุ่มธุรกิจกีฬา และกลุ่มกิจกรรมเพื่อสังคมเพื่อให้สอดรับกับสถานการณและเทรนด์ธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน
โดย 2 โปรเจ็กต์ยักษ์ใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นได้แก่ King Power Duty Free ณ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite Building) และ King Power Downtown Duty Free บนทำเลธุรกิจใจกลาง CBD รวมพื้นที่เชิงพาณิชย์ร่วม 10,000 ตารางเมตร มีมูลค่าการลงทุนกว่าสามพันล้านบาท รับเปิดประเทศเต็มรูปแบบ
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า “ในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ความร่วมมือร่วมใจของพนักงานทุกระดับเป็นพลังใจที่สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวผ่านมาได้
ทำให้เกิดแนวคิด “WE are powerful than I” นำมาต่อยอดเป็น Brand Idea ขององค์กรที่ก่อเกิดจากความมีส่วนร่วมของพนักงานทุกคนในการสร้างพลังแห่งความเป็นไปได้ จนสร้างสรรค์เป็นแนวคิดหลัก THE POWER OF POSSIBILITIES ชีวิตไม่หยุดค้นหาความเป็นไปได้ โดย คิง เพาเวอร์ มุ่งเน้นที่จะค้นหาและสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางเพื่อผู้คนทั่วโลก และเพื่อรองรับการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ
กลุ่มบริษัทฯ เตรียมเปิดดิวตี้ ฟรี ใหม่อีกสองแห่งคือ ที่อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite Building) รองรับผู้โดยสารได้ราว 151,000 รายต่อวัน และอีกแห่งบนทำเลธุรกิจใจกลาง CBD ตั้งเป้ารองรับนักท่องเที่ยวราว 50,000 คนต่อวัน
"คิง เพาเวอร์ พร้อมที่จะผนึกกำลังพันธมิตรทุกภาคส่วนและพนักงานทุกระดับเพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมสู่ความยั่งยืนครบทุกมิติ โดยยึดแกนหลัก The Power of Possibilities ผันธุรกิจคิง เพาเวอร์ ให้เป็นมากกว่ากลุ่มสินค้าปลอดภาษี
ผ่านกลยุทธ์ 4Es ได้แก่ 1. Enable ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคโดยนำเทคโนโลยี และวัฒนธรรมใหม่ๆ ของโลกดิจิทัลมาบริการ 2. Encourage ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และมุมมองล้ำสมัยของบุคลากร และพันธมิตรทางธุรกิจ 3. Explore ส่งมอบความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของประสบการณ์การเดินทาง และการใช้ชีวิตให้กับผู้บริโภค และ 4. Empower จุดประกายให้ผู้คนทั่วโลกได้ออกมาใช้ชีวิตในทุกวันให้พิเศษกว่าเดิม" อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา กล่าว
โดยในปีนี้ คิง เพาเวอร์ ได้ปรับโครงสร้างองค์กรให้เป็น Multi-Business จากเดิมที่มี 4 แกนหลัก ให้เป็น 8 แกนหลัก เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ในรูปแบบต่างๆ อย่างรวดเร็วและครบครัน ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว และการช็อปปิ้ง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เติมเต็มทุกความต้องการของชีวิตที่หลากหลายให้แก่ผู้บริโภค และนักท่องเที่ยวทั่วโลก
โดยในปีที่ผ่านมาได้มีการปรับโฉมพื้นที่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 12 ปี โดยหัวใจสำคัญ คือการเป็น "World Junction" ที่รวมแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากกว่า 20 แบรนด์ชั้นนำ ไว้ในที่เดียว เพื่อสร้างปรากฏการณ์ "ดิวตี้ ฟรี เวิล์ดคลาส ช็อปปิ้ง เดสติเนชั่น" (Duty Free World Class Shopping Destination) ให้สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค
ด้าน คิง เพาเวอร์ มหานคร ยังชูคอนเซ็ปต์ THE MAHANAKHON OF LIVES มหานคร หนึ่งเดียวของทุกคน สะท้อนสีสัน เสน่ห์ ของกรุงเทพฯ เมืองหลวงที่นักเดินทางทั่วโลกและคนไทยต้องมาเช็คอิน โดยมีโรงแรมเดอะสแตนดาร์ด แบ็งคอก มหานคร เข้ามาช่วยสนับสนุนให้ คิง เพาเวอร์ มหานคร เป็น ICONIC WORLD CLASS LANDMARK DESTINATION ระดับโลก
ขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล
ประกอบกับการมุ่งเน้น Digital Transformation เพื่อให้องค์กรมีความทันสมัย โฟกัสการตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าปัจจุบัน และอนาคตมากยิ่งขึ้น (Customer-centric) พัฒนาทั้งในด้านของระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ด้านบริหารงาน ด้านการขายและหลังการขาย ควบคู่กับการพัฒนาวัฒนธรรมองค์กร และบุคลากร
นอกจากในส่วนของโครงสร้างธุรกิจแล้ว คิง เพาเวอร์ ยังใส่ใจ และให้ความสำคัญกับพนักงาน ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนองค์กรเสมอมา โดยมีการส่งเสริม และพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของพนักงานในมิติต่างๆ รวมทั้งมอบรางวัล Appreciation Recognition ให้กับพนักงานเกษียณ และพนักงานที่ทำงานครบรอบ 30 ปี, 20 ปี และ 10 ปี ตามลำดับ เพื่อเป็นกำลังใจ และขอบคุณในความทุ่มเทของพนักงานทุกระดับอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม: กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เผยผลประกอบการปี 65 เคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมและข้อมูล
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine