Jaguar ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ พลิกโฉมแบรนด์ครั้งใหญ่ มุ่งผลิตเพียงรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เท่านั้น พร้อมเปลี่ยนดีไซน์โลโก้ให้มีความทันสมัย และเน้นย้ำความเป็นผู้สร้างสรรค์ยนตรกรรมสัญชาติอังกฤษให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
โลโก้ใหม่ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์อายุกว่า 100 ปีรายนี้มีการผสมผสานอักษรภาษาอังกฤษทั้งตัวพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่เข้าด้วยกันอย่างลงตัว แทนที่โลโก้เดิมที่สะกดด้วยอักษรพิมพ์ใหญ่เท่านั้น โดยนอกจากความสวยงามแล้ว อักษรเหล่านี้จะเขียนว่า JaGUar เน้นย้ำการออกเสียงด้วยสำเนียงภาษาอังกฤษแบบบริติชซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของแบรนด์อีกด้วย
ตราสัญลักษณ์รูปเสือจากัวร์กระโจนก็ได้รับการปรับเปลี่ยนเช่นกัน โดยมีพื้นหลังเป็นแถบเส้น เสมือนว่าเสือจากัวร์กำลังพุ่งทะยานผ่านขีดจำกัดและความธรรมดาทั่วไป สู่ตัวตนใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีโมโนแกรมซึ่งนำเอาอักษร J และ R ซึ่งเป็นตัวอักษรตัวแรกและตัวสุดท้ายในคำว่า Jaguar มาประกอบกันในรูปวงกลม
“Jaguar มีรากฐานสำคัญจากความเป็นต้นตำรับดั้งเดิม Sir Williams Lyons ผู้ก่อตั้งแบรนด์มีความเชื่อว่า ‘Jaguar ไม่ควรลอกเลียนแบบใคร’ ทัศนคติของเราในปัจจุบันจึงถอดแบบมาจากแนวคิดนี้ของเขา” Gerry McGovern ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสร้างสรรค์ของ Jaguar เผย พร้อมย้ำว่าแบรนด์โฉมใหม่นั้น “กล้าหาญและไม่เหมือนใคร”
นอกจากเปลี่ยนโลโก้ปรับโฉมภาพลักษณ์แล้ว Jaguar ยังเตรียมเข้าสู่ยุคใหม่ของธุรกิจด้วย โดยมีกำหนดการเปิดตัวรถ EV ใหม่ 3 รุ่นในปี 2026 หลังระงับการขายรถยนต์ทั้งหมดในตลาดสหราชอาณาจักรและลดโมเดลที่วางขายในตลาดสหรัฐอเมริดาลงเหลือเพียงรุ่นเดียว ย้ำเจตจำนงอันแรงกล้าในการหันไปเป็นผู้ผลิตรถ EV เต็มตัว
“นี่นับเป็นการสร้างสรรค์ใหม่ที่หันไปหยิบจับแก่นแท้ของ Jaguar กลับมาอีกครั้ง โดยหวนคืนสู่คุณค่าที่เคยทำให้แบรนด์เป็นที่รัก แต่ก็ไม่ลืมสร้างความเชื่อมโยงกับลูกค้าในยุคสมัยปัจจุบัน” McGovern กล่าว
ทั้งนี้ Jaguar ได้เปิดตัวโลโก้และการพลิกโฉมแบรนด์ครั้งใหม่เมื่อวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านมา แต่สำหรับหน้าตาของยนตรกรรมที่จะผลิตออกมาหลังจากนี้ คงต้องรอชมกันในวันที่ 2 ธันวาคมที่งาน Miami Art Week
แหล่งที่มา:
FEARLESS. EXUBERANT. COMPELLING. THIS IS JAGUAR, REIMAGINED
Jaguar is changing its iconic logo
Jaguar unveils new logo ahead of electric relaunch
ภาพ: Jaguar
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : e Vitara รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกจาก Suzuki และ Toyota เตรียมบุกตลาดยุโรป อินเดีย และญี่ปุ่นปีหน้า
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine