“กรุงศรี ออโต้” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ชี้การแข่งขันด้านดิจิทัลยังคงมาแรง ควบคู่การสร้างความแตกต่างให้ผลิตภัณฑ์และบริการ พร้อมปักธง 4 เทรนด์น่าจับตาในปี 2565 ได้แก่ เข้าถึงด้วยออนไลน์ มัดใจด้วยคำปรึกษา ให้มากกว่าด้วยความหลากหลาย และตอบอินไซต์ผู้บริโภค
กฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจตลาดยานยนต์ และสินเชื่อยานยนต์ปี 2564 ว่าจากการที่จีดีพีขยายตัว 1.2 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์เดิม สาเหตุจากปัจจัยหลายประการประกอบด้วย สถานการณ์โควิดเบาบางลง รัฐบาลเปิดประเทศ และเศรษฐกิจบางภาคส่วนมีแนวโน้มดีขึ้น โดยภาคที่เติบโตคือการก่อสร้างของภาครัฐ ค้าปลีกออนไลน์ ธุรกิจขายส่ง และค่ายรถยนต์หลายแห่งมีโมเดลใหม่ๆ ออกมา ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว และคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวสู่ระดับก่อนโควิด-19 ได้ในช่วงปลายปี 2565 ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ใหม่อยู่ที่ 750,000 คัน ลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ และมูลค่าของสินเชื่อยานยนต์อยู่ที่ 465,000 ล้านบาท ลดลง 4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2563 ทั้งนี้ กรุงศรี ออโต้ มองว่ามี 4 เทรนด์ที่จะเข้ามาขับเคลื่อนตลาดสินเชื่อยานยนต์ในปีหน้า โดยเทรนด์แรกคือการเข้าถึงด้วยออนไลน์ จากการสำรวจโดย ABeam Consulting ระบุว่าร้อยละ 40 ของผู้ซื้อรถในประเทศไทย สนใจที่จะซื้อรถผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งรวมถึงขั้นตอนการวางเงินดาวน์และวางแผนด้านสินเชื่อ กฤติยา กล่าวว่า “กรุงศรี ออโต้ ได้วางรากฐานด้านบริการสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่อง และในเดือนกันยายนที่ผ่านมาเราได้นำร่องบริการสินเชื่อยานยนต์ดิจิทัล ครอบคลุมทั้งรถยนต์ใหม่และรถยนต์มือสอง ผ่าน GO Application by Krungsri Auto ลูกค้าสามารถยืนยันตัวตนผ่าน National Digital ID (NDID) กรอกใบสมัคร และรอรับผลอนุมัติสินเชื่อได้โดยไม่ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังได้เปิดให้ลูกค้าที่ขอสินเชื่อรถยนต์ใหม่ในงาน Motor Expo 2021 ได้ใช้งานเพิ่มเติมอีกด้วย” แม้แพลตฟอร์มดิจิทัลจะช่วยให้ผู้บริโภคหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่สำหรับรถยนต์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง ผู้บริโภคมองว่าการพูดคุยกับพนักงานขายที่มีความเชี่ยวชาญ ยังคงเป็นช่องทางที่มีประโยชน์สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ในขณะเดียวกัน 59% ของผู้ซื้อรถในประเทศไทยยังคงเดินทางไปที่โชว์รูม พูดคุยกับพนักงานขาย และทดลองขับรถ ก่อนตัดสินใจซื้อ จึงเป็นที่มาของเทรนด์ที่สองเทรนด์ที่สองคือการมัดใจด้วยคำปรึกษา “ในธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ เทคโนโลยีดิจิทัลไม่สามารถแทนที่ช่องทางเดิมทั้งหมดได้ แต่จะมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของพนักงาน และมอบคำปรึกษาที่ตรงใจลูกค้า สำหรับการให้บริการโดย Krungsri Auto Advisor เราได้ใช้เทคโนโลยีในการวิเคราะห์ฐานข้อมูลลูกค้า และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะเจาะจงกับลูกค้าแต่ละราย อีกทั้งยังใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเข้ามาลดขั้นตอนในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการขอสินเชื่อ การประเมินราคารถยนต์มือสอง และการส่งเอกสารพิจารณาสินเชื่อได้แบบเรียลไทม์” นอกจากนี้ความหลากหลายของช่องทางการบริการเป็นอีกปัจจัยที่ผู้ให้บริการสินเชื่อไม่ควรมองข้าม จากสถิติชี้ให้เห็นว่ามากกว่าครึ่งของเจ้าของรถยนต์หรูและรถยนต์ทั่วไป เลือกใช้หรือต้องการใช้ช่องทางดิจิทัลสำหรับบริการหลังการขาย ในขณะที่เจ้าของรถกระบะส่วนใหญ่ยังคงเลือกช่องทางออฟไลน์ “อีกสิ่งหนึ่งที่กรุงศรี ออโต้ ให้ความสำคัญคือ กลยุทธ์ในการเลือกใช้ช่องทางดิจิทัลให้เหมาะสมกับแต่ละวัตถุประสงค์ ยกตัวอย่างเช่น เราใช้ GO Application by Krungsri Auto ในการรวบรวมผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ไว้ในที่เดียว ควบคู่ไปกับการใช้ LINE Official Account เพื่อให้คำปรึกษาผ่านแชทแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้เรายังยังได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเพิ่มความรวดเร็วในการนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ และบริการที่สาขาธุรกิจยานยนต์ต้นแบบ Smart Branch อีกด้วย” “กรุงศรี ออโต้ มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์อินไซต์ของลูกค้าในทุกสถานการณ์ โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดอย่าง ‘คาร์ ฟอร์ แคช พร้อมใช้’ สินเชื่อเพื่อคนมีรถ พร้อมวงเงินฉุกเฉิน และการขยายประกันอะไหล่ ‘กรุงศรี ออโต้ โพรเทค’ ให้ครอบคลุมเซ็กเมนต์ บิ๊ก ไบค์ ก็ได้รับการออกแบบมาเพื่อเสริมความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้รถในระยะยาว ในปีหน้า เราจะมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้แก่ลูกค้าในวงกว้างขึ้น” ทั้งนี้ กรุงศรี ออโต้ ตั้งเป้ายอดสินเชื่อค้างปี 2564 ไว้ที่ 428,000 ล้านบาท โดยมียอดสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัลคิดเป็นร้อยละ 4–5 จากเป้าหมายทั้งหมด อ่านเพิ่มเติม: “METALAB Creative Solution” เอเจนซี่ไทยในโลก Metaverseไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine