Wang Chuanfu มหาเศรษฐีชาวจีน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยักษ์ใหญ่อย่าง BYD มีมูลค่าทรัพย์สินลดลงมหาศาลถึง 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในวันเดียว หลังบริษัทฯ ประกาศลดราคารถซีรีส์ Ocean และ Dynasty ลงมากถึง 34% ทั้งที่รถของ BYD ก็ได้ชื่อว่ามีราคาต่ำอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม Forbes ประเมินว่า Wang Chuanfu ประธานและซีอีโอวัย 59 ปีของ BYD ยังคงมีความมั่งคั่ง 28.3 พันล้านเหรียญ ซึ่งส่วนใหญ่มีที่มาจากการถือหุ้น BYD อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง กลับตกลงมากถึง 9.2% และราคาหุ้น ในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นของจีน ลดลง 6.2% ณ วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม 2025
ฟากฝั่งนักลงทุนต่างมีปฏิกิริยาต่อการประกาศลดราคาของบริษัทเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ BYD โพสต์บนเว็บไซต์และช่องทางโซเชียลมีเดีย ในจีน โดยระบุว่าจะลดราคารถยนต์ไฟฟ้า 100% และรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด 22 รุ่น ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน
ตัวอย่างเช่น รถซีดานไฮบริดรุ่น Seal 07 DM-i ที่มาพร้อมฟีเจอร์ช่วยขับขี่ เป็นรุ่นที่ปรับลดราคาลงมากที่สุด โดยหั่นราคาลงราว 53,000 หยวน (ราว 7,400 เหรียญ) คิดเป็น 34% จากราคาเต็ม ทำให้ราคาของรถรุ่นดังกล่าวเหลือเพียง 102,800 หยวน (ราว 14,200 เหรียญ) ส่วนรุ่น Song Plus ตอนนี้ราคาเหลือ 117,800 หยวน (ราว 16,300 เหรียญ) ลดลงจากราคาเต็ม 20%
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ BYD ใช้กลยุทธ์การลดราคา แต่การประกาศลดราคาครั้งนี้คล้ายกระตุ้นความกลัวเรื่องสงครามราคารถ EV ในจีน โดย Ke Yan หัวหน้าทีมวิจัยจากบริษัทวิจัย DZT Research ที่เชี่ยวชาญด้านการเงินและการลงทุนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ชี้ว่า ราคาหุ้นของ BYD ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในช่วงปีนี้พุ่งสูงกว่า 60% ทำให้นักลงทุนอาจเลือกจะขายเพื่อทำกำไรในช่วงจังหวะนี้เพื่อหลีกหนีผลกระทบจากการหั่นราคาที่อาจตามมา
Yale Zhang กรรมการผู้จัดการ Automotive Foresight บริษัทวิจัยตลาดผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ในจีน มองว่า BYD ต้องการใช้การลดราคามหาศาลเพื่อดึงดูดลูกค้าที่สนใจรถ EV ราคาถูก
ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา BYD พยายามเพิ่มยอดการจัดส่งรถยนต์ด้วยการเพิ่มฟังก์ชั่นขับขี่อัตโนมัติในรุ่นที่มีราคาต่ำกว่า 10,000 เหรียญ แต่กลยุทธ์นี้ดูเหมือนจะไม่ได้ผลตอบรับตามที่คาดการณ์ไว้เท่าใดนัก ส่วนหนึ่งมาจากข่าวอุบัติเหตุรถ EV ที่ใช้ระบบผู้ช่วยขับขี่ของ Xiaomi ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ทำให้ผู้คนต่างวิตกกังวลเกี่ยวกับซอฟแวร์ระบบขับขี่อัจฉริยะ
ดังนั้น เพื่อเพิ่มยอดขายในจีนที่เป็นประเทศบ้านเกิด BYD จึงเลือกหั่นราคาซึ่งเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด โดยในปี 2025 บริษัทรถ EV ยักษ์ใหญ่รายนี้ตั้งเป้าเพิ่มยอดจัดส่งให้ถึง 5.5 ล้านคันทั่วโลก
บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่า ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นในจีนอาจไม่มีทางเลือกนอกจากตามน้ำไปด้วย ท่ามกลางความกังวลในสถานการณ์การแข่งขันที่ยิ่งทวีความดุเดือด ราคาหุ้นของ Geely Automobile ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงร่วงลงกว่า 8% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในขณะที่ราคาหุ้นของ Great Wall Motor ตกลงกว่า 5%
แปลและเรียบเรียงจาก China’s Wang Chuanfu Loses $1.8 Billion As Investors Fear EV Price War
ภาพโดย Ferenc ISZA on AFP
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : อีกหน่อยนุดจะฟังเราออก! Baidu ยื่นขอจดสิทธิบัตรใช้ AI แปลงเสียงสัตว์เป็นคำพูด
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine