3 แบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มสัญชาติไทยแท้ ตำมั่ว ลาวญวณ และชงดี ชูกลยุทธ์ Local Collaboration ผนึกกำลังยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นรังสรรค์สู่เมนูพิเศษที่ลงตัว มุ่งเป็นผู้นำตลาดร้านอาหารไทยแบบยั่งยืน
จากไอเดียที่อยากดึงเสน่ห์ความเป็นโลคัล ชูรสชาติเอกลักษณ์ไทยให้โดดเด่น พร้อมกับการหนุนธุรกิจของคนไทยด้วยกันให้เติบโตไปพร้อมกัน ต่อยอดสู่กลยุทธ์การคอลแล็บที่เน้นเสน่ห์แบบท้องถิ่น จากความตั้งใจของทั้ง 3 แบรนด์ ได้แก่ ตำมั่ว ร้านอาหารอีสาน ต้นตำรับฉบับนครพนม, ลาวญวน ร้านอาหารสไตล์อินโดจีนที่ผสมผสานเสน่ห์วิถีชีวิตของไทย-ลาว-เวียดนาม และโรงชาชงดี (Chongdee Teahouse) ร้านชาใต้แท้ๆ จากหาดใหญ่
การมารวมตัวกันในครั้งนี้ เพื่อยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่น และเพิ่มมูลค่าด้วยการรังสรรค์ 4 เมนูพิเศษที่มีความน่าสนใจ อีกทั้งยังสามารถขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้กว้างมากยิ่งขึ้นด้วย รวมถึงการสร้าง Brand Love สู่ผู้นำตลาดร้านอาหารไทยแบบยั่งยืน
ศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจแบรนด์ไทย บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ความตั้งใจในการทำธุรกิจของแบรนด์ไทยในเครือ เซ็น กรุ๊ป ให้ความสำคัญกับการยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นให้มีมูลค่ามากยิ่งขึ้น สนับสนุนผลผลิตของเกษตรชุมชนในประเทศไทย แล้วยังสร้างความมั่นคงและยั่งยืนแก่ชุมชนนั้นๆ ด้วย”
และเพื่อเป็นการตอกย้ำจุดยืนในแนวคิดนี้ จึงได้มีการค้นหาแบรนด์ที่มีความเชื่อในแบบเดียวกัน จนได้มีโอกาสร่วมงานกับโรงชาชงดี ร้านชาใต้แท้ๆ ที่มีความเชื่อมั่นในพลังคุณค่าของวัตถุดิบ และพลังของชุมชนท้องถิ่นเช่นเดียวกัน สู่การคอลแล็บที่ดึงศักยภาพของวัตถุดิบท้องถิ่นชื่อดังจากจังหวัด ต่างๆ ออกมาอวดโฉมในรูปแบบใหม่
ด้าน สุรีย์พร พูนศักดิ์ไพศาล และชัชวาล ลิมปธนวรรษ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ชงดีพูนผล จำกัด กล่าวว่า “โรงชาชงดี ร้านชาใต้แท้ๆ มีคาแรคเตอร์โดดเด่น มีความทันสมัย และปรับรสชาติให้มีความหลากหลาย เราเปิดสาขาแรกในกรุงเทพฯ จนเป็นกระแสบนโซเชียล และได้รับความนิยมจากกลุ่มคนที่ชื่นชอบการดื่มชาใต้ ตอกย้ำความเป็นโลคัลแบรนด์คุณภาพจากหาดใหญ่อย่างแท้จริง เพราะเราตั้งใจคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ตั้งแต่การคัดใบชา และวัตถุดิบอื่นๆ ที่นำมาเป็นส่วนประกอบ”
ทั้งสองบอกด้วยว่าโรงชาชงดีให้ความใส่ใจพิถีพิถันในทุกกระบวนการของการรังสรรค์ในทุกเมนู ทั้งเมนูในร้าน และเมนูที่เรารังสรรค์ขึ้นใหม่ในแคมเปญคอลแล็บครั้งนี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์เดียวกันคือ ‘The charms of Local taste’ simple, but timeless กลายเป็นเมนูที่เข้าถึงง่าย รสชาติคุ้นเคย นำมาผสมผสานกับวัตถุดิบพิเศษจากท้องถิ่น
สำหรับเมนูจากความร่วมมือของทั้ง 3 แบรนด์ ได้แก่
ชาชงดีกาแฟ ลาวญวน : เมนูที่ดึงเสน่ห์ของแบรนด์ลาวญวนนำเสนอผ่านกาแฟเวียดนาม มาผสมผสานกับชาชงดีอันเป็นซิกเนเจอร์ของโรงชาชงดีได้อย่างลงตัว มีกลิ่นหอมพิเศษของชาและรสชาติเข้มข้นของเมล็ดกาแฟ ทำให้เมนูนี้ออกมาสมบูรณ์แบบทั้งกลิ่นและรส
บ๊วยส้มมะปี๊ด : ส้มมะปิ๊ด ผลไม้จากจันทบุรี มีรสเปรี้ยวคล้ายมะนาว แต่มีความหอมของกลิ่นส้ม ตัดกับรสเค็มหวานของบ๊วย ให้ความสดชื่น
เก๊กฮวยลอนตาลมะพร้าวอ่อน : ลอนตาล ของดีจากเพชรบุรี คัดสรรส่วนที่ดีที่สุดมาทำเมนู เพราะหากอ่อนไปจะติดเปรี้ยว แต่แก่ไปจะไม่อร่อย นำมาผสมกับน้ำเก๊กฮวยและชามะลิที่มีความหอมอ่อนๆ เพิ่มเนื้อสัมผัสของมะพร้าวอ่อนเนื้อกรุบกรอบ เติมความอร่อยไปอีกขั้น
เฉาก๊วยหอมหมื่นลี้ - ชานม : เนื้อของเฉาก๊วยและวุ้นหอมหมื่นลี้แบบโฮมเมด เติมชาชงดีซิกเนเจอร์ที่ถูกปรับสูตรให้เข้ากับเมนูขนมหวาน มีความมันนัวขึ้น เสิร์ฟพร้อมถั่วแดง รากบัว เม็ดแปะก๊วยที่เชื่อมเอง
“ทางโรงชาชงดี รู้สึกยินดีที่ได้ร่วมงานกับทาง ตำมั่ว และลาวญวน เพราะก่อนที่เราจะตัดสินใจคอลแล็บกับแบรนด์ไหน เราจะต้องชอบจุดยืนและแนวคิดการดำเนินธุรกิจของแบรนด์นั้นด้วย ซึ่งตำมั่ว - ลาวญวน ก็เป็นตัวจริงของวงการร้านอาหารไทย และมีความเชื่อและความตั้งใจในแบบเดียวกันกับเรา” สุรีย์พร พูนศักดิ์ไพศาล และคุณชัชวาล ลิมปธนวรรษ กล่าวเสริม
“ในมุมความแข็งแรงของกลุ่มแบรนด์ไทยและความเป็นตัวจริงเรื่องอาหารไทยของทั้ง ตำมั่ว ลาวญวน มาคอลแล็บกับโรงชาชงดี ตัวจริงเรื่องชาใต้แท้ๆ มีคาแรคเตอร์โดดเด่น ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ ถือเป็นการคอลแล็บสไคล์โลคัลที่ผลักดันกันและแลกเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในกลุ่มธุรกิจร้านอาหารไทย และธุรกิจเครื่องดื่มชาและกาแฟ ให้กว้างมากยิ่งขึ้น” ศิรุวัฒน์กล่าว พร้อมทิ้งท้ายว่า “หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลผลิตการคอลแลปทั้ง 4 เมนูนี้ จะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าของทั้ง 3 แบรนด์ได้เป็นอย่างดี”
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : OR เปิดคาเฟ่ อเมซอน 2 สาขาที่ ‘ปีนัง’ เดินหน้าขยายอีก 11 สาขาในมาเลเซียปีนี้
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine