ตัน ภาสกรนที จากญี่ปุ่นสู่เกาหลี ข้ามฟากชาเขียวชิงเค้ก “น้ำอัดลม” - Forbes Thailand

ตัน ภาสกรนที จากญี่ปุ่นสู่เกาหลี ข้ามฟากชาเขียวชิงเค้ก “น้ำอัดลม”

กระแสเค-ป๊อปแรงเกินต้านทำให้เจ้าพ่อชาเขียว “ตัน ภาสกรนที” เห็นโอกาสธุุรกิจใหม่ตามจำนวน “ด้อม” สาวก "เคป๊อป” ที่ล้วนเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มักแห่มาต้อนรับศิลปินคนโปรดจากเกาหลีทุกครั้งที่มาเยือนไทย ทำให้เขาเชื่อว่าเครื่องดื่มที่เป็นกลิ่นอายเค-ป๊อปน่าจะเป็นที่นิยมได้ไม่ยาก


    หลังจากทดลองวางตลาดเครื่องดื่มใหม่นี้อย่างเงียบๆ เพียง 2 สัปดาห์ยอดตอบรับดีเกินคาด ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือเจ้าพ่อชาเขียวในความทรงจำของตลาดยืนยันกระแสตอบรับดีตั้งแต่เริ่มทดลองวางตลาด (เดือนพฤศจิกายนปี 2565) วันนี้อาณาจักรของตันคือ อิชิตันเครื่องดื่มชาเขียวดังที่เป็นรองเพียงแบรนด์ดั้งเดิมที่เขาปั้นมากับมือและขายออกไปเมื่อหลายปีก่อน

    ล่าสุดตันกำลังจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ “การบุกตลาดน้ำอัดลม” ซึ่งเขาบอกว่าเดิมที่คิดจะทำ “ชาเขียวซ่า” ด้วยการอัดก๊าซใส่น้ำชาเขียวแต่เมื่อเห็นกระแสเค-ป๊อปคึกคักมาก ศิลปินเกาหลีดังไกลทั่วโลก และอารยธรรมเกาหลีรุกเข้ามาแทรกซึมผู้บริโภคไทยอย่างหนัก

    ทั้งเรื่องของดนตรี ศิลปินเกาหลีมากมายมีแฟนคลับไทยสนับสนุนหนาแน่น อีกทั้งซีรี่ส์เกาหลี ละครแนวรักหวานซึ้งและดราม่ากินใจถือเป็นความสำเร็จในการส่งออกวัฒนธรรมเกาหลีที่ผู้บริโภคไทยเป็นสาวกตัวจริง อีกทั้ง “โซจู” สุราผลไม้ที่เลื่องชื่อของเกาหลีก็สามารถตีตลาดซอฟต์ดริ๊งก์ได้อย่างเป็นรูปธรรมผู้ผลิตสุราไทยผลิต “โซจูเกาหลี” ขายดิบขายดี

    สำหรับตันแน่นอนเขาไม่มีนโยบายทำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ไม่มีใบอนุญาต) เมื่อต้องการรุกตลาดเครื่องดื่มเกาหลีจึงได้ส่งเครื่องดื่มน้องใหม่ “ตันซันซู” หรือแปลตามชื่อหมายถึงน้ำซ่าออกมาจำหน่ายเป็นการขยายฐานตลาดจากคนรักญี่ปุ่นมาสู่คนรักเกาหลี เพราะมองว่าเป็นฐานตลาดที่น่าสนใจ

    “ผมดูจากลูกหลานของผม แต่ละคนล้วนเป็นติ่งเกาหลี ชอบฟังเพลง ดูซีรี่ส์ และดื่มเครื่องดื่มเกาหลี ทำให้คิดว่าเราน่าจะมีสินค้าเครื่องดื่มที่เป็นเกาหลีออกมาตอบโจทย์เด็กวัยรุ่นเหล่านี้” เขาเล่าถึงที่มาของแนวคิดในการทำเครื่องดื่มเกาหลีน้องใหม่ “ตันซันซู” ออกสู่ตลาด

    ในตอนหนึ่งของการแถลงข่าวตันบอกว่า “ตอนนี้ผมมีกิ๊กแล้วนะ แต่ก่อนคบญี่ปุ่นตอนนี้หันมาเพิ่มเกาหลีด้วย” เขามักแทรกมุกตลกทุกครั้งที่เปิดตัวจนกลายเป็นบุคลิกเด่นของ self-made billionaires ผู้สร้างธุรกิจเครื่องดื่มชาเขียวจาก 2 มือจนเติบใหญ่มูลค่าหลายหมื่นล้านบาทในปัจจุบัน

    “ผมว่ายังไม่มีใครเคยทำนะ เครื่องดื่มโซจู ที่คนเกาหลีมักดื่มคู่กับเบียร์ เราทำรสชาตินั้นออกมาโดยที่ไม่มีแอลกอฮอล์และไม่มีน้ำตาล” แม่ทัพอิชิตันอธิบายง่ายๆ ถึงโปรดักต์ใหม่ล่าสุดที่เขาเพิ่งเปิดตัวอย่างจริงจังในวันแถลงข่าวเมื่อปลายเดือนฤศจิกายนปี 2565

    “จะว่าเป็นรายแรกของโลกก็ได้ผมคิดว่าไม่มีใครทำแน่นอน” เขาสำทับจุดแข็งของ “ตันซันซู” น้ำอัดลมรูปแบบใหม่รสชาติเบียร์ผสมโซจู (โซจูบอมบ์) และรสชาติโซจูผสมยาคูลท์ (โซจูโยเกิร์ต) 2 รสชาติแรกที่เริ่มวางตลาดมาตั้งแต่ต้นไตรมาส 4 ปีที่แล้ว

    “เรามั่นใจตันซันซูจะเป็นสตาร์โปรดักต์ของอิชิตันในการขยายพอร์ตสินค้าไปยังมูลค่าตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่ใหญ่ขึ้น” ผู้บริหารอิชิตันยืนยันพร้อมเผยว่า อิชิตันตั้งเป้าสร้างยอดขายสินค้าใหม่ไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาทในปีแรก เพื่อสนับสนุนเป้าหมายยอดขายรวมโต 24%

    โดยเป็นเครื่องดื่มอัดลมขนาด 360 มล. ขายในราคา 20 บาท “เรามั่นใจว่าจะสามารถไปถึงเป้าหมายยอดขาย 600 ล้านบาทภายในปี 2566” ตันกล่าวถึงเป้าหมายยอดขายปี 2 อย่างก้าวกระโดด


สเต็ปใหม่ใหญ่กว่าเดิม


ปัจจุบันตลาดเค-ป๊อปคอมมูนิตี้ประเทศไทยสูงเป็นอันดับ 6 ของโลก ด้วยมูลค่าสินค้าและบริการกว่า 9.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยคนกลุ่มเจน Z ซึ่งมีความเป็นกลุ่มก้อนเหนียวแน่นชัดเจนเห็นได้จากการรวมพลังเพื่อสนับสนุนศิลปินรักเต็มที่ ทุกคอนเสิร์ต sold out สร้างปรากฏการณ์ห้างแตก

    ศิลปินเกาหลีมีด้อมระดับนานาชาติที่ทรงพลังในโซเชียลมีเดียเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและทรงพลัง เมื่อมองในภาพรวมสัดส่วนประชากรไทยคนเจน Z มีสัดส่วนถึง 23% มีบทบาทสำคัญในตลาดอุปโภคบริโภค มีอำนาจในการตัดสินใจเลือกและจับจ่ายสินค้าที่เหมาะกับตนเองตนเอง

    การเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมใหม่นี้จึงส่งผลให้อิชิตันหันมาพัฒนาเครื่องดื่มที่ตอบสนองพลังร่วมสมัย และเป็นการพลิกโฉมยุคใหม่ตามคำกล่าวของตันที่ว่า “อิชิตันไม่ได้ดีแค่ชา” ด้วยการสร้างพอร์ตสินค้าในหมวดหมู่อื่นๆ ด้วย

    ตันซันซู เป็นเครื่องดื่มที่ถูกจัดอยู่ในตลาดน้ำอัดลมกลุ่มน้ำสีซึ่งเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหญ่และการแข่งขันถือว่ารุนแรง แต่เขามั่นใจเพราะเป็นรสชาติที่คิดค้นต่างจากคนอื่นน้ำอัดลมรสเบียร์ผสมโซจูตอบโจทย์คนที่อยากได้อารมณ์ดื่มเบียร์ผสมโซจู แต่ไม่ต้องการดื่มแอลกอฮอล์

    ตันซันซูจึงถือเป็นอาวุธสำคัญที่อิชิตันนำมาขยายพอร์ตสินค้าใหม่ไปยังตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่ใหญ่ขึ้น นอกจากความซ่าในรูปลักษณ์เกาหลีแล้ว โปรดักต์นี้ยังเข้ากับอินไซต์ของกลุ่มเจน Z ที่เต็มไปด้วยความฝัน การฝึกฝนให้ไปถึงความฝัน ความสนุก และชอบรวมกลุ่มกับเพื่อน เข้าเป็นคาแร็กเตอร์หนึ่งของสินค้า เมื่อผสานเข้ากับเทรนด์เครื่องดื่มน้ำอัดลมที่เป็นที่นิยมของตลาดในปัจจุบัน

    ซึ่งข้อมูลจาก Nielsen เผยภาพรวมตลาดน้ำอัดลมในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 มีมูลค่าตลาด 42,695 ล้านบาท เติบโตขึ้น 5.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลม 0% น้ำตาลมีการเติบโตก้าวกระโดด เครื่องดื่มอัดลมน้ำดำ 0% น้ำตาล มีมูลค่าตลาด 2,732 ล้านบาท เติบโต 20.2% ด้านเครื่องดื่มอัดลมน้ำสี 0% น้ำตาล มีมูลค่าตลาด 2,026.9 ล้านบาท เติบโตถึง 57.2% เป็นตลาดที่มีศักยภาพและแนวโน้มการเติบโตดีที่สุดในกลุ่มน้ำอัดลม

    เมื่อหันมาโฟกัสที่ตลาดเครื่องดื่มเกาหลีโซจูพบการเติบโตที่น่าสนใจ โดยช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562-2565) ตลาดโซจูในประเทศไทยเติบโตมากกว่า 100% มูลค่าตลาดประมาณ 1 พันล้านบาท


ภาพ: ตันซันซู


คลิกอ่านเพิ่มเติม: อนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม ออโรร่าปฏิวัติทองตู้แดงสู่ AURA


คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ในรูปแบบ e-magazine