ถอดวิธีคิดผู้บริหารรุ่นใหม่ “บุญรอด อัศวสิทธิถาวร” เจนสองแห่ง Willy Welcraft

ถอดวิธีคิดผู้บริหารรุ่นใหม่ “บุญรอด อัศวสิทธิถาวร” เจนสองแห่ง Willy Welcraft

    แม้ชื่อของ WILLY อาจจะไม่เป็นที่คุ้นหูของคนส่วนใหญ่ แต่เชื่อว่าทุกคนต้องเคยสัมผัสกับผลงานของแบรนด์มาไม่มากก็น้อย เพราะ WILLY เป็นแบรนด์ผนังห้องน้ำที่โครงการชั้นนำทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสยามพารากอน สนามบินสุวรรณภูมิ เซ็นทรัลเวิลด์ โรงพยาบาล โรงเรียน หรืออาคารสำนักงานสำคัญเลือกใช้

    อย่างไรก็ตามด้วยภาพจำของผนังห้องน้ำ ที่มีฟังก์ชันหลักๆ คือ กั้นพื้นที่ในห้องน้ำ อาจทำให้หลายคนคาดไม่ถึงว่าเบื้องหลังผนังห้องน้ำธรรมดาที่เราคุ้นเคย เมื่อมีการเติมไอเดียในการออกแบบหรือนวัตกรรมลงไปยังจะช่วยตอบโจทย์ผู้ใช้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ จากแรงบันดาลใจนี้เองกลายเป็นสารตั้งต้นสำคัญที่ทำให้ ซัน–บุญรอด อัศวสิทธิถาวร ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท เวลคราฟท์ โปรดัคส์ จำกัด ผู้ผลิตแบรนด์ผนังห้องน้ำ WILLY มุ่งมั่นที่จะปฏิวัติวงการด้วยการสลัดภาพจำ "ผนังห้องน้ำ" แบบเดิมๆ ด้วยนวัตกรรม ใช้พลังของการออกแบบสร้างแต้มต่อให้กับธุรกิจที่สร้างมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ให้ยืนหยัดอย่างยั่งยืนท่ามกลางสมรภูมิธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงมาก หรือ Red Ocean


ไม่มีคำว่า "เป็นไปไม่ได้" ในพจนานุกรม

    คุณซันเริ่มต้นด้วยการย้อนวันวานถึงการเป็นลูกชายคนเดียวที่เติบโตมาในครอบครัวที่ทำธุรกิจผนังห้องน้ำ ทำให้เขาคิดอยู่แล้วว่าวันหนึ่งต้องกลับมาสานต่อธุรกิจครอบครัว

    "ด้วยความที่สนใจด้านศิลปะและวิทยาศาสตร์ จึงเลือกเรียนต่อด้าน Product Design หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นสาขาที่เปิดโลกมาก และเปลี่ยนมุมมองที่ผมมีต่อการออกแบบไปตลอดกาล ผมจำได้ว่าตอนที่อาจารย์ให้เลือกทำโปรเจกต์ มีเพื่อนคนหนึ่งเสนอว่าจะทำปืนป้องกันจรวด ตอนนั้นไม่ใช่แค่เพื่อนๆ ที่มองไอเดียนี้เป็นเรื่องตลก แม้แต่อาจารย์ก็ยังไม่เชื่อว่าเขาจะทำได้ จนตอนที่เรียนใกล้จบผมเห็นว่าเพื่อนคนนี้ก็ยังคงสานต่อไอเดียนี้มาเรื่อยๆ จนเรียนจบเขาได้มีโอกาสไปทำงานในกองทัพ เข้าไปมีส่วนร่วมในการออกแบบยุทโธปกรณ์ต่างๆ เรื่องราวของเขาทำให้ผมเตือนตัวเองเสมอว่า เวลาจะทำอะไร อย่าไปคิดเล็กๆ และที่สำคัญสำหรับเราคำว่า "เป็นไปไม่ได้" ไม่เคยมีอยู่ในพจนานุกรมของการสร้างสรรค์ผลงานในโลกของการออกแบบหากเราตั้งใจจะทำ"

    หลังจากเรียนจบคุณซันในฐานะคนหนุ่มไฟแรงกลับมาสานต่อธุรกิจครอบครัว ประเดิมงานแรกด้วยรับหน้าที่ออกแบบแคตตาล็อกสินค้าใหม่ทั้งหมด แม้จะดูเป็นงานที่ไม่ตรงสาย แต่กลับเป็นโอกาสที่ทำให้ได้ศึกษาผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทอย่างละเอียด จนค่อยๆ ตกผลึก และพบว่าน่าจะนำผลิตภัณฑ์กลอนประตูที่มักมีปัญหากลอนพัง กลอนตกร่อง มาพัฒนาให้ใช้งานง่ายขึ้น



​    "ย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ผมใช้ทักษะด้านการออกแบบที่เรียนมาพัฒนาโปรเจกต์เล็กๆ ของตัวเอง ผลิตภัณฑ์แรกคือ กลอนประตู ผมใช้วิธีเขียนแบบ 3D แล้วพิมพ์ออกมาเพื่อทดลองไอเดีย ปรับแก้แบบอยู่นับครั้งไม่ถ้วน จนแน่ใจถึงเอาแบบพลาสติกไปขึ้นรูปจริงๆ ตอนแรกทีมงานที่โรงงานก็บอกว่าทำไม่ได้ แต่ผมไม่ยอมแพ้ ช่วยกันหาทางปรับแก้ ท้ายที่สุดเราสามารถพัฒนากลอนฝังผนังที่พลิกโฉมวงการให้สามารถล็อกเข้ากับร่องประตูได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตอนนั้นผมเริ่มโปรเจกต์ตอนปี 2559 แต่กว่าจะสำเร็จและเริ่มวางจำหน่ายก็ตอนปี 2561 เลยตั้งชื่อสินค้าว่า Series 61"

    ผลงานนี้ไม่เพียงคว้ารางวัล DEmark แต่ยังถือเป็นกลอนประตูที่เป็นเป็นนวัตกรรมใหม่ในรอบ 30 ปี ของตลาดผนังห้องน้ำ เพราะตลาดนี้แข่งขันสูงก็จริง แต่ในแง่โปรดักต์ กลับเหมือนหยุดเวลาไว้ ไม่ได้มีการพัฒนาหรือใส่นวัตกรรมมากนัก


ลบภาพจำผนังห้องน้ำแบบเดิมๆ ด้วยหลัก 3D

    ความสำเร็จจากการเปิดตัว Series 61 ยังเป็นบทพิสูจน์สำคัญที่ทำให้คุณซันได้รับความไว้วางใจในการก้าวสู่ผู้นำองค์กร โดยคุณซันยังคงยึดหลักการทำงาน 3D ประกอบด้วย

  • Design – ออกแบบให้สวยและแก้ปัญหาได้จริง
  • Develop – ฟังเสียงผู้ใช้จริงและพัฒนาไม่หยุด
  • Deliver – ส่งมอบของที่ใช้งานได้จริง ไม่ใช่แค่โชว์ในแคตตาล็อก

    "ความท้าทายสำคัญในการเข้ามาสานต่อธุรกิจ นอกจากการพิสูจน์ความสามารถ อีกหนึ่งความยากของธุรกิจนี้คือ จะทำอย่างไรเพื่อเปลี่ยนภาพจำของผนังห้องน้ำที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นแค่ผนังที่กั้นพื้นที่ แถมลูกค้าที่สั่งซื้อคือ เจ้าของโครงการ ผู้รับเหมาหรือสถาปนิก ซึ่งไม่ใช่ผู้ใช้งานจริง เพราะพอผนังถูกนำไปติดตั้งในสถานที่ต่างๆ ผู้ใช้ก็จะหลากหลายมากมาย มีทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ ดังนั้น นอกจากจะพยายามหา Pain Point ในการใช้งานของลูกค้า ยังต้องหาจุดสมดุลของการใช้งานผนังห้องน้ำให้ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าและผู้ใช้งานจริง ด้วยการออกแบบที่ตั้งต้นจาก Pain Point ในการใช้งานของลูกค้าเพื่อนำเสนอโซลูชัน ที่ยึดหลัก Universal Design ขณะเดียวกันยังต้องตอบโจทย์ในแง่ของดีไซน์ ที่สามารถตอบโจทย์ในด้านความสวยงาม กลมกลืนกับดีไซน์การออกแบบสถานที่ต่างๆ"

    ปัจจุบัน Willy Welcraft ถือเป็นแบรนด์ผนังห้องน้ำสำเร็จรูปอันดับ 1 ของประเทศไทย ที่มียอดขายสูงสุดของประเทศ และเป็นเจ้าเดียวในตลาดที่ผลิตทุกชิ้นส่วนเองทั้งหมด ซึ่งคุณซันมองว่าเป็นแต้มต่อที่ทำให้แบรนด์ WILLY โดดเด่นและทิ้งห่างจากผู้เล่นรายอื่นๆ ในตลาด

    อย่างไรก็ตามคุณซันยอมรับว่า ทุกครั้งที่มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ย่อมมีโอกาสจะถูกลอกเลียนแบบ ซึ่งหลายๆ ผลิตภัณฑ์ของ Willy Welcraft ก็ถูกลอกเลียนแบบ แต่โชคดีว่า เบื้องหลังในการพัฒนาทุกผลิตภัณฑ์มีความซับซ้อน ตั้งแต่กระบวนการคิดและการออกแบบ ผ่านการทดลองมานับครั้งไม่ถ้วน กว่าจะได้ผลงานที่สมบูรณ์แบบ ดังนั้น การจะลอกเลียนแบบให้เหมือนทั้งดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งานไม่ใช่เรื่องง่าย

    "วินาทีที่เราสร้างเทรนด์คือวินาทีที่เราถูกก็อป ทุกครั้งที่มีคนก็อปปี้จะบอกตัวเองว่า แสดงว่าของเราดีแต่อย่างที่บอกว่า จะก็อปให้เหมือน 100% แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้น หน้าที่ของเราคือ พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ยิ่งนวัตกรรมทุกอย่างเราพัฒนาเอง ผลิตเอง ยิ่งทำให้เราทิ้งห่างคู่แข่ง ทำให้เราเติบโตอย่างยั่งยืน ผมมองว่าหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจคือ ไม่หยุดนิ่ง มองไปข้างหน้าเสมอ ผมเน้นย้ำกับทีมงานเสมอว่า เราไม่ใช่แค่ตามเทรนด์ แต่ต้องนำเทรนด์ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้นในทุกวัน เพราะในโลกการออกแบบทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็ว แม้แต่ผนังห้องน้ำที่หลายคนอาจจะมองว่าเป็นผนังธรรมดา แต่จริงๆ แล้วยังมีพื้นที่ในการออกแบบอีกมาก ถ้าเรามองว่าผนังห้องน้ำเป็นส่วนหนึ่งของเฟอร์นิเจอร์ในอาคารที่ต้องมีลูกเล่นใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์งานดีไซน์ และเป็นตัวแทนที่บ่งบอกตัวตนของผู้ใช้งาน"


​    นอกจากจะหมั่น "เติมไฟ" ให้ทุกคนในบริษัทเดินหน้าด้วยไอเดียสร้างสรรค์และนวัตกรรม เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้บริษัทสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนคุณซันยังแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Service Wall นวัตกรรมระบบผนังหลังโถสุขภัณฑ์อัจฉริยะ ที่ออกแบบให้เปิดซ่อมได้ง่าย ติดตั้งสะดวก โดยยังสะท้อนความสง่างาม เรียบหรู และครบถ้วนในทุกมิติแห่งการดีไซน์ สามารถเปิดเพื่อเข้าถึงอุปกรณ์สำคัญอย่างวาล์ว ท่อน้ำ และเซ็นเซอร์ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องรื้อโครงสร้าง เข้ามาช่วยแก้ Pain Point ของลูกค้าเวลาระบบมีปัญหา จากเดิมที่ต้องปิดห้องน้ำเพื่อซ่อมแซม ด้วยการทุบผนังเข้าถึงท่อน้ำที่อยู่ด้านหลัง ซึ่งไม่เพียงเสียเวลาแต่ยังสร้างความไม่สะดวกอีกด้วย

    นอกจาก Service Wall คุณซันยังขยายตลาดไปสู่ตลาดล็อกเกอร์ ที่กำลังเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เป็นที่ต้องการในดาต้าเซ็นเตอร์ ฟิตเนส รวมทั้งโรงงานต่างๆ โดยในอนาคตคุณซันหวังว่า ทั้งสองธุรกิจจะเติบโตจนเป็นอีกพอร์ตโฟลิโอสำคัญของบริษัท

    สุดท้ายนี้เมื่อถามว่า อะไรคือเป้าหมายใหญ่ที่ตั้งใจว่าจะทำให้สำเร็จ คุณซันกล่าวทิ้งท้ายว่า อยากสร้างชื่อให้แบรนด์ WILLY ที่ปัจจุบันอยู่รอบตัวทุกคนอยู่แล้วให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง จนทำให้ทุกครั้งที่ไปใช้บริการห้องน้ำ ตามสถานที่ต่างๆ แค่ได้สัมผัสฟังก์ชันหรือความสวยงามของผนังห้องน้ำทุกคนจะนึกถึงแบรนด์ WILLY