สรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง สร้าง TIMO TRUNKS ดังไกลต่างแดน - Forbes Thailand

สรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง สร้าง TIMO TRUNKS ดังไกลต่างแดน

FORBES THAILAND / ADMIN
04 Aug 2021 | 12:43 PM
READ 1391

สรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง ผู้ก่อตั้งแบรนด์ TIMO TRUNKS แบรนด์แฟชั่นกางเกงว่ายน้ำชาย ที่จำหน่ายไปแล้วใน 14 ประเทศทั่วโลก และเป็นที่กล่าวถึงในต่างแดน พร้อมเปิดเผยแนวคิดขึ้นแท่นแบรนด์ชุดว่ายน้ำชายที่นำสมัยแห่งอนาคตผ่าน forbes.com

สรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง สรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง ผู้ก่อตั้งและควบตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างสรรค์ TIMO เมื่อปี 2011 และวันนี้  TIMO แบรนด์แฟชั่นกางเกงว่ายน้ำชาย เข้ามาเปลี่ยนตลาดกางเกงว่ายน้ำด้วยความความคิดสร้างสรรค์ผ่านการออกแแบบ ปัจจุบันส่งออกแบบไปแล้ว 14 ประเทศทั่วโลก และล่าสุดจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตในอิตาลี มุ่งหน้าลดคาร์บอนฟูตปรินต์ จากการผลิตพร้อมนำเสนอกลยุทธ์ความยั่งยืนอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญหลังเดินหน้าสะสมประสบการณ์กว่า 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ สรรพสิทธิ์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Timo Trunks เปิดเผยบทสัมภาษณ์ผ่าน Joseph DeAcetis แฟชั่นคอลัมนิสต์และคอนทริบิวเตอร์ Forbes.com ว่า จากประสบการณ์การพัฒนาและออกแบบโรงแรม รีสอร์ต ทำให้ในช่วงเวลาหลายปีระหว่างเดินทางไปท่องเที่ยวตามเกาะต่างๆ ผมสังเกตและไม่พบชุดว่ายน้ำแบบที่ผมชอบที่ผู้คนสวมใส่ จึงตัดสินใจว่าผลิตสินค้าแฟชั่นด้านนี้เอง โดยเน้นเอกลักษณ์ของแบรนด์ไปที่การสร้างลวดลาย โดยแต่ละซีซั่น Timo จะออกแบบลายผ้าที่คิดว่าสวยและใหม่ที่สุดมากถึง 30 ลาย แต่จะมีเพียง 12 ลายที่ดีที่สุดเท่านั้นที่ถูกเลือกเข้ามาอยู่ในคอลเล็กชั่นนี้ จึงทำให้เราเรียกได้ว่าเป็น “นวัตกรรมแฟชั่น” ระดับโลกอย่างแท้จริง “เราเลือกเฉพาะลายที่ใหม่ที่สุด และลายที่ไม่เคยมีใครในโลกทำมาก่อน ปัจจุบันเราได้นำเสนอลวดลายใหม่ๆ ออกสู่ตลาดไปแล้วหลายร้อยลวดลาย จนถึงขั้นต้องจัดทำคลังเก็บลวดลายผ้าไว้ในศูนย์ ฐานข้อมูลที่สตูดิโอ ซึ่งผู้ชายจะไม่เหมือนกับผู้หญิงตรงที่เวลาไปเที่ยวทะเลจะต้องมีชุดว่ายน้ำหลากหลายแบบ แต่ผู้ชายจะไม่ได้ซื้อชุดว่ายน้ำใหม่กันบ่อยๆ จึงจะใส่ชุดว่ายน้ำตัวเดิมซ้ำๆ กัน ดังนั้น การจะดึงดูดความสนใจของผู้ชายจึงต้องมีลวดลายที่ไม่เพียงสะดุดตาเท่านั้น แต่จะต้องเป็นลวดลายที่เข้าใจถึงความชอบของเขาอย่างลึกซึ้งชนิดที่เห็นแล้วต้องซื้อทันที” สรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง จุดเด่นของ TIMO TRUNKS คือการสร้างสรรค์ลายผ้าเพื่อเป็นตัวเลือกของผู้บริโภคที่แต่งตัวทันสมัย โดยไม่ได้จำกัดแต่เพียงชุดว่ายน้ำชายเท่านั้น แต่ TIMO ยังมีกางเกงหลากหลายแบบที่เก๋ไก๋ โก้หรู และคล่องตัว เหมาะกับการสวมในวันหยุดพักผ่อน ด้วยคุณสมบัติของเนื้อผ้าที่ซับความชื้นได้ดี ช่วยให้แห้งเร็ว นอกจากกางเกงว่ายน้ำแบบขาสั้น TIMO ยังเปิดตัวไลน์กางเกงว่ายน้ำแบบบิกินนี่ทรงเต็มตัว (Square Cut) ออกแบบมาเพื่อนักว่ายน้ำโดยเฉพาะ และกางเกงเล่นเซิร์ฟ เป็นอีกสองกลุ่มผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ของความเนี้ยบ เท่ห์ ตัดเย็บอย่างทันสมัย ลายผ้าที่มีเอกลักษณ์หรือเรื่องราวอันแหวกแนวของที่มาแต่ละลวดลาย เน้นลวดลายรูปทรงเรขาคณิตและมินิมัลยังคงเป็นสินค้ายอดฮิตเหมือนเช่นฤดูกาลก่อนๆ นอกจากนี้ยังนำเทคนิคพื้นเมือง อย่างเช่น การมัดย้อมแบบญี่ปุ่นในสีแบบดั้งเดิมสำหรับการผลิต ที่เห็นได้ชัดว่าผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่นแบบกีฬาที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้น เน้นการใช้งานและความทนทานไปพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ในหลายๆ คอลเล็กชั่น เขายังเปิดโอกาสในการดึงศิลปินดังทั่วโลก กลุ่มเด็กออทิสติก หรือสตรีในทัณฑสถานได้มีส่วนร่วมในการผลิตสินค้า และก้าวย่างสำคัญคือการริเริ่มการผลิตสินค้าที่ช่วยลด Carbon Footprint  หรือการผลิตที่ช่วยให้โลกยั่งยืน เราเดินหน้าผลิตสินค้าของทีโม่ ในโซนที่เรามีการจัดจำหน่ายสินค้าแบบรีเทล ยกตัวอย่างเช่น ตลาดในสหภาพยุโรป เราเริ่มจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตในอิตาลี โดยมีแผนที่จะผลิตกางเกงว่ายน้ำ มุ่งหน้าลดคาร์บอนฟูตปรินต์ ที่เลือกวัสดุสินค้าที่ไม่จำเป็นต้องขนส่งไปรอบโลกหลายครั้งกว่าจะถึงมือลูกค้าเหมือนแต่ก่อน โดยตั้งแต่คอลเล็กชั่น 2023 เป็นต้นไป สินค้าที่จะจัดจำหน่ายในตลาดสหภาพยุโรป ก็จะผลิตในภูมิภาคนั้น หรือสินค้าที่จะจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา เราก็จะตั้งฐานการผลิตที่นั่นเลย ส่วนตลาดเอเชียสินค้าของเราทั้งหมดจะใช้ฐานการผลิตในประเทศไทย” สำหรับท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา สรรพสิทธิ์ แสดงความคิดเห็นถึงยอดขายของแบรนด์ที่ยังเติบโต เพราะคนรู้สึกอืดอัด จึงมีความต้องที่จะออกไปเดินทางท่องเที่ยวอย่างมาก นับตั้งแต่มีการล็อกดาวน์ทั่วโลกครั้งล่าสุด ยอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้นสองเท่า ซึ่งลูกค้าเต็มใจที่จะจ่ายเงินมากขึ้นในการเตรียมตัวไปท่องเที่ยว ไม่ว่าจะซื้อต่อชิ้น หรือซื้อในจำนวนมากก็ตาม เพื่อเพิ่มความเอ็กซ์คลูซีฟของแต่ละทริป ซึ่งเป็นสิ่งที่เกินความคาดการณ์ไว้ตั้งแต่แรก” “ดูเหมือนว่าผู้บริโภคปัจจุบันจะใจถึงกว่าแต่ก่อน โดยเฉพาะเมื่อถึงโอกาสพิเศษต่างๆ เช่น การไปท่องเที่ยวพักผ่อนหรือการไปร่วมงานปาร์ตี้ชายหาด เพราะทุกคนคิดว่าเดี๋ยวนี้ชีวิตไม่ยืนยาวเหมือนแต่ก่อนจากบทเรียนโควิด จึงหันมา ใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุดทุกนาทีนับจากนี้” ผู้ก่อตั้งแบรนด์ทิ้งท้าย อ่านเพิ่มเติม: ศุภเชษฐ์ พิริยพูล กับก้าวที่มั่นคงของ “พิริยพูล”
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine