'S20 ปี 2025' สุดอลัง! ย้ายมาจัดงาน 'สนามราชมังฯ' จุนักท่องเที่ยว 100,000 คน หนุนเงินสะพัด 1,400 ล้าน - Forbes Thailand

'S20 ปี 2025' สุดอลัง! ย้ายมาจัดงาน 'สนามราชมังฯ' จุนักท่องเที่ยว 100,000 คน หนุนเงินสะพัด 1,400 ล้าน

​ฉลองวาระครบรอบ 10 ปี งานมหกรรมดนตรี EDM 'S2O ปี 2025' พร้อมย้ายบ้านมาที่ใหม่ใหญ่กว่าเดิม ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน จุนักท่องเที่ยวได้ 100,000 คน ตลอด 3 วันของการจัดงาน คาดรายได้ 350 ล้านบาท พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนเงินสะพัดระหว่าง 12-14 เมษายนนี้ 1,400 ล้านบาท


    S2O หนึ่งในมหกรรมดนตรีของไทยที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เห็นได้จากยอดจำหน่ายบัตรและรายได้ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการขยายตัวไปจัดงานยังตลาดต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น, เกาหลี, ไต้หวัน, ฮ่องกง,เมืองไห่หนาน จีน และนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ถือเป็นตัวสะท้อนศักยภาพของเทศกาลดนตรีสัญชาติไทยที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้เป็นอย่างดี

    ทั้งนี้ งาน S2O Songkran Music Festival ปี 2025 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 เมษายน นี้ จะเป็นการตอกย้ำความสำเร็จอีกครั้ง หลังบุกเบิกจัดงานมานานจนก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 และในปีนี้ยังเป็นการทุบสถิติขายบัตรหมดเกลี้ยงภายในระยะเวลาอันรวดเร็วประมาณ 1 เดือนก่อนที่งานจะจัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายน


    วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา ผู้ก่อตั้งเทศกาลดนตรี S2O Songkran Music Festival กล่าวว่า "S2O ในวาระครบรอบ 10 ปี ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งสำคัญที่เราได้ทุ่มงบเพิ่มจาก 200 ล้านบาท มาเป็น 250 ล้านบาทในปีนี้ โดยงบดังกล่าวจะเป็นการลงทุนในเรื่องของเทคโนโลยีล้ำสมัยสำหรับการออกแบบเวทีที่ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม อลังการด้วยความทันสมัยจากเทคโนโลยีการฉีดน้ำแบบ 360 องศา นอกจากนี้ ยังมี 'มินเนี่ยนสาว' ทีมฉีดน้ำสุดฮอตจากประเทศเกาหลีใต้ พร้อมด้วยทัพศิลปินดีเจระดับตำนานของโลกและศิลปินชื่อดังอีกมากมาย อาทิ Marshmello, Alan Walker, DJ Snake, Major Lazer, Timmy Trumpet เป็นต้น

    "เราย้ายสถานที่จากเดิมเคยจัดที่ Live Park พระราม 9 ก็เปลี่ยนมาเป็นสนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งเป็นสเกลพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าเดิม 30% โดยล่าสุดที่ผ่านมาพื้นที่ดังกล่าวเคยใช้จัดงานคอนเสิร์ตของศิลปินระดับโลกอย่างวง Coldplay หรือ Ed Sheeran จึงทำให้มั่นใจได้ว่างานในครั้งนี้จะสามารถรองรับผู้เข้าร่วมงานได้มากขึ้นถึง 100,000 คน ตลอดทั้ง 3 วันของการจัดงาน อีกทั้งเรายังมั่นใจว่าธุรกิจในปีนี้จะโตเพิ่มขึ้น 25% สร้างรายได้อยู่ที่ 350 ล้านบาท และยังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากนักท่องเที่ยวทำให้มีเงินสะพัดมากขึ้นระหว่างการจัดงานสูงถึง 1,400 ล้านบาท“ 



    ปุลิน มิลินทจินดา กรรมการผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการและผู้ร่วมก่อตั้ง S2O เผยว่า "งาน S2O Songkran Music Festival ถือเป็นตัวแทนของซอฟต์พาวเวอร์ไทยที่สามารถส่งออกไปทั่วโลก ด้วยการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมสงกรานต์ และความบันเทิงสมัยใหม่ ทำให้เทศกาลนี้กลายเป็นแบรนด์ระดับโลกที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทย และแสดงให้เห็น ถึงศักยภาพของไทยในการจัดงานระดับนานาชาติ

    "การที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาร่วมงาน S2O Songkran Music Festival ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ผ่านรายได้จากการท่องเที่ยว แต่ยังช่วยกระจายรายได้ไปยังธุรกิจท้องถิ่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม ร้านอาหาร การขนส่ง และบริการอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งยอดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่อคนโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่คนละ 20,000 บาท และทางเราเองยังมีการจ้างงานสำหรับพนักงานในแผนกสูงถึงราวๆ 3,000 คน ปุลิน กล่าวเสริม



    อย่างไรก็ตาม ทาง วู้ดดี้ วุฒิธร ผู้ก่อตั้งเทศกาลดนตรี S2O Songkran Music Festival ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า รู้สึกดีใจที่การบุกเบิกจัดงานเทศกาลดนตรีมาตลอด 10 ปีนี้ มีส่วนช่วยให้เกิดผู้ประกอบการธุรกิจรายใหม่ๆ เกิดขึ้น และยังแข่งขันกันได้อย่างเป็นธรรมสร้างตัวเลือกที่ดีให้แก่ผู้บริโภคในช่วงฉลองสงกรานต์ได้มากมาย

    โดยไฮไลท์สุดพิเศษของ S2O Songkran Music Festival 2025 นอกจากจะเลือกสถานที่จัดงานใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมหลายเท่าพร้อมโปรดักชั่นระดับสากลด้วยทีมงานมืออาชีพระดับแนวหน้าจากทั่วทุกมุมโลก และกิจกรรมสุดว้าวหลากหลายจากสปอนเซอร์มากมายแล้ว 

    ภายในงานยังมีพื้นที่พักผ่อน 4 โซนสุดครีเอทีฟตามแนวคิดภูมิภาคของประเทศไทย แสดงถึงพลังซอฟต์พาวเวอร์ไทยในทุกมิติ เพิ่มเติมความแกลมให้กับโซน VVIP โดย King Power พร้อมการเดินทางสะดวกสบายด้วยบริการจาก Grab พร้อมส่วนลดสุดพิเศษ และบริการรถรับ-ส่ง S2O Free Shuttle หลังจบงาน รวมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อให้การจราจรลื่นไหลที่สุด อีกทั้งยังมีห้องสุขาจำนวนมากครอบคลุมทุกพื้นที่รอบราชมังคลากีฬาสถานเพื่อรองรับอย่างเต็มที่

    "ในปีนี้เองเราก็ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐอย่าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การกีฬาแห่งประเทศไทย คณะกรรมการยุทธศาสตร์ ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ต่อเนื่องไปถึงกลุ่มพันธมิตรภาคเอกชนที่เข้ามาร่วมเป็นสปอนเซอร์มากมาย อาทิ Pepsi, King Power, Chang Cold Brew Cool Club, Dewar's Club, Crocs, Grab, Vivo, Wedrink เพื่อผนึกกำลังสร้างสรรค์กิจกรรมระดับ โลกที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น" วู้ดดี้ กล่าวทิ้งท้าย


ภาพ : S20



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘วัน เอเชีย เวนเจอร์ส’ ตั้งเป้ารายได้ปี 68 แตะ 600 ล้าน มั่นใจเฉพาะงาน ‘Siam Songkran’ นักท่องเที่ยวแตะ 100,000 คน

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine