We Are Social เผยข้อมูลอินไซต์ โลกดิจิทัลมีบทบาทมากขึ้นทุกวัน! คนไทยใช้งานอินเทอร์เน็ตติดอันดับ Top 5 ของโลก เฉลี่ย 5 ชั่วโมงต่อวัน และยังครองแชมป์โลกจากการช็อปออนไลน์ถี่ยิบต่อสัปดาห์มากที่สุด คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 70% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ขณะที่ตัวเลขเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 55.8% ด้านธุรกิจทั่วโลกต่างทุ่มเม็ดเงินโฆษณาผ่านดิจิทัลออนไลน์เป็นหลัก คาดมูลค่าเงินโฆษณาและสื่อสารการตลาดทั้งหมดของไทยในปีนี้จะโตเพิ่มจากปีก่อน 4.5% อยู่ที่ 92,048 ล้านบาท
We Are Social ในฐานะครีเอทีฟเอเจนซีชั้นนำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านโซเชียลมีเดีย ด้วยพนักงานมากกว่า 1,300 คนในสำนักงาน 19 แห่งทั่วโลก และ Meltwater บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการ PR ประชาสัมพันธ์สามารถติดตาม วิเคราะห์การรายงานข่าว แนวโน้มโซเชียลมีเดีย และข่าวออนไลน์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้เผยถึงข้อมูลการรายงาน Global Digital Report ในการนำเสนอสถิติข้อมูลเชิงลึกและเทรนด์ต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกที่ใช้งานผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในยุคดิจิทัลปี 2025 ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลการรายงานดังกล่าวที่มีอยู่ราวๆ 630 หน้า สามารถแยกออกมาเป็นประเด็นสำคัญจากพฤติกรรมของกลุ่มผู้ใช้งานออนไลน์ทั่วโลกและในประเทศไทย ได้ดังนี้
โลกดิจิทัลมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวัน
จากข้อมูล ณ เดือน ก.พ. 2568 จะเห็นได้ว่ามีจำนวนผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือทั่วโลก 5.78 พันล้านคนทั่วโลก คิดเป็น 70.5% ของจำนวนประชากรโลกทั้งหมด และมียอดผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตส่วนบุคคลทั่วโลกราวๆ 5.56 พันล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 67.9% ของประชากรโลกทั้งหมด ซึ่งในส่วนของคนไทยมียอดการใช้งานอินเทอร์เน็ตโดยเฉลี่ย 5 ชั่วโมงต่อวัน สูงเป็นอันดับ 5 ของโลก ขณะที่ค่าเฉลี่ยการใช้งานอินเทอร์เน็ตต่อวันทั่วโลกจะอยู่ที่วันละ 3 ชม. 46 นาที เท่านั้น
ความสำคัญของระบบ AI ขยายตัวเพิ่มขึ้น
แม้ DeepSeek จะกลายเป็นแพลตฟอร์ม AI ที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลกและถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน แต่จากรายงานของ data.ai ก็ยังมีการจัดอันดับให้ ChatGPT ติดอันดับแอปพลิเคชันที่มียอดผู้ดาวน์โหลดสูงสุดของโลกอันดับที่ 8 จากทุกหมวดของแอป ด้วยจำนวนผู้ใช้งานประจำ หรือ active users ที่มีมากกว่า 250 ล้านรายต่อเดือน นับตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา
การเข้าถึงแบรนด์และผลิตภัณฑ์ในปี 2025
ข้อมูลการวิจัยของ Global Wellness Institute (GWI) สถาบันส่งเสริมสุขภาพระดับโลก เผยให้เห็นว่า ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่เป็นผู้ใหญ่มักจะค้นพบแบรนด์และผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉลี่ยแล้ว 5.8 ช่องทาง ซึ่งวิธีการ search engine หรือ ใช้เครื่องมือค้นหาผ่านออนไลน์ ถือเป็นจำนวน 32.8% ที่หลายคนทั่วโลกนิยมใช้ ถัดมาคือ โฆษณาทางทีวี ที่มีสัดส่วนตามหลังอยู่ไม่ไกลนักที่ 32.3% ส่วนอันดับ 3 คือ วิธีการบอกต่อ จำนวน 29.9% และโฆษณาบนโซเชียลมีเดียที่ตามมาเป็นอันดับสี่จำนวน 29.7%
วิวัฒนาการ ‘ช็อปปิ้งออนไลน์’
Statista แพลตฟอร์มออนไลน์ของประเทศเยอรมนี มีการเก็บข้อมูลพร้อมแสดงตัวเลขคาดการณ์ว่า ในปี 2024 ยอดใช้จ่ายทั้งปีในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วโลกจะมีมูลค่ามหาศาลมากกว่า 4.12 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และรายได้จากสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านออนไลน์ทั่วโลกยังเพิ่มขึ้นมากกว่าครึ่งล้านล้านเหรียญในปี 2024 หรือคิดเป็นมูลค่าการเติบโตราว 14.6% เมื่อเทียบกับการใช้จ่ายในช่วงเดียวกันของปีก่อน
การวิเคราะห์ของ Statista ยังระบุด้วยว่า จำนวนผู้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคออนไลน์ในปี 2024 เพิ่มขึ้นจาก 200 ล้านคน ในปีก่อนหน้า 8.5% มาเป็น 2.5 พันล้านคน ขณะเดียวกันรายงานของ GWI ก็ยังชี้ให้เห็นว่า กลุ่มผู้ใหญ่ 56% มักนิยมซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ทุกสัปดาห์ และจะเห็นได้ชัดเวลามีการจัดโปรโมชันยิ่งใหญ่ในช่วงระยะเวลา 7 วัน ก็จะมียอดผู้ช็อปปิ้งออนไลน์ทั่วโลกพร้อมใจกันสั่งซื้อสินค้าอยุ่ที่ประมาณ 1.7 พันล้านคน
ทั้งนี้ จากข้อมูลเชิงลึกยังระบุถึง เหล่านักช็อปออนไลน์ในประเทศไทยครองแชมป์โลกของการซื้อสินค้าและบริการออนไลน์ต่อสัปดาห์มากสุด คิดเป็น 69.2% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ในขณะที่ตัวเลขเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 55.8%
การเปลี่ยนแปลงของงบโฆษณาในยุคดิจิทัล
ข้อมูล Market Insights ของ Statista แสดงให้เห็นว่านักการตลาดทั่วโลกใช้จ่ายไปกับค่าโฆษณาเกือบ 1.1 ล้านล้านเหรียญ ในปี 2024 ถือเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น 7.3% จาก 7.5 หมื่นล้านเหรียญในปี 2023 นอกจากนี้ ข้อมูลของ Statista ยังบ่งชี้ด้วยว่า เม็ดเงินโฆษณาทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% นับตั้งแต่ปี 2019 และเม็ดเงินดังกล่าวก็จะเทไปที่ยอดการโฆษณาในรูปแบบดิจิทัลเป็นหลัก
ณ ปัจจุบัน การลงทุนด้านโฆษณาทั่วโลก มีสัดส่วนในการเทเงินไปยังช่องทางดิจิทัลมากที่สุดถึง 72.7% อีกทั้งยังมียอดใช้จ่ายออนไลน์เกิน 7.9 แสนล้านเหรียญ ในปี 2024 ขณะที่การใช้จ่ายด้านโฆษณาของประเทศไทยนั้น ครองอันดับหนึ่งของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในอันดับ Top 10 ของโลก เมื่อเทียบกับ GDP ของคนในประเทศ โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินโฆษณาในปี 2024 อยู่ที่ 87,600 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ทางบริษัท มีเดียอินเทลลิเจนซ์กรุ๊ป จำกัด หรือ MI GROUP ยังได้คาดการณ์เม็ดเงินโฆษณาและสื่อสารการตลาดของไทยในปี 2568 นี้ว่า จะโตเพิ่มขึ้น 4.5% อยู่ที่ 92,048 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของสื่อดิจิทัลรวมถึงสื่อโซเชียลที่โต 16% โดยเป็นสื่ออันดับ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 มูลค่า Online Spending รวมแตะ 38,938 ล้านบาท ขณะที่สื่อนอกบ้านโต 10% ส่วนสื่อดั้งเดิมยังคงมียอดลดลงต่อเนื่อง และในปีนี้ สื่อดิจิทัล สื่อโทรทัศน์ และสื่อนอกบ้าน ยังคงมีบทบาทสำคัญในมุมที่แตกต่างออกไปโดยจะเน้นส่งเสริมกันในการทำการตลาด โดยแบ่งสัดส่วนเป็นสื่อดิจิทัล 45% ในขณะที่สื่อออฟไลน์โดยรวมอยู่ที่ 55%
ภาพ : We Are Social และ image by tirachardz
แปลและเรียบเรียงจากบทความ : DIGITAL 2025: THE ESSENTIAL GUIDE TO THE GLOBAL STATE OF DIGITAL
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Bonchon รีฟิลโค้กฟรีได้แล้ว! ราคา 59 บาท ทุกสาขาทั่วไทย ยกเว้นในสนามบิน
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine