สุกี้ราคาประหยัดที่ผลประกอบการไม่ธรรมดา! ‘สุกี้ตี๋น้อย’ กวาดกำไรปี 67 ไป 1,169 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าที่อยู่ที่ 907 ล้านบาท ถึง 28.9%
อย่างที่ทราบกันดีว่า ‘สุกี้ตี๋น้อย’ หรือ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด มีหุ้นส่วนคนสำคัญอย่าง บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ที่เข้ามาถือหุ้นบี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป อยู่ 30%
ล่าสุด JMART รายงานผลประกอบการประจำปี 2567 ว่าบริษัทได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้น Suki Teenoi ร้อยละ 30 เท่ากับ 350.7 ล้านบาท จากผลกำไรสุทธิรวม 1,169 ล้านบาท (ไม่รวม การปันส่วนราคาซื้อ (PPA))
ทั้งนี้ JMART ระบุว่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 Suki Teenoi มีสาขาทั้งหมด 78 สาขา Teenoi BBQ (บุฟเฟต์ปิ้งย่าง) 1 สาขา และ Teenoi Express (บุฟเฟต์พรีเมียม) 1 สาขา โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา Suki Teenoi ได้เปิดสาขาเพิ่มขึ้นจำนวน 23 สาขา โดยสาขาที่เปิดเพิ่มมีส่วนหนึ่งที่ได้เริ่มขยายออกไปต่างจังหวัด เช่น ชลบุรี ระยอง สุพรรณบุรี มหาสารคาม อุดรธานี และเชียงใหม่ เป็นต้น ซึ่งเป็นทำเลที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการค่อนข้างหนาแน่น ด้วยแนวคิดของการให้บริการที่เข้าถึงความต้องของลูกค้าที่อยากทานสุกี้ ชาบู ที่มีราคาคุ้มค่าต่อการบริโภค จึงทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างดี
ขณะที่ JAMRT เอง ปีที่ผ่านมาะได้ดำเนินกิจกรรมการทางการตลาดร่วมกับกลุ่มบริษัทเจมาร์ท เช่น การนำคะแนนสะสมแลกเป็นค่าบุฟเฟต์ตามที่กำหนด เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีแผนร่วมมือกันในการเปิดร้าน Teenoi BBQ ในศูนย์การค้าของ JAS Asset ซึ่งได้เปิดไปแล้ว 1 สาขาที่ Jas Green Village คู้บอน เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จากข้อมูลในเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า รายงานผลประกอบการของบี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป ไว้ดังนี้
-ปี 2563 รายได้ 1,223 ล้านบาท กำไร 140.3 ล้านบาท
-ปี 2564 รายได้ 1,572 ล้านบาท กำไร 148 ล้านบาท
-ปี 2565 รายได้ 3,976 ล้านบาท กำไร 591.5 ล้านบาท
-ปี 2566 รายได้ 5,262.4 ล้านบาท กำไร 907.1 ล้านบาท
เท่ากับว่าในปี 2567 ที่กำไร 1,169 ล้านบาทนั้นเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 28.9%
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine