อีฟ โรเช มั่นใจปี 68 ธุรกิจโต 20% ทุ่มงบเปิดร้านตามคอนเซ็ปต์ 'Botanical Beauty Institute' แบบ stand alone 2 สาขา - Forbes Thailand

อีฟ โรเช มั่นใจปี 68 ธุรกิจโต 20% ทุ่มงบเปิดร้านตามคอนเซ็ปต์ 'Botanical Beauty Institute' แบบ stand alone 2 สาขา

อีฟ โรเช มั่นใจปี 68 ธุรกิจโตต่อเนื่องจากปีก่อน 20% ทุ่มงบการตลาดเพิ่ม ลุยเปิดร้านตามคอนเซ็ปต์ 'Botanical Beauty Institute' แบบ stand alone 2 สาขา หลังเปิดตัวสาขาแรกที่ Mega บางนา ปลายปีก่อน ได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดี


    Yves Rocher (อีฟ โรเช) แบรนด์ดังจากฝรั่งเศส จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ความงาม Yves Rocher Lift Pro-Collagene Dermo-Botanical Beauty ที่มีส่วนผสมอันทรงพลัง ของ Organic Ice Plant เอกสิทธิ์เฉพาะของ อีฟ โรเช ในการลดเลือนริ้วรอย พร้อมด้วยสารสกัดจาก BAKUCHIOL (บาคูชิออล) เรตินอลธรรมชาติ 100% ที่สกัดจากเมล็ด Babchi ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูเซลล์ผิวสามารถลดเลือนริ้วรอยได้ถึง 32% ภายใน 4 สัปดาห์

    บรรยากาศภายในงานได้รับเกียรติจาก Mr. Philippe Duchossois, Business Development Director of Yves Rocher และ Ms. Alexa Andre / Head of Scientific Communication - Yves Rocher ผู้เชี่ยวชาญจาก อีฟ โรเช ประเทศฝรั่งเศส ที่ได้มาบอกเล่าถึงประสิทธิภาพอันทรงพลังของส่วนผสมใน Lift Pro-Collagene รวมถึงเทคโนโลยีการสกัดที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ และยังมีแพทย์หญิงวรายุวดี อมรภิญโญ แพทย์เฉพาะทางผิวหนัง จากเพจ HELLO SKIN by หมอผิวหนัง มาให้ความรู้ถึงสาเหตุและปัจจัยหลักของการเกิดริ้วรอย ต่อเนื่องด้วยการเปิดตัว ก้อย อรัชพร โภคินภากร นักแสดงสาวชื่อดัง ที่ได้รับเลือกจากแบรนด์ให้เป็น Friend of Yves Rocher Lift Pro-Collagene 



    ทั้งนี้ ในส่วนของเทรนด์ความงามหลังสถานการณ์ Covid-19 คลี่คลายลง ทาง สิรียา ชุณหกิติยานนท์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด อีฟ โรเช (ประเทศไทย) ได้แสดงความคิดเห็นผ่าน Forbes Thailand ว่า "ผู้คนส่วนใหญ่หันมาสนใจเรื่อง Well Being ทั้งสุขภาพกายและใจ รวมถึงใส่ใจเรื่องสังคมสิ่งแวดล้อมหรือ Sustainability มากขึ้น โดยแบรนด์มีจุดแข็งเรื่อง Beauty เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว อีกทั้งเรื่องของความยั่งยืนก็ถือเป็นหัวใจหลักสำคัญนับตั้งแต่แบรนด์ได้ก่อตั้งขึ้นมา ดังนั้นทุกอย่างจึงถือว่าตอบโจทย์ผู้บริโภคคนไทยในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี" 

    ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ยังคงชะลอตัว ผู้บริหารของอีฟ โรเช (ประเทศไทย) ยังบอกด้วยว่า "ไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจแต่อย่างใด เนื่องด้วยทุกผลิตภัณฑ์ของแบรนด์เราผลิตขึ้นเองทั้งหมด นับตั้งแต่การเพาะปลูกพืชพรรณต่างๆ จึงสามารถควบคุมวัตถุดิบเรื่องต้นทุนที่มาจากฝรั่งเศสได้เป็นอย่างดี และไม่มีการปรับขึ้นราคาจนทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคแต่อย่างใด เรามีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ราคาจับต้องได้ สินค้าที่ถูกสุดของเราถือขนาดทดลอง 59 บาท ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ถือเป็น Top Product ของแบรนด์ก็มีราคาเริ่มต้นเพียง 300 บาทเท่านั้น" 



    สำหรับเป้าหมายธุรกิจในปีนี้ อีฟ โรเช จะมีการลงทุนด้านการตลาดเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อน พร้อมคาดการณ์รายได้ปี 2568 จะโตเพิ่มขึ้น 15-20% ได้อย่างแน่นอน เฉพาะเดือนมกราคมที่ผ่านมา เรามีรายได้เกินคาดที่โตเพิ่มขึ้นถึง 20% ซึ่งรายได้หลักมาจากผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมลดการหลุดร่วง ซึ่งเป็น 1 ใน Top Product ที่สร้างชื่อเสียงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ จะมาการปรับช่องทางการขายด้วยการขยายช่องทางให้เพิ่มขึ้น จากเดิมที่แบรนด์รักษาคอนเซ็ปต์ในการเปิดรีเทลเลอร์จำหน่ายสินค้าเอง ที่มีบริการ Beauty Treatment อยู่ภายในร้านด้วย, มีร้านค้าขนาดเล็กในรูปแบบคีออส (Kiosk) พร้อมขยายสาขาเปิดร้านแบบ stand alone เพิ่มอีก 2 สาขาในปีนี้ และกระจายไปสู่ช่องทาง E-Commerce เพิ่มมากขึ้น

    "เดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา เราได้ทำการเปิดร้านสปาแบบ stand alone ในคอนเซ็ปต์ Botanical Beauty Institute สาขาแรกที่ห้าง Mega บางนา เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้บริการหัตถการในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ปราศจากสารเคมี ซึ่งก็ได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดี และในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ เราก็จะขยายสาขาเพิ่มด้วยการเปิดตัวที่ห้าง Central world ส่วนอีกสาขากำลังอยู่ระหว่างพิจารณาเลือกทำเลที่เหมาะสม ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องของลงทุนเม็ดเงินการในการโฆษณาทำการตลาดพร้อมขยายช่องทางให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้นแล้ว เรายังลงทุนเงินในส่วนของการพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น" สิรียา กล่าวเพิ่มเติม

    ณ ปัจจุบัน  อีฟ โรเช มีพนักงานให้บริการหน้าร้านรวมทั้งสิ้นราว 200 คน มีสาขาทั้งหมดจำนวน 64 สาขา โดย 51 สาขา จะมีห้องบริการความงาม Beauty Treatment รวมอยู่ด้วย สำหรับงบลงทุนในส่วนของการตลาดปี 2568 นี้ จะแบ่งไปใช้ในงบโฆษณา ประชาสัมพันธ์ รวมถึง influencer 60% และงบเพื่อส่งเสริมการขาย, CRM และ CXM 40% 


ภาพ :  Yves Rocher 



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ชีวิตติดแกลม! ในแบบ 'ก้อย อรัชพร' ยอมทุ่มเงินซื้อความสุขด้วย 'คอร์สพัฒนาตัวเอง'

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine