สรรเสริญ จตุรภัทร ซีอีโอ JESSIE MUM สร้างธุรกิจเติบโต ในน่านน้ำที่แตกต่าง

ถึงวันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์ ‘JESSIE MUM’ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพิ่มน้ำนมแม่ โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่ ในช่วงขวบปีแรกของการเลี้ยงลูก ซึ่งถือเป็นช่วง Golden Time ของแม่และเด็ก และเป็น Golden Time ของแบรนด์ JESSIE MUM เช่นเดียวกัน เพราะสามารถสร้างธุรกิจที่เติบโตด้วยจุดขายที่แตกต่าง สำหรับคนไม่มีลูก อาจไม่เข้าใจปัญหาของคนเป็นแม่ ที่ต้องการเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่ ซึ่งถือเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย เช่นเดียวกับ สรรเสริญ จตุรภัทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฌานครีเอทีฟ จำกัด ที่เริ่มต้นธุรกิจด้วยความไม่เข้าใจเรื่องน้ำนมแม่ แต่เขามองเห็นโอกาสจากปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนรอบตัว จึงเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมถึงพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้า ศึกษาและวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญ จนพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณแม่ยุคใหม่ ภายใต้แบรนด์ JESSIE MUM “ผมเป็นคนชอบค้าขาย ชอบทำธุรกิจตั้งแต่เด็ก ตอนเรียนเริ่มขายเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า พอทำงานประจำก็ขายของไปด้วยมาโดยตลอด จนมาเจอโอกาสจากปัญหาของคนรอบตัว คือ พี่สาว ที่มีปัญหาเรื่องน้ำนม และพยายามหาสินค้า อาหารเสริม เพื่อจะเพิ่มน้ำนม จึงมองเห็นโอกาสในการพัฒนาสินค้า และตลาดนี้ไม่มีแบรนด์ที่เป็นเจ้าตลาดชัดเจน ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะเติบโต” สรรเสริญเล่าที่มาของการเริ่มต้นธุรกิจ JESSIE MUM เมื่อ 4 ปีก่อน

ศึกษาลงลึกในตลาดเฉพาะกลุ่ม จากการศึกษาอย่างลงลึกในตลาดแม่และเด็ก โดยเฉพาะเรื่องน้ำนมแม่ ถือเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับคุณแม่ แต่ด้วยการมองเห็นโอกาสในตลาดเฉพาะกลุ่ม (นิช มาร์เก็ต) ที่มีศักยภาพสูงมาก จากพฤติกรรมของคุณแม่ที่หาวิธีเพิ่มน้ำนม ผลิตภัณฑ์ JESSIE MUM จึงเข้ามาตอบโจทย์ ประกอบกับใช้กลยุทธ์การสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ สอดรับกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายที่ส่วนใหญ่จะอยู่บ้านเลี้ยงลูก และใช้สื่อออนไลน์เพื่อหาข้อมูลในการเลี้ยงลูก ทำให้ปีแรก JESSIE MUM มียอดขาย 10 ล้านบาท สรรเสริญ กล่าวว่า เมื่อศึกษาพฤติกรรมของลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ ก็พบปัญหาของกลุ่มนี้มากขึ้น ทั้งเรื่องการเพิ่มน้ำนม ปั้มนม เก็บสต็อกนม เราก็พยายามหาคำตอบมาให้ลูกค้า หาวิธีที่จะช่วยให้ลูกค้าแก้ปัญหาไปได้ จากความจริงใจที่แบรนด์ JESSIE MUM ที่มีต่อลูกค้า ทำให้เกิดการบอกต่อ กลายเป็นการสร้าง Community ของคุณแม่ ที่มาเล่า มาแชร์ประสบการณ์ ทำให้แบรนด์เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนปีที่ 4 รายได้ของ JESSIE MUM พุ่งทะยานถึง 100 ล้านบาท เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปีที่ผ่านมา และปีนี้คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 100% ปัจจุบันแบรนด์ JESSIE MUM ได้รับความนิยมทั้งในและต่างประเทศ นอกจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาตอบโจทย์คุณแม่แล้ว ยังได้เข้าไปเปลี่ยน Mindset หลายๆ อย่างให้กับคุณแม่ เช่น ในอดีตช่วงที่คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนม จะหลีกเลี่ยงการรับประทานยา หรืออาหารเสริมที่เป็นเม็ด หากจำเป็นจะรับประทานยาชนิดน้ำ ซึ่งมีผลต่อน้ำหนักตัวของคุณแม่ แต่ผลิตภัณฑ์ JESSIE MUM เป็นแคปซูล กินง่าย สะดวกและไม่มีผลข้างเคียง นี่เป็นส่วนหนึ่งของการให้ความรู้ใหม่ให้กับผู้บริโภค ขณะเดียวกันได้สร้างการเติบโตให้กับ JESSIE MUM สำหรับแนวทางการทำตลาดของ JESSIE MUM เน้นการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย โดยบริษัทให้ความรู้ทุกด้านในการขายของออนไลน์ มีทีมที่ปรึกษาด้านการตลาด วางกลยุทธ์ มีการจัดแคมเปญโปรโมชั่น ทำให้ตัวแทนขายสินค้าได้ง่ายขึ้น และมีระบบหลังบ้านทั้ง แชทบอท และเทเลเซลส์ ที่ช่วยตอบปัญหาของลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ถือเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยสนับสนุนการขายให้กับตัวแทนจำหน่าย จนสามารถสร้างรายได้ให้เติบโตและประสบความสำเร็จได้

ขณะเดียวกัน บริษัทก็สามารถเติบโตไปกับตัวแทนจำหน่าย ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ JESSIE MUM ถือเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในตลาดเพิ่มน้ำนมแม่ การันตีด้วยรางวัลต่างๆ มากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ Top Brand Award 2018 Young Self Made 2021 สาขา BEST FOOD SUPPLEMENT AWARD และสาขา HIGH GROWTH BUSINESS AWARD จากรายการอายุน้อยร้อยล้าน รางวัล Amarin Baby&Kids Award 2021 Editor’s Choice รางวัล theAsianparent Award 2022 Proudly Local หมวด Maternal Supplement รางวัลThailand Health and Beauty Awards 2022 สาขา The Masterpiece Business of Supplements for Healthy Mom และได้เข้าชิงรางวัล Asia Pacific Enterprise Awards 2022 ในอีก 3 สาขาอีกด้วย ก้าวสู่แผนธุรกิจครั้งใหม่เป้าหมายระดับพันล้าน สรรเสริญมีแนวคิดในการทำธุรกิจที่แตกต่าง โดยเลือกที่จะเติบโตในตลาดเฉพาะกลุ่ม ซึ่งจะทำให้แข่งขันง่าย ด้วยการหาผลิตภัณฑ์ที่มีจุดขายที่ไม่เหมือนสินค้าที่มีในตลาด JESSIE MUM เป็นตัวอย่างที่สำคัญ และวันนี้เขาพร้อมที่จะขยายธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติม ด้วยแนวคิดที่ชัดเจน คือ “การสร้างธุรกิจให้เติบโตในน่านน้ำที่เราเลือกเอง” ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เขาพูดถึง คือ กาแฟสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ ‘Taste Note’ กาแฟของเขาแตกต่างที่กลิ่นและรสชาติ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลาย ด้วยความเป็นคนชอบกินกาแฟ เขาจึงเกิดคำถามว่า “ทำไมต้องกินกาแฟเหมือนกันทุกวัน เราเปลี่ยนรสชาติกาแฟบ้างก็ได้” นี่จึงเป็นที่มาของ Taste Note ที่เป็นกาแฟที่มี 7 รสชาติด้วยกัน ได้แก่ บัตเตอร์ สก็อต บัตเตอร์ เบียร์ ลิ้นจี่พิช แอปเปิ้ล วนิลา มะพร้าว เมล่อน และสตรอเบอรี่ และแผนในใจของเขาอยากทำให้ได้ถึง 365 รสชาติ เพื่อสร้างความสุขที่ไม่ซ้ำกันของคนดื่มกาแฟ “การขยายธุรกิจใหม่ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุนเพื่อความมั่นคงในการสร้างการเติบโตของธุรกิจในอนาคต JESSIE MUM เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งในตลาดแม่และเด็ก และยังมีโอกาสเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ ขณะที่กาแฟเป็นตลาดใหญ่และเป็นน่านน้ำใหม่ของเรา รวมทั้งมีแผนพัฒนาสินค้าอื่นๆ เพิ่มเติม แต่ต้องเป็นตลาดที่เราเลือกที่จะเติบโตได้” สรรเสริญกล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคต นอกจากนี้ สรรเสริญ มองว่า การทำธุรกิจต้องอย่ากลัวที่จะสร้างแบรนด์ใหม่ ต้องมีไฟอยู่ตลอดเวลา ถ้าเรามั่นใจในตลาดที่เราเลือก ก็ศึกษาและวิจัยเพื่อพัฒนาสินค้าออกมาให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และอย่าไปยึดติดกับความสำเร็จแบบเดิม ต้องมองหาโอกาสใหม่อยู่ตลอดเวลา และพร้อมที่จะสู้ในตลาดที่ได้เลือกแล้ว สำหรับเป้าหมายในระยะ 5 ปีข้างหน้า สรรเสริญ คาดว่ากลุ่มบริษัทจะมีรายได้เติบโตถึงระดับพันล้านบาท และมีแผนเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อสร้างธุรกิจให้มั่นคง แข็งแรง ซึ่งทุกวันนี้มีแบรนด์ใหญ่ติดต่อเข้ามาเพื่อขอซื้อหุ้นของ JESSIE MUM อยู่ตลอด แต่เขาคิดว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะขาย หรือหากนักลงทุนสนใจ เขาจะพิจารณาเรื่องผลตอบแทน และยังคงสิทธิในการบริหารต่อไป เพราะยังมีไฟและแรงบันดาลใจที่จะสร้างแบรนด์ JESSIE MUM ให้เติบโตไม่ใช่แค่ในประเทศ แต่รวมถึงต่างประเทศด้วย ซึ่งนั่นจะสร้างโอกาสการเติบโตอีกมหาศาล และเป็นแผนที่ไม่ไกลเกินเอื้อม