สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ปรับลดเป้าผลิตรถยนต์ปี 67 เหลือ 1.7 ล้านคัน จากเดิมที่ 1.9 ล้านคันส่วนครึ่งปีแรก 2567 ยอดผลิตรถยนต์รวม 761,240 คัน ลดลง 17.39%YoY หดตัวตามยอดขายในประเทศที่ลดลง จากสถานการณ์นี้ครัวเรือนสูง และเศรษฐกิจไทยโตต่ำที่ส่งผลให้สถาบันการเงินจึงระมัดระวังในการอนุมัติสินเชื่อโดยเฉพาะรถกระบะและรถบรรทุก ส่วนรถไฟฟ้า BEV - HEV ยอดจดทะเบียนใหม่ยังเพิ่มขึ้น
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ล่าสุดมีการปรับลดเป้าหมายการผลิตรถยนต์ปี 2567 เหลือ 1.7 ล้านคัน จากเดิมที่ระดับ 1.9 ล้านคัน โดยปรับลดยอดผลิตขายในประเทศลดลงจาก 750,000 คันมาสู่ระดับ 550,000 คัน
ทั้งนี้ สาเหตุที่ปรับยอดผลิตลงมาจาก หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงกว่า 90% ของ GDP ในขณะที่รายได้ครัวเรือนยังต่ำจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำ คนงานมีรายได้ลดลง ประชาชนระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น สถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์โดยเฉพาะรถกระบะ
แต่ยังคาดว่า ยอดขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของครึ่งปีหลังปี 2567 จะดีขึ้นจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 และ 2568 ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นของรัฐบาล
นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ในเดือน มิ.ย. 67 พบว่า ยอดการผลิตรถยนต์มีจำนวน 116,289 คัน ลดลง 20.11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และยังลดลง 7.82% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สาเหตุเพราะการผลิตขายในประเทศที่ลดลงถึง 43.08% ตามยอดขายในประเทศที่ลดลง 26% และผลิตส่งออกลดลง 3.70%
ขณะที่ช่วงครึ่งปีแรกเดือน ม.ค. - มิ.ย. 2567 รถยนต์ที่ผลิตได้มีจำนวนรวม 761,240 คัน ลดลง 17.39%YoY โดยมีรถยนต์นั่งมีจำนวน 283,223 คัน ลดลง 11.79%YoY
ขณะที่ครึ่งปีแรก 2567 มีการผลิตรถกระบะบรรทุกมีจำนวน 78,054 คัน ลดลง 25.98%YoY ส่วนรถกระบะดับเบิลแค็บผลิตได้ 309,130 คัน ลดลง 19.83%YoY และรถกระบะ PPV ผลิตได้ 79,554 คัน ลดลง 14.32%YoY นอกจากนี้มีรถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน - มากกว่า 10 ตัน ผลิตได้ 11,269 คัน ลดลง 31.73%YoY
ช่วงครึ่งปีแรกเดือน ม.ค. - มิ.ย. 2567 มีผลิตเพื่อส่งออกได้ 516,183 คัน ลดลง 2.73%YoY (คิดเป็น 67.81% ของยอดการผลิตทั้งหมด ส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ในช่วงเวลาเดียวกันผลิตได้ 245,047 คัน ลดลง 37.30%YoY
ด้านยอดขายตั้งแต่เดือนม.ค. - มิ.ย. 2567 รถยนต์มียอดขาย 308,027 คัน ลดลง 24.16%YoY
ขณะที่ด้านยานยนต์ไฟฟ้า พบว่า ครึ่งปีแรกในเดือน ม.ค. - มิ.ย. 2567
- ยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 51,911 คัน เพิ่มขึ้น 20.60%YoY
- ยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 71,906 คัน เพิ่มขึ้น 55.84%YoY
- ยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 4,896 คัน ลดลง 21.94%YoY
ณ 30 มิ.ย. 67 มียอดจดทะเบียนสะสมประเภท BEV 183,221 คัน เพิ่มขึ้น 144.31%YoY ประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 414,894 คัน เพิ่มขึ้น 35.30%YoY และประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 58,774 คัน เพิ่มขึ้น 20.41%YoY
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เกือบ 10 เดือน Digital Wallet เปลี่ยนไปแค่ไหน จากการ ‘ให้ถ้วนหน้า’ สู่ ‘หั่นวงเงิน’
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine