นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของบริษัทคนไทย เมื่อบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ขึ้นแท่นเบอร์ 1 องค์กรยั่งยืนระดับโลก ได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) สูงสุดเป็นอันดับ 1 ระดับโลก ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Management & Development) จากการประกาศผล Sustainability Yearbook 2024 โดย S&P Global
สิ่งที่น่าสนใจคือ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เซ็นทรัลพัฒนาคว้ารางวัลดังกล่าว แต่เซ็นทรัลพัฒนาติดอันดับเป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีโลก (DJSI World) ในหมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 และกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (DJSI Emerging Markets) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 และเป็นสมาชิกของ S&P Global Sustainability Yearbook ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6
อะไรคือเบื้องหลังความสำเร็จในการคว้ารางวัลระดับโลก ไปหาคำตอบพร้อมกัน
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ในฐานะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีมูลค่าองค์กรสูงที่สุดในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การได้รับคัดเลือกให้อยู่ในดัชนีความยั่งยืนดาวน์โจนส์ DJSI อย่างต่อเนื่อง นับเป็นความภาคภูมิใจของเซ็นทรัลพัฒนา ทั้งในฐานะตัวแทนของบริษัทคนไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ รวมถึงสะท้อนนโยบายและแนวทางของประเทศไทย ที่ต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกในการขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนในทุกๆ ด้าน
"การได้รับรางวัลผู้นำอันดับหนึ่ง DJSI World 2023 ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นี้ นับเป็นรางวัลของประเทศ...ของทุกคน จากผลลัพธ์ความมุ่งมั่นของพนักงาน และความร่วมมือกับพันธมิตร ทั้งผู้เช่า คู่ค้า และซัพพลายเออร์ จึงขอขอบคุณทุกความพยายามที่ร่วมกันเสริมสร้างผลการดำเนินงานขององค์กรในด้าน ESG อย่างต่อเนื่อง"
ทั้งนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่า ดัชนี Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) คืออะไร ผู้บริหารหญิงเก่ง ขยายความว่า DJSI เป็นดัชนีที่คัดเลือก "หุ้นยั่งยืนระดับโลก" เป็นดัชนีหลักทรัพย์ของบริษัทชั้นนำระดับโลกที่มีความโดดเด่นในการทำธุรกิจ และคำนึงถึงประเด็นเรื่องความยั่งยืนเป็นหลัก โดยผ่านการประเมินความยั่งยืนรายปี จัดอันดับโดย S&P Global ตามตัวชี้วัดด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมตามแนวทางการพัฒนาธุรกิจที่ยั่งยืน ซึ่งผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลกให้การยอมรับและใช้เป็นข้อมูลในการลงทุนที่มีผู้ลงทุนสถาบันและกองทุนต่างๆ ทั่วโลกให้ความสนใจลงทุนคิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2023 มีบริษัททั่วโลกเข้าร่วมการประเมิน 9,400 แห่ง
แกะสูตรความสำเร็จระดับโลก
ถ้าถามว่าอะไรคือ เคล็ดลับความสำเร็จในการนำพาองค์กรไปคว้ารางวัลระดับโลกของเซ็นทรัลพัฒนาคืออะไร คงต้องบอกว่าการก้าวสู่ผู้นำอันดับ 1 จากจำนวน 299 องค์กรระดับโลกในอุตสาหกรรมเดียวกันไม่ใช่เรื่องง่าย เกิดจากวิสัยทัศน์และการลงมือทำจริงอย่างต่อเนื่อง นับเป็นการยืนยันถึงจุดยืนและวิสัยทัศน์ระดับโลกของเซ็นทรัลพัฒนา "Imagining better futures for all" และโมเดลธุรกิจ "The Ecosystem for All" ที่แข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับบทบาท Place Maker และเป็นผู้นำพัฒนาเมืองทั่วประเทศ ด้วยพันธกิจในการดูแลคุณภาพชีวิตของ "People" คนและชุมชน และ "Planet" โลกและสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นผู้พัฒนาโครงการมิกซ์ยูสรายแรกของประเทศไทยที่บรรลุเป้าหมาย NET ZERO ในปี 2050
ทั้งนี้ กลยุทธ์หลักที่เซ็นทรัลพัฒนาใช้ในการดำเนินธุรกิจ คือ การสร้าง Sustainable Ecosystem ที่แข็งแกร่ง โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer-Centric) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับพันธมิตรทุกฝ่ายร่วมมือกันเป็น Partner Champions เพื่อให้คู่ค้าเติบโตไปด้วยกัน โดยทั้งหมดล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เซ็นทรัลพัฒนาก้าวสู่อันดับ 1 ของโลกด้านความยั่งยืน ผ่านความสำเร็จของเป้าหมาย 3 ด้าน ดังนี้
1. Planet : Journey to NET Zero 2050 ด้วยความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็น "ศูนย์" เซ็นทรัลพัฒนาจึงพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามแนวทางอาคารประหยัดพลังงาน หรือ Green Building ทำให้ที่ผ่านมาได้รับรางวัล Thailand Energy Awards มาแล้วจำนวน 45 รางวัล รางวัล MEA Energy Awards 17 รางวัล รางวัลระดับอาเซียน Asean Energy Awards 13 รางวัล และได้รับการรับรองประกาศนียบัตร Leadership in Energy & Environmental Design (LEED) อีก 3 อาคาร
รวมถึงล่าสุด Centralworld Offices ยังได้รับการรับรอง LEED ระดับ "Gold" เนื่องจากใช้กระบวนการออกแบบบูรณาการที่ผสมผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ บวกกับมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานไฟฟ้า ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน และจัดการขยะ จนสามารถลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์โดยรวมได้ 19.3% เมื่อเทียบกับปี 2019 นอกจากนี้ยังขยายการติดตั้ง Solar Rooftop บนอาคารศูนย์การค้ารวม 26 แห่ง จัดตั้งจุดรีไซเคิลถาวรและหมุนเวียน 15 แห่ง ให้ชุมชนมีโอกาสได้ร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อม จัดการขยะตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนลดขยะฝังกลบได้กว่า 31,000 ตัน รวมถึงติดตั้ง EV Charging Station ในศูนย์การค้า 40 แห่ง 19 จังหวัดทั่วประเทศ รวมกว่า 400 ช่องจอด ทั้งนี้เซ็นทรัลพัฒนา ยังคงมุ่งมั่นพัฒนามาตรการประหยัดพลังงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก ที่อิงหลักวิทยาศาสตร์ตามแนวทาง Science Based Targets initiative (SBTi)
2. People : ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและชุมชนทั่วประเทศ (Local Wealth) สร้างศูนย์กลางของชุมชนในการสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ด้วยการสนับสนุนพื้นที่ขายสินค้าให้ชุมชน เกษตรกร SMEs เช่น โครงการหลวง ตลาดจริงใจฟาร์เมอร์มาร์เก็ต สินค้า OTOP สร้างรายได้รวมมูลค่า 411 ล้านบาท พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ด้านสาธารณสุข กีฬา ศิลปวัฒนธรรม ศูนย์บริการหนังสือเดินทาง หน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ และศูนย์รับบริจาคโลหิตถาวรระดับจังหวัด รวม 15 ล้านซีซี รวมกว่า 1,650 กิจกรรมของศูนย์การค้า พร้อมสนับสนุนท้องถิ่นผ่านการจัดซื้อ จัดจ้างอีกกว่า 5,300 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผนึกกำลังสร้าง "Sustainable Tourism Ecosystem" ผ่านแคมเปญ "GO LOCAL, LOVE LOCAL" ผลักดันการท่องเที่ยวของไทยทั่วประเทศ เพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น
3. Place : Synergy for new solutions ผนึกกำลังพันธมิตรคู่ค้า และร้านค้าเพื่อยกระดับการใช้ชีวิตแบบครบวงจร Retail-led Mixed-use development อำนวยความสะดวกสบาย และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมให้ผู้คนในระดับภูมิภาคของประเทศ โดยให้บริการสาธารณะแก่ชุมชนรวมกว่า 4 ล้านคนในปีที่ผ่านมา ด้วยการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบบนพื้นฐานการกำกับดูแลที่ดีมีจรรยาบรรณ ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชัน เคารพสิทธิมนุษยชน และให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างจริงจัง มีมาตรการจัดการความเสี่ยง มาตรการความปลอดภัย การรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล
นอกจากนี้ ยังวางแผนลงทุนต่อเนื่อง 5 ปี ด้วยมูลค่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 120,000 ล้านบาท ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อยกระดับความเจริญแก่ชุมชนท้องถิ่น สร้างคุณค่าสู่สังคมผ่านกระบวนการทางธุรกิจ เพิ่มโอกาสในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ชุมชนในระยะยาว นำไปสู่การยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีและพัฒนาความยั่งยืนให้แก่ผู้คนในประเทศอย่างแท้จริง
ทั้งหมดนี้ คือ เบื้องหลังความสำเร็จในการคว้าอันดับ 1 องค์กรยั่งยืนระดับโลกของเซ็นทรัลพัฒนา ที่ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง จนเกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม และนำไปสู่วิสัยทัศน์ Imagining better futures for all ได้อย่างแท้จริง