เดมเลอร์ คอมเมอร์เชียล วีฮีเคิลส์ (ประเทศไทย) หรือ DCVT ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านยานยนต์พาณิชย์ เดินหน้ารุกตลาดรถโดยสารไทย เปิดตัว Mercedes-Benz RS1936 รถโดยสารแบบประกอบสำเร็จ (Fully Built-Up: FBU) เจเนอเรชั่นใหม่ ที่ผสานวิศวกรรมล้ำสมัย ระบบความปลอดภัยขั้นสูง และความสะดวกสบายรอบด้าน เพื่อตอบโจทย์การเดินทางระหว่างเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมจับมือบริษัทเวียดนาม THACO AUTO ให้เป็นผู้ผลิต
ในขณะที่ภาคการขนส่งและการท่องเที่ยวของไทยมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ความคาดหวังของผู้ประกอบการก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย Mercedes-Benz Bus ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างดีและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างแพร่หลายจากแชสซีส์คุณภาพสูง อย่างรุ่น OH1626L ได้มองเห็นสัญญาณชัดเจนว่า ความต้องการในตลาดได้ขยับจากเดิมที่มีความต้องการเพียง “แชสสีย์ที่แข็งแรง” ไปสู่ “โซลูชันแบบครบวงจร” ที่รวมทั้งความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และประสิทธิภาพในการใช้งานตามมาตรฐานระดับสากลไว้อย่างครบถ้วน
ราล์ฟ เครเมอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดมเลอร์ คอมเมอร์เชียล วีฮีเคิลส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ DCVT กล่าวว่า “จากที่เราได้รับฟังลูกค้าอย่างใกล้ชิด พบว่าลูกค้าของเรามองหาโซลูชันที่ครอบคลุมและมีคุณภาพในทุกมิติ ทั้งความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ ความสะดวกสบายในการเดินทาง ความมั่นใจในการใช้งานที่ทนทานในทุกสภาพแวดล้อม การผสานการทำงานระหว่างแชสซีส์และตัวถังอย่างไร้รอยต่อ รวมถึงความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการฟลีทรถ โดยไม่ลดทอนมาตรฐานหรือคุณภาพ”
เพื่อรองรับความต้องการดังกล่าว DCVT จึงจับมือกับ THACO AUTO ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตยานยนต์รายสำคัญของเวียดนาม เพื่อพัฒนาและผลิต RS1936 โดยใช้โรงงานประกอบในเมืองชูไล ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ครอบคลุมโรงงาน 7 แห่ง และศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ที่สามารถรองรับการผลิตยานยนต์หลายแบรนด์ภายใต้มาตรฐานระดับโลก
อีกทั้งโรงงานของ THACO ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน IATF 16949 ด้านคุณภาพ และ ISO 14001 ด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีไฮไลต์คือสายการเคลือบกันสนิม (ED Coating) สำหรับรถโดยสารขนาดใหญ่ รองรับความยาวตัวถังสูงสุดถึง 13.7 เมตร ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับแพลตฟอร์มของ RS1936
“สิ่งที่ทำให้ THACO มีความแตกต่างจากผู้ผลิตอื่น คือความสามารถในการออกแบบและปรับแต่งรถให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางภายในหรือการเลือกอุปกรณ์เฉพาะ ล้วนถูกพัฒนาโดยยึดหลักคุณภาพระดับสากล โดยไม่ลดทอนมาตรฐานวิศวกรรมและความปลอดภัยตามแบบฉบับ Mercedes-Benz Bus ผู้ประกอบการสามารถออกแบบฟังก์ชันการใช้งานและดีไซน์ได้อย่างอิสระ ดังนั้น THACO จึงไม่ใช่เพียงผู้ผลิต แต่คือพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่อยู่เคียงข้างเรา โดยมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในด้านนวัตกรรม คุณภาพ และการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว” เครเมอร์ กล่าวเสริม
Mercedes-Benz RS1936 เป็นรถโดยสารความยาว 12 เมตร รองรับผู้โดยสารได้ 43 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล OM 460 LA แบบ 6 สูบ ระบบเทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 360 แรงม้า แรงบิด 1,850 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องยนต์ระหว่าง 1,100–1,400 รอบ/นาที รองรับมาตรฐานไอเสีย Euro 5 ที่จะมาช่วยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ B2E+ ที่ช่วยเสริมการควบคุมระบบต่างๆ และการวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างแม่นยำ รวมถึงครบครันด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย อันได้แก่
• ระบบเบรกอัตโนมัติ (ABA5)
• ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSA)
• ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDWS)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ACC)
• สัญญาณหยุดฉุกเฉิน (ESS)
• ระบบชะลอความเร็ว (ZF Retarder)
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Holder)
• ระบบควบคุมการทรงตัว (ESP)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (ASR)
รถโดยสารรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการเดินทางระยะกลางถึงไกล จึงตอบโจทย์การใช้งาน ไม่ว่าจะเดินทางในเมืองและเส้นทางหลวงข้ามจังหวัด โดยให้ประสบการณ์การเดินทางที่ปลอดภัย และสะดวกสบายตามมาตรฐานระดับสากล
การเปิดตัว RS1936 และความร่วมมือกับ THACO AUTO ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ DCVT ในการขยายบทบาทจาก “ซัพพลายเออร์แชสซีส์” ไปสู่การเป็น “ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายโซลูชันรถโดยสารแบบครบวงจร” ตอกย้ำจุดยืนของ Mercedes-Benz Bus ในการพัฒนานวัตกรรมเพื่ออนาคตของการเดินทางเชิงพาณิชย์ในประเทศไทย ด้วยยานยนต์ที่มี “วิศวกรรมยอดเยี่ยม ทนทาน และออกแบบเพื่อตอบโจทย์ทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร”
“เรามุ่งมั่นที่จะยกระดับมาตรฐานรถโดยสารในประเทศไทย ควบคู่กับการสร้างความเชื่อมั่น เสริมศักยภาพ และส่งมอบคุณค่าทางธุรกิจในระยะยาวให้กับลูกค้าทั่วประเทศ” เครเมอร์กล่าวทิ้งท้าย
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Lamborghini ทุบสถิติใหม่! รายได้ปี 67 ทะลุ 3,000 ล้านยูโรเป็นครั้งแรก ยอดส่งมอบรถยนต์ทั่วโลกกว่า 10,000 คัน
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine