“WeTV” เตรียมปั้นคอนเทนต์ไทยสู่เวทีโลก พร้อมเปิดตัว “จ้าวลู่ซือ” เมกะสตาร์จีนขึ้นแท่น “โกลบอล แบรนด์แอมบาสเดอร์” - Forbes Thailand

“WeTV” เตรียมปั้นคอนเทนต์ไทยสู่เวทีโลก พร้อมเปิดตัว “จ้าวลู่ซือ” เมกะสตาร์จีนขึ้นแท่น “โกลบอล แบรนด์แอมบาสเดอร์”

FORBES THAILAND / ADMIN
28 Sep 2023 | 09:00 AM
READ 1215

“WeTV” ตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงที่สุดความบันเทิงคุณภาพแห่งเอเชีย เดินหน้าประกาศแผนธุรกิจปี 2024 ที่มุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการเชื่อมโยงอีโคซิสเต็ม (Ecosystem) ของ WeTV อย่างครบลูป 

    

    ชูสองกลยุทธ์หลักรุกตลาด ได้แก่ กลยุทธ์ด้านออริจินัลคอนเทนต์ หรือ WeTV ORIGINAL คอนเทนต์ซีรีส์วายหลากหลายแนว และรายการไอดอลเซอร์ไววัลเรือธง “CHUANG ASIA” ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลก และกลยุทธ์ด้านการสร้างประสบการณ์ (Enrich Touchpoint) ทั้งการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ให้กับผู้ใช้งานและฟีเจอร์สำหรับนักโฆษณาเพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น พร้อมผนึกกำลังพันธมิตรทางธุรกิจ มุ่งเสิร์ฟคอนเทนต์คุณภาพ ล่าสุด สร้างปรากฏการณ์ความบันเทิงครั้งใหญ่ เปิดตัว “จ้าวลู่ซือ” (Zhao Lusi) เมกะสตาร์จีนขึ้นแท่น “โกลบอล แบรนด์แอมบาสเดอร์” เตรียมเดินหน้ามอบประสบการณ์ความบันเทิงคุณภาพตลอดปี

    กนกพร ปรัชญาเศรษฐ ผู้จัดการ WeTV ประจำประเทศไทย บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินงานของเทนเซ็นต์ วิดีโอมีการเติบโตสอดคล้องกับ WeTV ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลมาจากภาพรวมของวิดีโอสตรีมมิง หรือ Over-the-top (OTT) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือดจากผู้เล่นหลายแบรนด์ในตลาด 

    อีกทั้งกระแสความนิยมของคอนเทนต์จีนและศิลปินจีนกำลังได้รับความนิยมจากกลุ่ม Gen X, Y และ Z ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ WeTV มีจำนวนผู้ใช้งาน MAU (Monthly-active user) ที่เพิ่มขึ้นกว่า 20% และมีการเติบโตของรายได้จากการให้บริการสมาชิกแบบ Subscription เพิ่มขึ้น 40% และ WeTV ประเทศไทยมีรายได้จากการสมัครสมาชิกแบบ Subscription เติบโตขึ้นถึง 62% มียอดการดาวน์โหลด 45 ล้านครั้ง จำนวนผู้ใช้งาน MAU 13.5 ล้านคน ส่งผลให้เราเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานแบบรับชมโฆษณา (Advertising Video On Demand - AVOD) และผู้นำอันดับสองในส่วนผู้ใช้งานแบบสมัครสมาชิก (Subscription Video On Demand - SVOD) นอกจากนี้คนไทยนิยมรับชมคอนเทนต์ของ WeTV ผ่านอุปกรณ์ Home Entertainment มากขึ้น โดยมีสัดส่วนเติบโตขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน

    สำหรับแผนธุรกิจของ WeTV ประเทศไทย ในปี 2024 จะมุ่งเน้นไปที่การเชื่อมโยงอีโคซิสเต็ม โดยจะมีสองกลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1. กลยุทธ์ด้านออริจินัลคอนเทนต์ หรือ WeTV ORIGINAL นำโดยคอนเทนต์กลุ่มซีรีส์วาย และรายการไอดอลเซอร์ไววัล CHUANG ASIA ที่เป็นเรือธงในการทำตลาด รวมถึงการนำเสนอออริจินัล คอนเทนต์ที่มีความหลากหลายส่งตรงจากเทนเซ็นต์ วิดีโอ สำหรับปี 2023 WeTV จะส่งท้ายปีด้วยการส่งซีรีส์ “เด็กฝึกหน้าใส เติมหัวใจนายหญิง (Intern in My Heart)” ผลิตโดย บราโว่ สตูดิโอส์ ในเครือ จีเอ็มเอ็ม สตูดิโอส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ไปออกอากาศพร้อมกันกับประเทศจีน และในปีหน้า WeTV เตรียมผลิตซีรีส์วายที่เป็น WeTV ORIGINAL 6-8 เรื่อง ร่วมกับผู้ผลิตชั้นนำ อาทิ Kongthup Production, Dee Hup House และ Mandeework ฯลฯ พร้อมกันนี้ WeTV เดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ความบันเทิงครั้งใหญ่ ด้วยการแต่งตั้ง “จ้าวลู่ซือ” เมกะสตาร์ดาวรุ่งจากจีนที่มีผลงานโดดเด่น และมีฐานแฟนคลับทั่วโลกขึ้นเป็น “โกลบอล แบรนด์แอมบาสเดอร์” ซึ่งจะมาช่วยสร้างการรับรู้ของแบรนด์ WeTV ไปยังผู้บริโภคในวงกว้างยิ่งขึ้น



    กนกพร กล่าวต่อว่า “อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของ WeTV ในปี 2024 คือ การเปิดตัวเมกะโปรเจกต์เพื่อบุกเบิกรายการไอดอลเซอร์ไววัลระดับเอเชียครั้งแรกจากประเทศไทยกับรายการ CHUANG ASIA รายการไอดอลเซอร์ไววัลชื่อดังจาก Tencent Video เฟ้นหาศิลปินอินเตอร์เนชันแนลไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปกลุ่มแรกที่จะแจ้งเกิดจากประเทศไทย และเปิดเซอร์ไพร์สในการร่วมงานครั้งแรกกับ “แจ็คสัน หวัง” ในบทบาท “Lead Mentor” อีกทั้งยังได้ค่าย RYCE Entertainment มารับหน้าที่ดูแลการเดบิวต์เกิร์ลกรุ๊ปกลุ่มแรกจากรายการ 

    นอกจากนี้ CHUANG ASIA ยังได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ Have Fun Media, RYCE Entertainment, one31, GMMTV, และ 411 Entertainment ที่เข้าร่วมเสริมความแข็งแกร่งในด้านการผลิตรายการ และการพัฒนาศักยภาพศิลปินที่ได้เดบิวต์ภายใต้มาตรฐานระดับโลก โดยรายการ CHAUNG ASIA จะเริ่มออกอากาศในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2024 รับชมพร้อมกันทั่วโลกได้ทาง WeTV และออกอากาศทางโทรทัศน์ผ่านช่อง one31 รวมทั้งยังเตรียมออกอากาศทางช่องโทรทัศน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย” 

    และ 2.กลยุทธ์การสร้างประสบการณ์ ให้กับผู้ใช้งาน เพื่อเชื่อมบริการจากโลกออนไลน์สู่โลกออฟไลน์แบบครบวงจร และสร้างคอมมูนิตี้ให้แข็งแกร่ง อาทิ เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “Bubble” ที่เปิดให้แฟนๆ สามารถแชทพูดคุยกับศิลปินและดาราที่ชื่นชอบอย่างใกล้ชิด เชื่อมโยงประสบการณ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคในรูปแบบใหม่ และฟีเจอร์สำหรับนักโฆษณาอย่าง New VDO Splash Screen ที่จะช่วยเพิ่ม CTR ได้ถึง 100% เป็นต้น

    “จากแผนกลยุทธ์ทั้งการผลิตออริจินัล คอนเทนต์กับพันธมิตรผู้ผลิตชั้นนำ รวมถึงการเฟ้นหาศิลปินและนักแสดงมาร่วมงานในโปรเจกต์ของ WeTV โดยจะร่วมมือกับ “เฮดไลเนอร์ ไทยแลนด์” (HEADLINER THAILAND) ธุรกิจบริหารจัดการและพัฒนานักแสดง-ศิลปินแบบ
ครบวงจรที่เปิดโอกาสให้เป็นศิลปินทำงานในวงการบันเทิงไทยและต่างประเทศ ทั้งหมดนี้จะทำให้ WeTV มีอีโคซิสเต็มที่แข็งแกร่ง อีกทั้งการสร้างประสบการณ์ให้กลุ่มผู้ใช้งาน เรามั่นใจว่าจะสามารถทำให้จำนวนผู้ชมคอนเทนต์ไทยเติบโตขึ้น 2.5 เท่าภายในปี 2024

    ในขณะเดียวกัน WeTV จะเดินหน้ารักษาการเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงที่สุดความบันเทิงคุณภาพแห่งเอเชียอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสานต่อพันธกิจในการผลักดันคอนเทนต์ไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์สู่เวทีโลก เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ตลอดจนเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดได้ครบวงจร 360 องศา ให้กับลูกค้า นักการตลาด และมีเดียเอเยนซีชั้นนำได้อย่างมีประสิทธิภาพ” กนกพร กล่าวทิ้งท้าย

    

    อ่านเพิ่มเติม : “กรุงศรี ออโต้” ผนึกกำลัง “อีวี มี พลัส” เสริมแกร่งธุรกิจ เปิดตลาดใหม่ผู้ใช้ EV เพิ่มทางเลือกสู่การเป็นเจ้าของรถยนต์

    ​ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine

TAGGED ON