Volvo Cars (ประเทศไทย) เดินหน้าส่งมอบประสบการณ์สุดพิเศษแก่ลูกค้า ผ่านการเปิดตัว Volvo Studio Bangkok ซึ่งเป็น Brand Experience Center แห่งแรกในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ ห้าง ICONSIAM
Volvo Studio Bangkok ถ่ายทอดอัตลักษณ์และความเป็นแบรนด์รถยนต์ระดับพรีเมียมสัญชาติสวีดิชของวอลโว่ได้เป็นอย่างดี โดยผู้มาเยือนสามารถสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นภายใต้การออกแบบที่คงคอนเซ็ปต์ความหรูหราอย่างลงตัว ทั้งในด้านสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน แสง สี และเสียง
เป้าหมายในการเปิดตัวสตูดิโอแห่งนี้คือ การส่งเสริมให้ผู้ที่เข้าเยี่ยมชมได้รู้จัก Volvo มากยิ่งขึ้นด้วย “Your Car Area” บริเวณพื้นที่สำหรับลูกค้าที่ต้องการทราบข้อมูลเทคโนโลยีใหม่ๆ และนวัตกรรมต่างๆ โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญจาก Volvo คอยให้คำแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตัวอย่างสีภายนอก และภายในรถยนต์ การแสดงนวัตกรรมความปลอดภัย สมรรถนะการขับเคลื่อนของรถยนต์ ผ่านจอ LED ขนาดใหญ่ที่โดดเด่นบริเวณกลางพื้นที่ โดยทางบริษัทได้มีการวางแผนเปิดตัวกิจกรรมเสริมสร้างประสบการณ์ลูกค้า ณ สตูดิโอแห่งนี้ทุกๆ 3 เดือน
อีกทั้ง สตูดิโอแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่สำหรับจัดแสดงรถยนต์เท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ที่สามารถถ่ายทอดความเป็นเอกลักษณ์ของ Volvo อีกด้วย เห็นได้อย่างชัดเจนในการออกแบบที่นำสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของประเทศสวีเดนมาถ่ายทอดผ่าน 3 องค์ประกอบหลัก
องค์ประกอบแรกคือ แสงไฟภายในสตูดิโอ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแสงของแถบสแกนดิเนเวีย ผ่านการซ่อนหลอดไฟ LED ไว้บนฝ้าเพดาน ซึ่งในแต่ละพื้นที่ของสตูดิโอนั้น มีการจัดแสงไฟที่แตกต่างกัน เพื่อสร้างบรรยากาศและความรู้สึกของพื้นที่ในแต่ละสัดส่วน นอกจากนี้ ผนังของสตูดิโอยังมีการใช้ไม้แอชสีอ่อนเป็นวัสดุหลัก เพื่อสร้างบรรยากาศชวนฝันของผืนป่าในแถบสแกนดิเนเวีย และการปูพื้นคอนกรีต ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหน้าผาหินแกรนิตอันกว้างใหญ่ ตามแบบฉบับของประเทศสวีเดนตะวันตก
Chris Wailes กรรมการผู้จัดการ ประจำ Volvo Cars (ประเทศไทย) กล่าวว่า "วอลโว่ตั้งมั่นที่จะเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจในความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ไปจนถึงการนำเสนอประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ลูกค้าอย่างไม่หยุดยั้ง และการเปิดตัว Volvo Studio Bangkok ในครั้งนี้ ยังเป็นเครื่องยืนยันว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้ง ยังเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของวอลโว่ คาร์ ประเทศไทยด้วย"
อีกทั้ง เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน Wailes เผยกับ Forbes Thailand ว่าวัสดุต่างๆ ที่ใช้ในการก่อสร้างเป็นวัสดุท้องถิ่น ไม่มีการนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆ ที่ทางบริษัทสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ รวมถึงภาชนะต่างๆ ที่ใช้ในมินิบาร์ และของตกแต่งอื่นๆก็ผลิตมาจากวัสดุ biodegradable อีกด้วยทั้งนี้ หนึ่งในแนวคิดหลักของสตูดิโอแห่งนี้ คือการสร้างพื้นที่ใจกลางเมืองที่ลูกค้าสามารถเข้าใช้บริการเพื่อพักผ่อนหย่อนใจได้ ในขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ได้อย่างเป็นกันเอง ซึ่งนอกจากจะมีการจัดแสดงรถยนต์แล้ว ซึ่งรถยนต์ที่ถูกนำมาจัดแสดง จะเป็นรถยนต์เฉพาะรุ่นไฮไลท์เท่านั้น ยังมีการเปิดโซนคาเฟ่เล็ก ๆ และมินิบาร์สำหรับผู้เข้าใช้บริการ โดย Wailes กล่าวว่า "ต้องการให้พื้นที่แห่งนี้เป็นเหมือนบ้าน"
และเสริมต่อว่า "ที่แห่งนี้เป็นที่ที่คุณจะได้รู้จักวอลโว่มากขึ้น และวอลโว่ก็จะได้ทำความรู้จักกับคุณมากขึ้นเช่นกัน" โดยภายในสตูดิโอจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้บริการลูกค้า และส่งข้อติชมต่างๆ กลับไปยังที่บริษัทโดยตรง ทำให้ Volvo Cars (ประเทศไทย) สามารถเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้ามากขึ้น และใกล้ชิดกับลูกค้ามากกว่าเคย โดยในช่วงเวลาสัปดาห์นิดๆ ที่สตูดิโอแห่งนี้เปิดประตูต้อนรับแขก ก็มีผู้เข้าเยี่ยมชมมากกว่า 1,000 คน ซึ่งเกินความคาดหมายของ Wailes ที่คาดตัวเลขไว้เพียงหลักร้อย
นอกจากนี้ยังมีโซน Volvo Lifestyle Collection ที่รวมเอาสินค้า Limited Edition ของวอลโว่มาจัดแสดงและจำหน่าย เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกซื้อตามอัธยาศัยได้อีกด้วย โดยสินค้าต่างๆ เป็นสินค้าที่ทาง Volvo จับมือกับศิลปินไทย เป็นสินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มีจำหน่ายในประเทศไทยเท่านั้น
ณ สตูดิโอแห่งนี้จะเน้นการส่งมอบประสบการณ์เป็นหลัก แต่หากผู้มาเยือนต้องการจะซื้อรถสักคันก็สามารถสั่งซื้อผ่านระบบออนไลน์ได้อ่านเพิ่มเติม: ‘The Standard หัวหิน’ อเมริกันสไตล์ ส่วนผสม โมเดิร์นอาร์ต & เอ็นเตอร์เทนเมนต์
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine