"ชิเซโด้" ปักหมุดตลาดเอเชียแปซิฟิก ตอกย้ำเดินหน้าเติบโตสู่แบรนด์ความงามระดับโลก - Forbes Thailand

"ชิเซโด้" ปักหมุดตลาดเอเชียแปซิฟิก ตอกย้ำเดินหน้าเติบโตสู่แบรนด์ความงามระดับโลก

FORBES THAILAND / ADMIN
13 Mar 2024 | 10:30 AM
READ 4269

เอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของ "ชิเซโด้ กินซ่า โตเกียว" (SHISEIDO Ginza Tokyo) แบรนด์เครื่องสำอางค์ยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น "ชิเซโด้" จึงทุ่มเทกับตลาดภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยที่ได้ปักหมุดเป็นศูนย์กลางด้านความงามของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปแล้ว Forbes Thailand ได้มีโอกาสสนทนากับ Nicole Tan President & CEO, Shiseido Asia Pacific

เกี่ยวกับมุมมองของบริษัทต่อตลาดในภูมิภาคนี้และในไทย กลยุทธ์ขับเคลื่อนการเติบโต นวัตกรรมความงามใหม่ๆ และเทรนด์ในตลาดความงาม เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาในโอกาสที่ "ชิเซโด้" ได้จัดงาน "Journey of Potential" อีเว้นต์ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นครั้งแรกที่สยามพารากอน

"ศักยภาพและโอกาสการเติบโตของธุรกิจความงามในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีมากมาย ทั้งการเติบโตในตลาดเดิมและการขยายเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ ซึ่งล้วนมีแรงขับเคลื่อนจากการขยายตัวและยกระดับการบริโภคของกลุ่มคนชั้นกลางในภูมิภาคนี้ที่เติบโตอย่างมาก ล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมในปีที่ผ่านมา เราได้เปิดตัวเครื่องสำอางค์แบรนด์ NARS ในประเทศอินเดีย ซึ่งถือเป็นตลาดใหม่ของเราที่เราต้องการส่วนแบ่งในตลาดที่ผู้บริโภคมีการเติบโตสูง" นิโคล กล่าว

ปัจจุบัน บริษัทชิเซโด้มีแบรนด์ชั้นนำในกลุ่ม Prestige และ Premium ทำตลาดในเอเชียแปซิฟิก ครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เครื่องสำอางค์และน้ำหอม ผ่านหลากหลายแบรนด์ ได้แก่ SHISEIDO Ginza Tokyo, Clé de Peau Beauté, NARS, IPSA, Drunk Elephant, ANESSA, ELIXIR, d program, Issey Miyake, Narciso Rodriguez และ    Tory Burch นอกจากนี้บริษัทยังได้ขยายพอร์ตโฟลิโอด้วยการเปิดตัว ELIXIR แบรนด์ดูแลผิวอันดับ 1 จากญี่ปุ่นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเมื่อปี 2565 และแบรนด์ Drunk Elephant เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค

​ด้วยเป้าหมายที่ต้องการจะเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งด้านความงามสำหรับคนเอเชีย บริษัทจึงทำตลาดเชิงรุกเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการขยายธุรกิจทางออนไลน์และออฟไลน์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งการเปิด Free-Standing Store ให้กับแบรนด์ต่างๆ ในกลุ่ม และการจับมือกับเจ้าตลาดอีคอมเมิร์ซอย่างลาซาด้าและช้อปปี้

"การซื้อสินค้าทางออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติหลังเกิดโควิดในปี 2563 แต่หลังโควิดคลี่คลายลง ผู้บริโภคก็กลับมาเดินเลือกซื้อสินค้าหน้าเคาน์เตอร์เหมือนเดิม เราจึงวางแผนที่จะลงทุนปรับโฉมและเติมสีสันให้กับหน้าร้านและสาขาของเรา เพื่อยกระดับและเพิ่มประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินค้าให้กับผู้บริโภค ทำให้ปัจจุบันการทำตลาดผ่านช่องทางหน้าร้านและทางออนไลน์ (Omni-Channel) เป็นสิ่งที่เราต้องทำควบคู่กันไป เพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้บริโภค


หนึ่งในประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เรากำลังพัฒนาเพื่อนำเสนอแก่ผู้บริโภค คือ การใช้เทคโนโลยีและ Skin Visualizer จาก  ชิเซโด้ ที่ถ่ายภาพใบหน้าและนำไปวิเคราะห์สภาพผิว ซึ่งไม่ใช่เพียงการวิเคราะห์สภาพผิวเท่านั้น วันนี้เทคโนโลยียังสามารถทำได้ถึงการซิงค์หรือโอนข้อมูลการไหลเวียนโลหิตใต้ผิวหนังเข้าไปด้วย เพื่อวิเคราะห์สุขภาพผิวที่แท้จริง ทำให้ผู้เชี่ยวชาญจาก "ชิเซโด้" สามารถแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของเรามากที่สุดได้ เทคโนโลยีนี้เป็นสิ่งที่      "ชิเซโด้" กำลังลงทุนเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค" นิโคล กล่าว

การให้ความสำคัญกับทั้งหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หลังจากผู้บริโภคกลับมาเดินเลือกซื้อสินค้าที่หน้าเคาน์เตอร์มากขึ้น แม้การซื้อสินค้าทางออนไลน์จะกลายเป็นพฤติกรรมใหม่หลังโควิดแล้วก็ตาม ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ "ชิเซโด้" ยังคงเดินหน้าพัฒนาและสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภคต่อไปในทั้งสองช่องทาง เพราะต่างก็ทำหน้าที่สร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภคที่แตกต่างกันออกไป

นอกจากนี้ "ชิเซโด้" ยังเดินหน้าลงทุนด้านนวัตกรรมเพื่อยกระดับ Engagement กับผู้บริโภค ได้แก่ เทคโนโลยี AR เช่น Virtual Try-ons การมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งและคอนเทนท์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ความงามที่ใช้ข้อมูลเชิงลึกส่งต่อผู้บริโภคผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าสำหรับแบรนด์ในกลุ่ม Prestige รวมทั้ง การขับเคลื่อนคุณค่าของแบรนด์ผ่านความร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ KOL และแบรนด์แอมบาสเดอร์

สำหรับประเทศไทย ชิเซโด้เป็นแบรนด์อันดับ 1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับลักซ์ชัวรี่ และทำผลงานโดดเด่นในตลาดรีเทล จึงเป็นที่มาของการเลือกกรุงเทพฯ เป็นสถานที่จัดงาน "Journey of Potential" ซึ่งเป็นอีเว้นต์ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่บริษัทจัดขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด SHISEIDO VITAL PERFETION "age-defying" ทั้งนี้ถือว่าเป็นการตอกย้ำความสำคัญของตลาดในประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างไม่มีข้อสงสัย


"ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านความงามของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นตลาดความงามที่พัฒนาจากมุมมองของผู้บริโภค ถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ สำหรับเรา ประเทศไทยเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน เซกเมนต์ Prestige ไทยจึงเป็นตลาดสำคัญของเรา ผู้บริโภคในประเทศไทยมีความทันสมัย ชอบลองสิ่งใหม่ๆ และใส่ใจกับคุณภาพของสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนผสมในสินค้าที่ใช้ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในไทยแต่ยังเกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ ในเอเชียแปซิฟิกอีกด้วย"

"นอกจากนี้ ตลาดลักชัวรี่ในประเทศไทยเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยจึงเป็นตลาดที่สำคัญและมีแนวโน้มสำหรับ "ชิเซโด้" ซึ่งประเทศไทยยังเป็นตลาดที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวภายใต้แบรนด์ชิเซโด้ติดอันดับ 1 และเป็นหนึ่งในสามแบรนด์ความงามอันดับต้นๆ ของประเทศอีกด้วย ถือเป็นความภูมิใจที่ทำให้ "ชิเซโด้" มุ่งมั่นที่จะรักษาตำแหน่งนี้อย่างต่อเนื่อง" นิโคล กล่าว

​รายงานจาก Beauté Research สถาบันวิจัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ความงามในเอเชีย ระบุว่า ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในประเทศไทยมีการเติบโตค่อนข้างโดดเด่น โดยชิเซโด้เติบโตอยู่ที่ 11.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ในขณะที่ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเติบโต 0.2%


ในประเทศไทยที่นำโดยผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ถือเป็นตลาดหลักที่ "ชิเซโด้" มุ่งเน้นและวางเป้าหมายที่จะรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดต่อไป

สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 4.36 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2570 จากรายงานวิจัยตลาดของ Allied จากปริมาณชนชั้นกลางที่เพิ่มจำนวนขึ้น ซึ่งต่างต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ความงามใหม่ๆ ประกอบกับจำนวนประชากรสูงวัยของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 10% จากประชากรทั้งหมด และคาดว่าจะสูงถึง 20% ภายในปี 2574 จึงมีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ Anti-Aging

"เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคด้วยนวัตกรรมและประสบการณ์ใหม่ๆ โดยในปีนี้เริ่มจาก Journey of Potential เป็นอีเว้นต์ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งจัดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยจัดแสดง VITAL PERFECTION หนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Anti-Aging ที่ขายดีที่สุดของชิเซโด้

ซึ่งแบรนด์ชิเซโด้ถือเป็นแบรนด์ดูแลผิวชั้นนำระดับตำนานในประเทศไทยที่เป็นตลาดที่ขับเคลื่อนการเติบโตของเราในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราจะเดินหน้าการเติบโตของแบรนด์ชิเซโด้ให้ก้าวสู่แบรนด์ชั้นนำของโลกที่เป็นระดับตำนานเช่นเดียวกัน" นิโคล กล่าว