TikTok Shop เผย ครึ่งแรกปี 2024 ยอด GMV ผ่าน Livestreamโต 500% พร้อมส่ง Holistic Solutions หนุนความสำเร็จแบรนด์และร้านค้า มั่นใจยอดขายช่วงเทศกาล Mega Sales ในครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง
TikTok แพลตฟอร์มเอ็นเตอร์เทนเมนท์ เผย 4 พฤติกรรมนักช้อปบน TikTok ที่มีความต้องการเฉพาะในการช้อปสินค้าออนไลน์ช่วงครึ่งหลังปี 2024 โดยข้อมูลจาก Kantar เผยว่านักช้อปไทยถึง 77% ช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประจำทุกสัปดาห์ ตอกย้ำให้เห็นว่าพฤติกรรมการช้อปปิ้งได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตของผู้บริโภคไทย
ขณะที่คอนเทนต์คือ "กุญแจสำคัญ" ในการขับเคลื่อนความสำเร็จของการทำตลาด Social Commerce ในภาคธุรกิจ ซึ่งการทำคอนเทนต์ช่วง Mega Sales ควรให้ความสำคัญทั้งในด้านคุณภาพ (Quality) และปริมาณ (Quantity) โดยคุณภาพของคอนเทนต์จะช่วยเพิ่มยอดคลิก ยอด Engage จากผู้ชมมากกว่า 3 เท่า รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการดูคอนเทนต์ซ้ำ และเพิ่มปริมาณการแชร์คอนเทนต์
ปัจจุบัน TikTok มีจำนวนผู้ใช้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวม 325 ล้านราย รวมถึงมีภาคธุรกิจกว่า 15 ล้านราย ที่ดำเนินธุรกิจบนแพลตฟอร์มของ TikTok ในประเทศไทย ณ ปัจจุบัน TikTok มีครีเอเตอร์มากกว่า 3 ล้านรายที่สร้างรายได้จาก TikTok และมีผู้ขายมากกว่า 2.4 ล้านคน โดย 99% เป็นผู้ขายในประเทศ
ซึ่งช่วงครึ่งปีหลังนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับแบรนด์ ร้านค้า ผู้ประกอบการและผู้บริโภค เนื่องจากมีมหกรรมช้อปสินค้าเกิดขึ้นมากมายในแต่ละเดือน เห็นได้จากข้อมูล TikTok ในช่วงมหกรรม Mega Sales ปี 2566 พบว่า 89% ของผู้ใช้ TikTok เลือกช้อปสินค้าในช่วง Mega Sales และปีนี้มีแนวโน้มใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 1.7 เท่า ตอกย้ำให้เห็นปรากฎการณ์ Shoppertainment ที่ผสานความบันเทิงกับการช้อปปิ้งอย่างลงตัวได้
สิรินิธิ์ วิรยศิริ Head of Business Marketing - TikTok Thailand กล่าวว่า TikTok พบ พฤติกรรมการช้อปปิ้งของผู้ใช้บนแพลตฟอร์มแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่
1. The Bargain Hunters - นักช้อปผู้ล่าสินค้าราคาถูก
2. The Inspirational Shoppers - นักช้อปผู้สร้างแรงบันดาลใจ
3. The Effortless Shoppers- นักช้อปที่เน้นความสะดวก
4. The Purposeful Shoppers - นักช้อปที่มีเป้าหมายชัดเจน
ซึ่งหากแบรนด์วางแผนอย่างเข้าใจและเตรียมพร้อมล่วงหน้า ก็จะสามารถวางกลยุทธ์และใช้เครื่องมือต่างๆ ของ TikTok เจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"Holistic Solutions ของ TikTok จะช่วยให้แบรนด์และร้านค้าสามารถกำหนดกลยุทธ์เพื่อใช้โอกาสจากกระแส Shoppertainment ในช่วง Mega Sales ได้ ประกอบด้วย 3 โซลูชันหลักได้แก่ Ads Solution, In-App Shop Solution และ Live Commerce Solution ที่จะครอบคลุมกิจกรรมการตลาดใน TikTok ได้อย่างครบวงจร ช่วยให้แบรนด์และร้านค้าสามารถเพิ่มยอดขาย สร้างการรับรู้แบรนด์ และมอบ Seamless Experience ในการทำ Full-Funnel Marketing ได้ตรงตามเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มโปรโมต 1 เดือนก่อน Mega Sales, กระตุ้นให้คนดูปักตะกร้าและทำ Retargeting ช่วงแคมเปญเพื่อปิดการขาย, ไปจนถึงการเลือก Top Affiliate Content มาใช้ช่วง After Party ที่เป็นช่วงหลังแคมเปญไปแล้ว โดยดำเนินการร่วมกับเฟรมเวิร์ก PACE ได้อย่างลงตัว" สิรินิธิ์ กล่าวเสริม
กรณิการ์ นิวัติศัยวงศ์, Head of FMCG, E-Commerce - TikTok Shop Thailand กล่าวว่า "ตั้งแต่ต้นปีจนถึงแคมเปญ 8.8 ที่ผ่านมา TikTok Shop มียอด GMV เพิ่มขึ้นถึง 500% ผ่านช่องทางการซื้อสินค้าผ่าน Livestream นอกจากนี้ Shop Tab ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เปิดตัวเมื่อปี 2023 เพื่อให้ความสะดวกแก่ลูกค้าในการค้นหาสินค้าที่ต้องการอย่างรวดเร็วมียอดการเติบโตสูงถึง 100%
ขณะที่ยอดผู้ขายที่ลงทะเบียนเป็นร้านค้าใน TikTok Shop Mall เองก็เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ส่งผลให้ยอด GMV ของ TikTok Shop Mall มีการเติบโตถึง 18 เท่า ตอกย้ำว่า TikTok Shop ได้เข้ามาเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ One-Stop Shopping ให้แก่ผู้บริโภคไทย พร้อมเปลี่ยน Shopping Journey ให้กระชับและยังมอบผลลัพธ์ทางธุรกิจที่น่าทึ่งให้กับแบรนด์และร้านค้าอย่างต่อเนื่อง
"ผู้ใช้ TikTok 80% มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าใน TikTok Shop ซึ่งสอดคล้องกับยอดขาย (GMV) ของแบรนด์และร้านค้าผ่านช่องทาง Live Commerce ใน TikTok Shop ที่เพิ่มขึ้นถึง 140% ในช่วง Mega Sales เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาปกติ นอกจากนี้เราพบว่าการดูคลิปวิดีโอบน TikTok ส่งผลต่อพฤติกรรมการช้อปสินค้าของผู้บริโภค
สำหรับครึ่งปีหลังนี้ TikTok Shop จะมุ่งเน้นไปที่ 3 กลไกที่ขับเคลื่อนความสำเร็จให้กับ Mega Campaign เพื่อสนับสนุนทุกคนในอีคอมเมิร์ซอีโคซิสเต็ม ได้แก่ 1) การจัด Year-End Mega Campaigns Sales 2) ส่งเสริม Live Commerce และ 3) เปิดโอกาสให้แบรนด์และร้านค้าพาร์ทเนอร์กับ Creators Affiliate โดยจะ Plug-In เข้ากับกิจกรรมทางการตลาดของ TikTok Shop ที่ร่วมกับทั้งพาร์ทเนอร์ แบรนด์-ร้านค้า และครีเอเตอร์ เพื่อผลักดันให้ TikTok Shop เป็นแพลตฟอร์มที่มอบโอกาสและสร้างความสำเร็จทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับทุกภาคส่วน" กรณิการ์ กล่าวเพิ่มเติม
ด้าน วริษฐา สืบพันธ์วงษ์ CEO, Founder ของ บริษัท มิซึฮาดะ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า "ปัจจุบัน MizuMi เป็นแบรนด์สกินแคร์ของคนไทยที่ได้รับการยอมรับในตลาดออนไลน์ เรามีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย จากการเริ่มสร้างแบรนด์ใน TikTok มาตั้งแต่ปี 2565 โดยใช้ Ads Solution ของ TikTok ในแบบ Full Funnel Marketing และทำงานร่วมกับทีมงาน TikTok อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างสรรค์แคมเปญและคอนเทนต์การตลาดที่น่าสนใจบนแพลตฟอร์ม
โดยในช่วงแคมเปญ 7.7 ที่ผ่านมา MizuMiสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นได้มากกว่า 30% เทียบกับแคมเปญ 6.6 ในงบประมาณเท่ากัน และแคมเปญ 7.7 นี้เอง MizuMi ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์กันแดดเจลลี่ตัวใหม่ UV Jelly Aqua Fresh Sunscreen ซึ่งวางกลยุทธ์ให้เป็นสินค้าหลักในทำการตลาดสำหรับแคมเปญนี้ ในระยะเวลาเพียง 3 วันของแคมเปญมียอดสั่งซื้อกันแดดเจลลี่เข้ามากกว่า 10,000 ชิ้นจากทุกแพลตฟอร์ม
แต่ที่น่าสนใจคือยอดขายเกือบ 2 ใน 3 (63%) เกิดขึ้นบน TikTok Shop และสร้างผลตอบแทนจากค่าโฆษณาสูงถึง 10 เท่า ทั้งนี้ในครึ่งปีหลังแบรนด์วางแผนที่จะใช้ Solution ของ TikTok เหมือนเดิม แต่เพิ่มในส่วนของ Affiliate มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุน Creator ในการนำสินค้าของแบรนด์ไปรีวิว การวางสินค้าตัวหลักในแต่ละแคมเปญ ตลอดจนทดลองใช้ Creative ใหม่ๆ
สำหรับการไลฟ์ขายของตลอดช่วงแคมเปญ และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกใกล้ชิดกับแบรนด์ MizuMi นั้นก็คือการทำ CEO คอนเทนต์บน TikTok เพื่อนำเสนอมุมมองในเรื่องต่าง ๆ แบ่งปันประสบการณ์อย่างจริงใจ ผ่านการทำคลิปสั้นและการ LIVE ช่วยสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าพร้อมสร้างแบรนด์ให้เติบโตและประสบความสำเร็จในอนาคต"
ขณะที่ วัฒนา พรหมทอง และคุณวสุรัตน์ เอื้อสัจจะธรรม เจ้าของแบรนด์ Promthong (พรหมทอง) กล่าวว่า "เราเริ่มจากการเป็นหลังบ้านในขั้นตอนการผลิตให้กับแบรนด์ต่างๆ จากนั้นจึงเกิดไอเดียอยากทำธุรกิจเสื้อผ้าแบรนด์ตัวเองขึ้นมาก็คือ 'พรหมทอง' โดยเปิดร้านใน TikTok Shop เมื่อปีก่อน และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง มีฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นและเกิดการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง
โดยกลยุทธ์หลักคือการไลฟ์สดที่ไม่ได้เน้นการขายสินค้าแบบตรง ๆ ซึ่งสามารถสร้างสัดส่วนยอดขายจากการไลฟ์ได้ถึง 80% จากยอดขายทั้งหมด โดยเฉพาะช่วงแคมเปญ 7.7 ซึ่งเป็นช่วงครบรอบ 1 ปีที่เปิดหน้าร้านใน TikTok Shop แบรนด์มียอดขายเติบโตมากถึง 300% ช่วงมหกรรม Mega Sales จากนี้ เราจะเน้นการบริหารจัดการงบประมาณและการเลือกใช้ Ads Solution อย่างเข้มข้นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Ads Solution, In-App Shop Solution หรือ Live Commerce Solution บวกกับการทำ Livestreaming อย่างต่อเนื่อง
เพราะบน TikTok จุดขายคือคนชอบดูไลฟ์ เพราะมันดูเรียลดี เพื่อใช้โปรโมตสินค้า สร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าหลากหลาย พร้อมเดินหน้าค้นหาแรงบันดาลใจและประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อต่อยอดคุณภาพสินค้ายิ่งขึ้น โดยพรหมทองมองว่าคอนเทนต์คือกุญแจสำคัญในการปิดการขายและสร้างความไว้วางใจให้แก่ลูกค้าระยะยาว"
อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาของ Kantar พบว่าในช่วงสิ้นปีที่แล้วนักช้อปบน TikTok มียอดการใช้จ่ายเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 14,000 บาท ในทุกเทศกาลเซล ดังนั้นมหกรรม Mega Sales ที่กำลังจะมาถึงนี้ไม่ว่าจะเป็น 9.9, 10.10, 11.11 และ 12.12 จึงเป็นอีเวนท์การช้อปครั้งสำคัญที่ผู้บริโภครอคอย ซึ่ง Holistic Solutions ของ TikTok ไม่เพียงแต่สร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์และมอบความสุข แต่ยังเป็นเครื่องมือสำหรับแบรนด์ ผู้ขาย และครีเอเตอร์ในการเชื่อมต่อกับผู้ชมและลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและเต็มไปด้วยความสนุกสนาน
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Tops ลุยขยายสู่ 1,000 สาขาในอีก 3 ปี ตั้งเป้าเป็น ‘เชนซูเปอร์มาร์เก็ต’ รายใหญ่สุดในประเทศ
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine