Stripe รุกอาเซียนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ยกระดับการค้าขายยุคดิจิทัล - Forbes Thailand

Stripe รุกอาเซียนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ยกระดับการค้าขายยุคดิจิทัล

FORBES THAILAND / ADMIN
06 Oct 2023 | 09:00 AM
READ 790

Stripe เปิดตัวอัปเดตผลิตภัณฑ์ใหม่ในงาน Stripe Tour ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ ประเทศสิงคโปร์ เพื่อรองรับธุรกิจทุกขนาดทั้งในไทยและประเทศอื่นๆ ทั่วภูมิภาค ตอบสนองความต้องการของธุรกิจดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น และก้าวสู่โอกาสการเติบโตในระดับโลก


    ในงาน Stripe Tour ทางบริษัทได้จัดแสดงชุดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมซึ่งจะช่วยลดความยุ่งยาก และช่องว่างระหว่างการชำระเงินแบบออนไลน์และการชำระเงินด้วยตนเองให้กับทุกองค์กร นอกเหนือจากการชำระเงิน Stripe ยังนำเสนอโซลูชั่นสำหรับธุรกิจต่างๆ ในการปรับระบบเทคโนโลยีโปรแกรมด้านการเงิน (Finance Stack) ให้ทันสมัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลการทำงานแบบอัตโนมัติอีกด้วย

    ปัจจุบันผู้บริโภคจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คาดหวังประสบการณ์การค้าดิจิทัลที่ราบรื่น ในทุกที่ ทุกเวลา และบนทุกอุปกรณ์ อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยของ Stripe กลับพบว่าเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซชั้นนำส่วนใหญ่ยังคงมีระบบการชำระเงินที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ทำให้ลูกค้ายกเลิกการสั่งซื้อสินค้าที่ได้เลือกไว้แล้วในตะกร้าและทำให้ธุรกิจสูญเสียรายได้จำนวนมาก

    เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการทางการชำระเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ งาน Stripe Tour ที่จัดขึ้น ณ ประเทศสิงคโปร์ นำเสนอชุดโซลูชั่นการรับชำระเงินที่ถูกพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น (Optimized Checkout Suite) ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถมอบประสบการณ์การชำระเงินที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า โดยไม่ต้องสร้างโปรแกรมและไม่ต้องบำรุงรักษาระบบด้วยตนเอง

อัปเดตผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Stripe


    ชุดโซลูชั่นที่ได้รับการปรับปรุงใหม่นี้ได้เพิ่มวิธีการชำระเงินให้มากขึ้นกว่า 100 วิธี พร้อมทั้งเครื่องมือทดสอบ A/B ที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุวิธีการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้แล้วยังสามารถเชื่อมโยงเข้ากับ Payment Link ซึ่งเป็นรูปแบบการชำระเงินด่วนของ Stripe ที่ช่วยกรอกรายละเอียดการชำระเงินแบบอัตโนมัติ ทำให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

    ธีร์ ฉายากุล ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย บริษัท Stripe ประเทศไทย กล่าวว่า “ชุดอัปเกรดเหล่านี้ทำให้การมอบประสบการณ์การชำระเงินอันยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าเป็นเรื่องง่ายสำหรับธุรกิจในประเทศไทย โดยที่ไม่ต้องสร้างโปรแกรมขึ้นมาด้วยตนเอง และสามารถมุ่งเน้นการสร้างธุรกิจให้เต็บโตได้ งานวิจัยของเราพบว่าธุรกิจที่เปลี่ยนจากการเชื่อมต่อ Stripe รูปแบบเก่า มาใช้ชุดโซลูชั่นการรับชำระเงินที่ถูกปรับให้ดียิ่งขึ้นนั้น มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 10.5%”

    Jude Kumar ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ EatMe Global สตาร์ทอัพที่เติบโตอย่างรวดเร็ว กล่าวว่า “ชุดโซลูชั่นที่ปรับปรุงล่าสุดนี้ทันเวลากับความต้องการของเรามาก Stripe ช่วยให้เราสร้างประสบการณ์ที่เรียบง่าย มีประสิทธิภาพ และส่งเสริมการค้าแบบหลากหลายช่องทาง ทั้งในด้านการสั่งสินค้า ชำระเงิน และกระทบยอดบัญชี เพื่อส่งมอบสิ่งที่ลูกค้าของเรากำลังมองหาได้โดยใช้ต้นทุนที่น้อยลง ในขณะที่เรากำลังวางแผนจะขยายธุรกิจไปสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย เราก็ได้วางแผนที่จะเติบโตร่วมกันไปกับ Stripe”


ส่งเสริมธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ขยายสู่เวทีโลก

    งานวิจัยล่าสุดของ Stripe ได้เปิดเผยมุมมองเชิงบวกที่ไม่คาดคิดจากธุรกิจต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกี่ยวกับโอกาสในการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ถึงแม้สภาพเศรษฐกิจปัจจุบันจะเต็มไปด้วยความท้าทายก็ตาม การศึกษาของ Stripe จากเหล่าผู้นำด้านการเงินเผยให้เห็นว่า ความก้าวหน้าของการขยายธุรกิจได้ถูกลดทอนลง จากกระบวนการทำงานภายในองค์กรแบบแมนนวล (Manual) ซึ่งไม่ได้ปรับเปลี่ยนไปตามความซับซ้อนที่เกิดจากการขยายธุรกิจไปทั่วโลก และการขยายธุรกิจสู่ตลาดใหม่นั้นก็เป็นเรื่องยาก เนื่องจากการหยุดชะงักของระบบการเงินที่มีอยู่

Varn Bansal รองประธานอาวุโส Tiket.com พูดคุยกับ Mike Clayville ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลูกค้า Stripe


    เพื่อตอบสนองต่อการค้นพบนี้ Stripe ได้ขยายชุดโซลูชั่นด้านระบบรายรับและการเงินแบบอัตโนมัติ (Revenue and finance automation) ซึ่งได้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยการเปลี่ยนขั้นตอนงานต่างๆ เป็นแบบอัตโนมัติ เชื่อมโยงทั้งการวางบิล การทำภาษี รายงานทางการเงิน และบริการด้านข้อมูลต่างๆ เข้ารวมเป็นโปรแกรมด้านการเงินที่ทันสมัย

    ชุดโซลูชั่นระบบรายรับและการเงินแบบอัตโนมัติของ Stripe นี้จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และส่งเสริมให้ผู้บริหารฝ่ายการเงินเป็นผู้สร้างนวัตกรรมเชิงกลยุทธ์ ฟีเจอร์ใหม่ๆ ในชุดระบบรายรับและการเงินแบบอัตโนมัตินี้ ยังได้รวมเอาฟังก์ชั่นการจัดการภาษี Stripe Tax ที่ครอบคลุมใน 9 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์

    
“เราได้เริ่มทำงานร่วมกับ Stripe เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพื่อบุกเบิกโมเดลธุรกิจใหม่ที่ชื่อว่า Levande ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการสมัครสมาชิกอุปกรณ์เครื่องใช้แบบครบวงจรสำหรับลูกค้าของเรา การทํางานร่วมกันนี้ทำให้เราสามารถสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและราบรื่นให้กับลูกค้า และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง” Gaurav Julka หัวหน้าฝ่ายอุปกรณ์เครื่องใช้บริการ สำหรับภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา บริษัท Electrolux กล่าว “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่านวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดนี้สามารถนำเสนอการบริการเพิ่มขึ้นให้กับลูกค้าได้อย่างไร เพื่อให้เราสามารถมอบทางเลือก ความยืดหยุ่น และความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าของเราได้มากขึ้น”


ขับเคลื่อนองค์กรที่มีความซับซ้อนมากที่สุดในภูมิภาค

    Stripe ขับเคลื่อนองค์กรที่มีความซับซ้อนมากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็น Amazon, All Nippon Airways, Decathlon, Electrolux, Toyota และองค์กรอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก Stripe ยังให้บริการแก่ผู้นำในธุรกิจประเภทต่างๆ กว่าร้อยราย ซึ่งแต่ละรายมีปริมาณการชําระเงินมากกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐ และธุรกิจเหล่านี้ยังคงเติบโตอย่างรวดเร็วโดยขยายตัวมากกว่า 50% ในแต่ละปีนับตั้งแต่ พ.ศ. 2561

    เมื่อเร็วๆ นี้ Stripe ได้เพิ่มการสนับสนุนให้แก่ผู้ใช้บริการรายใหญ่ และเน้นฟีเจอร์หลากหลายที่สร้างขึ้นเพื่อตอบความต้องการขององค์กร ฟีเจอร์เหล่านี้ ได้แก่ การขยายเครือข่ายโทเค็น (Network Tokens) ไปยัง 46 ตลาด ความพร้อมใช้งานทั่วโลกสำหรับการอัปเดตบัญชีบัตรแบบเรียลไทม์ และเพิ่มรูปแบบการรับเงินภายในประเทศต่างๆ (Local Acquiring) รวมทั้งสนับสนุนวิธีการชำระเงินระหว่างภูมิภาคและทั่วโลกหลายสิบวิธี ภายในงานยังได้แสดงตัวอย่างระบบสนับสนุนที่กำลังจะเกิดขึ้นสำหรับการตั้งค่าแบบหลายการประมวลผล (Multiprocessor) อีกด้วย

Sarita Singh หัวหน้าประจำภูมิภาคอาเซียน อินเดีย และจีนของ Stripe


    “เศรษฐกิจดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็วของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีศักยภาพในระดับโลกอย่างมหาศาล ความคิดสร้างสรรค์และการเป็นผู้ประกอบการธุรกิจที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้จะยังคงส่งผลกระทบไปทั่วโลก” Sarita Singh หัวหน้าประจำภูมิภาค และกรรมการผู้จัดการภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และจีนแผ่นดินใหญ่ของ Stripe กล่าว “เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องในระยะยาว เพื่อขจัดความซับซ้อนทางการเงินและเทคโนโลยี และเพื่อให้ธุรกิจต่างๆ สามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างความเติบโตได้”



อ่านเพิ่มเติม : Yanolja สตาร์ทอัพยูนิคอร์นเกาหลี รุกตลาดไทย

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine