เป็นเวลากว่า 20 ปี ที่ "พลอยกาญจน์ โพธิพิมพานนท์" บุตรสาวคนเดียว ผู้อยู่เคียงข้าง "วสันต์ โพธิพิมพานนท์" หรือ "วสันต์ เบนซ์ทองหล่อ" ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Benz ผู้สร้างตำนาน ดีลเลอร์เบนซ์ที่มียอดขายสูงสุดในประเทศไทย และเป็นผู้ฝ่าวิกฤตต้มยำกุ้งอย่างสู้ไม่ถอย วันนี้เธอพร้อมจะสร้างตำนานบทใหม่ให้กับ เบนซ์ทองหล่อ-รามอินทรา ท่ามกลางธุรกิจการแข่งขันรถหรู ที่เปลี่ยนแปลงไป
"หลังเรียนจบ MBA จากสหรัฐอเมริกา พลอยก็ได้มีโอกาสนั่งทำงานกับคุณพ่อมาก็ประมาณ 20 กว่าปีแล้ว ตอนนั้นเบนซ์ ทองหล่อ กลับมานิ่งแล้ว หลังผ่านวิกฤตใหญ่ในปี 2540 ซึ่งเราก็รับรู้มาโดยตลอด ถึงความยากลำบากที่เกิดขึ้น มองย้อนไปตอนนั้น ยังแอบคิดเลยว่าผ่านมาได้อย่างไร" "พลอยกาญจน์ โพธิพิมพานนท์" ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบนซ์ทองหล่อ-รามอินทรา จำกัด เล่าย้อนถึงการเข้ามาทำงานครั้งแรกที่ เบนซ์ทองหล่อ
ด้วยความที่เป็นลูกสาวเพียงคนเดียว เวลาทำงานกับคุณพ่อ (วสันต์) พลอยก็จะนั่งอยู่ข้างท่านและเรียนรู้ทุกอย่างไปด้วยกัน คุณพ่อไม่ได้เน้นให้ดูส่วนไหนเป็นพิเศษ แต่โปรเจกต์แรกที่พลอยเข้ามารับผิดชอบตั้งแต่ต้นในช่วงนั้น คือ โครงการให้บริการลีมูซีน สุวรรณภูมิ เริ่มตั้งแต่สัมภาษณ์พนักงานขับรถกว่า 200 คน การติดตั้ง จีพีเอส การดูแลรถทั้งหมดที่นำมาให้บริการ รวมไปถึงการให้คำปรึกษากับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ตอนนั้นถือเป็นการเข้ามาทำงานแบบเต็มตัวครั้งแรก ในฐานะทายาทเพียงคนเดียว ของเบนซ์ทองหล่อ-รามอินทรา ซึ่งโครงการนั้นก็ประสบความสำเร็จจนมาเป็นหนึ่งในธุรกิจ ของเบนซ์ทองหล่อ-รามอินทรา ในปัจจุบัน
การเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ กับนโยบาย Anywhere, One price
ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ที่คุณพลอย เข้ามาร่วมบริหาร เบนซ์ทองหล่อ-รามอินทรา กับคุณพ่อ ต้องเจอกับปัญหา และวิกฤตครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ผ่านมาได้ด้วย "ความอดทน" และมุมมองที่ว่า "เดี๋ยวมันก็ผ่านไป" เป็นเหมือนคาถาประจำของครอบครัว ซึ่งวันนี้ธุรกิจต้องเจอกับการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญอีกครั้ง เมื่อบริษัทแม่ Mercedes-Benz ประเทศไทย ประกาศใช้นโยบาย "Anywhere, One price" ราคาเดียวกันทุกโชว์รูม
"นโยบาย Anywhere, One price ประกาศใช้เมื่อเดือนก.พ. 2567 ที่ผ่านมา เปลี่ยนระบบการขายรถเบนซ์ให้เป็นราคาเดียวกันทั่วประเทศ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของธุรกิจนี้ เมื่อก่อนการขายรถ เราคุยกันเรื่องส่วนลด โปรโมชั่น พอเปลี่ยนนโยบาย กลยุทธ์การขายต้องเปลี่ยนโดยอัตโนมัติ พนักงานต้องเปลี่ยนจากทักษะในการขาย มาเป็นการดูแลลูกค้า เราจะดูแลเขาอย่างไร แน่นอนว่าเรามีวิชาการดูแลลูกค้าฉบับเบนซ์ทองหล่อ ที่ติดตัวมาตั้งแต่แรกเริ่มเพราะคุณพ่อวสันต์ ปลูกฝังให้กับพลอยและพนักงานทุกคน ว่าหากอยากได้ใจลูกค้าเราก็ต้องให้ใจลูกค้าไปก่อน ด้วยความที่เราเป็น เบนซ์ทองหล่อ-รามอินทรา เรามีชื่อเสียง เรามีลูกค้าที่ให้ความเชื่อมั่น เพราะฉะนั้นวิชา "ใจแลกใจ" นั่นแหละเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะตอบโจทย์ทำให้เราดำเนินธุรกิจต่อไปได้"
ในทางกลับกัน เมื่อไม่ต้องแข่งขันกันด้วยราคา ซึ่งตลาดรถหรูต้องเผชิญสถานการณ์ดังกล่าวในช่วง 4 – 5 ปีที่ผ่านมาจุดแข็งในเรื่องความมีชื่อเสียง ความเชื่อมั่นใน เบนซ์ทองหล่อ-รามอินทรา กลายเป็นจุดเด่นที่สำคัญ รวมไปถึงฐานลูกค้าที่มีมากกว่า 1 หมื่นราย ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามหาศาล ที่สามารถต่อยอดการเติบโตทางธุรกิจได้
สมัยก่อน เรามีลูกค้าต่างจังหวัดเยอะมาก ทุกคนมีความเชื่อมั่น มีความภูมิใจในตัวคุณวสันต์ ซึ่งคุณพ่อถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับในสังคม เวลาลูกค้าจะมารับรถ จะต้องมาเจอคุณพ่อ มาถ่ายรูปมาให้เจิมรถให้ก็มี สิ่งนี้ถือเป็นลอยัลตี้ที่ลูกค้ามีให้เรามาตลอด 40 กว่าปี เมื่อเขาเชื่อมั่นให้ตัวเรา ภูมิใจในตัวเรา เขาจะบอกต่อให้เพื่อน พี่ น้อง ลูก หลาน ลูกค้าของเราบางคนซื้อรถตั้งแต่คุณพ่อ ทุกวันนี้ซื้อให้ลูกให้หลานก็มี
ฐานลูกค้าลอยัลตี้ คือหัวใจสำคัญ
คุณพลอย กล่าวว่า เมื่อไม่ต้องแข่งขันด้านราคา ฐานข้อมูลลูกค้าของ เบนซ์ทองหล่อ-รามอินทรา ก็กลายมาเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจก้าวต่อไปข้างหน้าได้ นอกจากนี้ สิ่งที่ยึดมั่นมาตลอด คือเรื่องคุณภาพ มาตรฐานในการให้บริการ ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องเน้นการให้บริการมากขึ้น โดยสำรวจความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม และสื่อสารไปทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เราต้องการสร้างแบรนด์ เบนซ์ทองหล่อ-รามอินทรา ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ผ่านช่องทางใหม่ๆ ในการสื่อสารที่หลากหลาย ผ่านโซเชียลแพลตฟอร์มต่างๆ
สิ่งที่เราต้องการให้จดจำคือ เบนซ์ทองหล่อ-รามอินทรา เป็นครอบครัวผู้สร้างศูนย์บริการเบนซ์ ที่ออกแบบการบริการ บนความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้งในทุกมิติของการใช้ชีวิต ด้วยประสบการณ์อันยาวนาน จากรุ่นสู่รุ่น
"ตอนนี้ เราให้ความสำคัญกับฐานลูกค้าที่มีอยู่ ลูกค้าที่เชื่อมั่นกับ เบนซ์ทองหล่อ-รามอินทรา พลอยเชื่อว่า ลูกค้าเพียง 1 คน สามารถเป็นกระบอกเสียงให้กับผู้ที่สนใจหันมาเป็นลูกค้ากับ เบนซ์ทองหล่อ-รามอินทรา สิ่งนี้ถือว่าสำคัญมาก จากนี้ไปพลอยและทีมจะพยายามตอบแทนลูกค้าที่มีอยู่พร้อมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าใหม่ นำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขา ไม่ว่าจะเป็นบริการ กิจกรรม หรือข้อเสนอต่างๆ ที่ช่วยสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าอย่างสูงสุด เพื่อตอบแทนความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีให้เรา ขณะเดียวกันก็สร้างชื่อเสียงของ เบนซ์ทองหล่อ-รามอินทรา ให้เป็นที่รู้จักกับกลุ่มคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น"
ท่ามกลางตลาดรถที่แข่งขันสูง และตลาดรถยนต์ที่ยังไม่ฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ความเชื่อมั่นของลูกค้าจะเป็นสิ่งที่นำพาบริษัทให้ก้าวผ่านวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ไปได้ สำหรับคุณพลอย ต้องการที่จะสืบสานตำนานของ เบนซ์ทองหล่อ-รามอินทรา รวมถึงสร้างตำนานบทใหม่โดยมีคุณพ่อเป็นต้นแบบ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกพอใจ ภูมิใจ และเชื่อมั่นที่มาเป็นลูกค้ากับเรา ด้วยการให้บริการอย่างใกล้ชิดเสมือนเป็นคนในครอบครัว
วันนี้ เบนซ์ทองหล่อ-รามอินทรา เป็นฐานที่มั่นสำคัญที่พร้อมให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร บนพื้นที่กว่า 5 ไร่ รองรับการบริการลูกค้าอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยศักยภาพและความพร้อมที่มี ทั้งบุคลากร ศูนย์บริการ รวมถึง กลยุทธ์ต่างๆ ที่ทำให้คุณพลอยเชื่อว่า เบนซ์ทองหล่อ-รามอินทรา จะเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน