3 ปีในไทยของ GWM ประกาศขึ้นสู่ Top 3 แบรนด์รถ EV และเป้าหมายยอดขาย 25,000 คันปีนี้ - Forbes Thailand

3 ปีในไทยของ GWM ประกาศขึ้นสู่ Top 3 แบรนด์รถ EV และเป้าหมายยอดขาย 25,000 คันปีนี้

เผลอแป๊บเดียวค่ายรถยนต์จากจีนอย่าง “เกรท วอลล์ มอเตอร์” หรือ GWM ก็เข้ามาดำเนินธุรกิจในไทยครบ 3 ปีแล้ว โดยจัดงานฉลองความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมแถลงกลยุทธ์ด้านต่างๆ เพื่อก้าวขึ้นสู่ Top 3 แบรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (xEV) ในประเทศไทยภายในระยะเวลา 3 ปี หรือภายในปี 2569 รวมถึงยังตั้งเป้าหมายสุดท้ายทาย ยอดขายสู่ 25,000 คันในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากปีก่อนหน้า


    ไคล์ด เฉิง ประธาน GWM กล่าวถึงภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทในปี 2566 ที่ผ่านมาที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ด้วยจำนวนยอดขายทั่วโลก 1,230,704 คัน เพิ่มขึ้น 15.29% จากปีก่อนหน้า และในจำนวนนี้เป็นยอดขายจากตลาดต่างประเทศ 316,018 คัน เพิ่มขึ้น 82.48% ที่น่าสนใจในจำนวนยอดขายรถยนต์ทั้งหมดของ GWM เป็นยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ถึง 2.62 แสนคัน เพิ่มขึ้นถึง 98%



    “ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เราขยายการดำเนินธุรกิจไปใน 9 ประเทศอาเซียน ซึ่งถือว่าเป็นค่ายรถยนต์จีนรายแรกที่ขยายธุรกิจจนครอบคลุมอาเซียนได้สำเร็จ ส่วนในประเทศไทยเรามีปณิธานสำคัญคือ In Thailand, For Thailand ซึ่งหมายถึงไม่เพียงแค่เราเท่านั้นที่มาลงทุนในประเทศไทย แต่เรายังดึงพันธมิตรในแวดวงกาผลิตรถยนต์เข้ามาลงทุนในประเทศไทยด้วย ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่แบตเตอรี่จนถึงตัวรถยนต์ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่นมั่นในการผลักดันและส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศไทย”



    ในปี 2567 นี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ คาดว่าตลาดรถยนต์ไทยจะมียอดขายโดยประมาณทั้งสิ้น 820,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 6% โดยกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือกลุ่ม xEV จะเติบโตขึ้นประมาณ 40% หรือคิดเป็น 33% ของตลาดทั้งหมด และมียอดขายประมาณ 270,000 คัน

    นอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้า 100% จะยังคงเติบโตต่อเนื่องจากนโยบายการสนับสนุนของภาครัฐ EV 3.5 และการเข้ามาของแบรนด์ใหม่ๆ โดยคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 130,000 คัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 16% ของตลาดรวมทั้งหมด เพิ่มขึ้นเกือบ 70% จากปี 2566 ที่ผ่านมา

    ณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “การดำเนินธุรกิจในประเทศไทยของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของเราที่ได้เข้ามาจุดกระแสและผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้เติบโตอย่างเป็นรูปธรรม

    “เราได้เข้ามาสร้างปรากฏการณ์และเรื่องราวน่าประทับใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนำผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของคนไทย พร้อมนำรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบใหม่ด้วย ‘นโยบายราคาเดียว’ มาปฏิวัติแนวทางปฏิบัติของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย และเป็นมาตรฐานใหม่ของระบบการขายของผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ

    ยิ่งไปกว่านั้น GWM ยังเป็นแบรนด์แรกที่เข้ามาดำเนินธุรกิจอย่างจริงจังด้านรถยนต์พลังงานใหม่ และเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์แรกๆ ที่ได้ลงนามกับกรมสรรพสามิตเพื่อเข้าร่วมนโยบายการส่งเสริมการผลิตและการใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั้ง EV 3.0 และ EV 3.5 จน ORA Good Cat ได้ขึ้นแท่นเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดจดทะเบียนสูงที่สุดในประเทศไทยในปี 2565

    นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในปีที่ 3 ด้วยการบรรลุ Mission 9 in 3 หรือการเปิดตัวรถยนต์ครบ 9 รุ่น ภายในระยะเวลา 3 ปี อย่างงดงาม ในการก้าวเข้าสู่การดำเนินงานปีที่ 4 เราจะยังคงมุ่งมั่นส่งมอบรถยนต์ที่มีคุณภาพและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและคุ้มค่าคุ้มราคาสำหรับลูกค้าชาวไทย รวมถึงผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตและจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคและในระดับโลกต่อไป”



    สำหรับยอดขายในไทยในปี 2566 ที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 12,840 คัน เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อนหน้า และตลอด 3 ปีที่ผ่านมา GWM มียอดขายรวมทั้งสิ้น 28,158 คัน โดยเป็น ORA Good Cat ในสัดส่วนมากที่สุดคือ 10,820 คัน

    GWM ยังเผยถึงเป้าหมายสำคัญของบริษัทฯ ในการก้าวขึ้นสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำ 3 อันดับแรกของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ภายใน 3 ปี โดยตั้งเป้ายอดขายในปี 2567 อยู่ที่ 25,000 คัน และวาง 3 กลยุทธ์หลักเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ได้แก่

    -ด้านผลิตภัณฑ์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ถือเป็นแบรนด์ที่มีจุดแข็งด้านผลิตภัณฑ์รถยนต์พลังงงานใหม่ที่ครอบคลุม ทั้งไฮบริด ปลั๊กอิน-ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในหลายเซ็กเมนต์ โดยในปีนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายใหม่ด้วยการเพิ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ xEV ในประเทศไทยให้ครบทั้งสิ้น 15 รุ่น ภายในปี 2568



    และในปี 2567 บริษัทฯ วางแผนที่จะเปิดตัวยานยนต์พลังงานใหม่อย่างน้อย 3 รุ่นในไทย รวมถึงวางแผนที่จะทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่เป็นเอสยูวี และศึกษาการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับสูง เช่น Hi-4 และ Coffee Intelligence System มาพัฒนาร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้าที่จะแนะนำสู่ตลาดไทยในอนาคตอีกด้วย

    -ด้านการขาย มุ่งเน้นการยกระดับประสบการณ์ให้ลูกค้าโดยยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง (User-centric) และนโยบายราคาเดียว (One Price Policy) โดย GWM จะเดินหน้าต่อยอดธุรกิจฟลีทในกลุ่มหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานที่สนับสนุนการใช้รถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น

    รวมถึงการต่อยอดธุรกิจรถยนต์ใช้แล้ว (GWM Certified Pre-Owned) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการขายรถ หรือต้องการประเมินราคาขายรถใช้แล้ว และลูกค้าที่ต้องการเป็นเจ้าของรถ GWM คุณภาพดี

    -ด้านการจัดจำหน่าย ในปี 2567 เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีแผนที่จะขยายเครือข่าย GWM Partner Store ให้ครบ 101 แห่งทั่วประเทศ จากปัจจุบันอยู่ที่ 81 แห่ง และการขยาย Partner Store ขนาด S ในจังหวัดขนาดเล็ก และ XS รูปแบบใหม่ในอำเภอรองของจังหวัดใหญ่ เพื่อสร้างเครือข่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ควบคู่กับการขยายสถานีชาร์จ (DC Fast Charge) ให้ครบ 55 แห่ง ภายในปี 2567



    ด้านการบริการหลังการขาย เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญของบริษัทฯ ในการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภครอบด้าน ด้วย GWM Smart Service ระบบการบริการอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยในการยกระดับการบริการแก่ลูกค้า การบริหารจัดการอะไหล่ที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการขยายพื้นที่คลังอะไหล่และเพิ่มขีดความสามารถในการจัดส่งอะไหล่ให้ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น และการพัฒนาศักยภาพช่างเทคนิค โดยบริษัทฯ มีแผนเปิดศูนย์ฝึกอบรมแห่งใหม่ เพื่อรองรับการฝึกอบรมให้กับช่าง GWM ทั่วประเทศ เพื่อให้มั่นใจได้ในความรู้และทักษะในการซ่อมบำรุงรักษารถ GWM ได้อย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากล

    รวมถึงการสร้างความอุ่นใจในการเป็นเจ้าของรถยนต์ GWM โดยรถยนต์ของ GWM ทุกคันมาพร้อมแพ็คเกจการบำรุงรักษาตามระยะทาง ฟรี ทั้งค่าแรงและค่าอะไหล่ ตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และ 5 ปี 75,000 กิโลเมตร ควบคู่กับบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (Roadside Assistance)

    ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯ ยังจัดตั้ง EV Battery Rapid Team หรือหน่วยงานวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อให้คำแนะนำและตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่หลังเกิดอุบัติเหตุ และ GWM BATTERY HOTLINE สายด่วนเพื่อรับแจ้งปัญหาเกี่ยวกับแบตเตอรี่และการเคลมโดยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ปี 2566 เอ็มจีกวาดยอดขายในไทยได้ 27,311 คัน ครึ่งหนึ่งเป็น EV แล้ว

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine