นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญก็ว่าได้ สำหรับ บมจ. ปลูกผักเพราะรักแม่ เจ้าของร้านอาหารเพื่อสุขภาพแบรนด์ “โอ้กะจู๋” ที่เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 159 ล้านหุ้น ภายหลังสำนักงาน ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง โดยคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในปีนี้
ย้อนดูเส้นทางของ โอ้กะจู๋ เริ่มต้นกิจการร้านอาหารเพื่อสุขภาพสาขาแรกที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ในปี 2556 โดยชื่อร้านนั้นมีที่มาจากชื่อของ “ชลากร เอกชัยพัฒนกุล” หรือ อู๋ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการตลาด การบริหารธุรกิจ รวมถึงชอบทำอาหาร และ “จิรายุทธ ภูวพูนผล” หรือ โจ้ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเกษตร และกระบวนการเกษตรอินทรีย์แบบบูรณาการ
รวมถึง “วรเดช สุชัยบุญศิริ” หรือ ต้อง ที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม นำความรู้ด้านเครื่องจักรทางการเกษตร การสร้างโรงเรือน และวิธีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์มาพัฒนา ให้สามารถสร้างผลผลิตได้ในปริมาณที่มากขึ้น และมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
ด้วยความเชี่ยวชาญของผู้ก่อตั้งทั้ง 3 คน ร้านโอ้กะจู๋ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค ถึงขั้นที่ว่าใครไปเชียงใหม่ก็ต้องไปเยือนร้านนี้ ร้านโอ้กะจู๋เริ่มขยายสาขา และมีดีลสำคัญเกิดขึ้นในปี 2564 นั่นคือการเข้าซื้อหุ้นโอ้กะจู๋ 20% มูลค่าไม่เกิน 500 ล้านบาทของ OR ต่อยอดการขยายสาขาของร้านให้เข้าไปอยู่ในปั๊มน้ำมันได้
ไม่เพียงเท่านั้น บมจ.ปลูกผักเพราะรักแม่ ยังขยายไปสู่รูปแบบร้านใหม่ๆ รวมถึงธุรกิจใหม่ๆ ด้วย โดยปัจจุบันแบ่งธุรกิจออกเป็น 3 ประเภท คือ
(1) ธุรกิจบริการและจำหน่ายอาหาร ภายใต้แบรนด์ “โอ้กะจู๋” ซึ่งมีช่องทางจำหน่าย 4 ช่องทางหลัก คือ 1.1) Full-service Restaurant จำนวนรวม 30 สาขา 1.2) Delivery and Kiosk จำนวนรวม 4 สาขา 1.3) Café Amazon จำนวนกว่า 400 สาขา และ 1.4) Supermarket จำนวน 11 สาขา
(2) ธุรกิจร้านอาหารประเภทจานด่วน (Quick Service Restaurant: QSR) ภายใต้แบรนด์ “Ohkajhu Wrap & Roll” ซึ่งเปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้า EMSPHERE เมื่อเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา
(3) ธุรกิจร้านน้ำผักผลไม้เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ “Oh! Juice” ซึ่งเปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว ไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา และสาขาที่ 2 ที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน เมื่อเดือนมิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา
แล้วในแง่ของผลประกอบการเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูกัน
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘โอ้กะจู๋’ เตรียมขายหุ้น IPO ไม่เกิน 159 ล้านหุ้น หลัง ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine