NIQ แนะกลยุทธ์การตลาดช่วง 'สงกรานต์' หลัง 84% ผู้บริโภคระวังการใช้จ่ายประหยัดมากขึ้น - Forbes Thailand

NIQ แนะกลยุทธ์การตลาดช่วง 'สงกรานต์' หลัง 84% ผู้บริโภคระวังการใช้จ่ายประหยัดมากขึ้น

NIQ บริษัทวิจัยผู้บริโภคชั้นนำของโลก เผยข้อมูลการใช้จ่ายของผู้บริโภคพร้อมแนะกลยุทธ์การตลาดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2567 หลังปีที่ผ่านมา คนไทย 84% ใช้จ่ายเท่าเดิมหรือลดการใช้จ่ายลงโดยเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางการเมือง


    จากข้อมูลจากรายงานของ NIQ บริษัทวิจัยผู้บริโภคชั้นนำของโลก เกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยในช่วงเทศกาลหยุดยาวสงกรานต์ปี 2567 โดยชี้ให้เห็นถึงทัศนคติในการใช้จ่ายที่มีความระมัดระวังและเน้นเรื่องคุณภาพมากขึ้น พร้อมแนะโอกาสทางการตลาดที่สามารถเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลดังกล่าว

 

แนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภค

    แม้จะต้องเจอกับปัญหาความท้าทายทางเศรษฐกิจ แต่ผู้บริโภคบางรายก็พร้อมที่จะยกระดับการเฉลิมฉลองด้วยการเลือกซื้อของและบริการระดับพรีเมียม นับตั้งแต่วัตถุดิบคุณภาพดีที่นำมาทำอาหารที่บ้าน ไปจนถึงการเลือกรับประทานอาหารที่ร้านอาหารสุดหรูหรา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าปริมาณ อย่างไรก็ตาม ทัศนคติเรื่องการใช้จ่ายที่มีอยู่ในปัจจุบันอาจมีแนวโน้มไปทางด้านการลดงบประมาณมากขึ้น โดยคนส่วนใหญ่เลือกที่จะใช่จ่ายในงบที่คงที่ หรือลดรายจ่ายลงในช่วงวันหยุดเทศกาล


ที่มาแบบสำรวจของ NIQ ด้านแนวโน้มผู้บริโภคช่วงกลางปี .. 2566 

 

    ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าในปีผ่านๆมา ชาวไทยต้องเจอกับปัญหาจากแรงกดดันทางด้านเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางการเมือง ส่งผลให้ผู้บริโภคชาวไทยส่วนใหญ่ (84%) ตั้งใจที่จะใช้จ่ายเท่าเดิม หรือลดการใช้จ่ายลง 

    แม้แนวโน้มโดยรวมจะแสดงให้เห็นถึงการประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ก็ยังมีกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการใช้งบประมาณในการซื้อของขวัญมูลค่าสูงและประสบการณ์ระดับพรีเมียม จากรายงานแสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจในการใช้งบประมาณที่โดดเด่น 

    โดยที่ผู้บริโภคถึง 69% วางแผนใช้จ่ายกับวัตถุดิบระดับพรีเมียมและมีคุณภาพเพื่อการเฉลิมฉลองที่บ้าน 59% วางแผนที่จะใช้จ่ายมากขึ้นในการรับประทานอาหารนอกบ้าน และ 39% วางแผนที่จะใช้จ่ายมากขึ้นในการรับประทานอาหารที่ร้านหรูระดับพรีเมียม 

ที่มาแบบสำรวจของ NIQ ด้านแนวโน้มผู้บริโภคช่วงกลางปี .. 2566 


    สำหรับกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (CPG) โดยเฉพาะอาหารสดเกรดพรีเมียม มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์ด้านการค้าขาย เนื่องจาก 74% ของผู้บริโภคพึงพอใจที่จะเลือกซื้อเนื้อสัตว์หรืออาหารทะเลคุณภาพดีเพื่อนำมาใช้ทำอาหารช่วงวันหยุดเทศกาล 

    และในทางกลับกัน ก็ยังมีกลุ่มผู้บริโภคที่เลือกใช้มาตรการลดต้นทุน โดย 32% วางแผนที่จะใช้จ่ายน้อยลงโดยเลือกการเฉลิมฉลองที่ไม่ใช้งบประมาณสูง ซื้อสินค้าที่มีโปรโมชั่น และจัดทำของขวัญแบบโฮมเมดมากกว่า จากรายงานข้อมูลเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อการเลือกประสบการณ์ที่มีคุณภาพและมากกว่าวัตถุ

    ทั้งนี้ ในปัจจุบัน ผู้คนได้กลับมาเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นอีกครั้ง โดยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดด้านการเลือกรับประสบการณ์ที่มีคุณค่า มากกว่าการเลือกซื้อวัตถุสิ่งของ โดย 71% เชื่อว่าค่านิยมและการเรียงลำดับความสำคัญของตนได้เปลี่ยนแปลงไปหลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19 

    และในจำนวนนั้น 39% เห็นพ้องว่าประสบการณ์มีความสำคัญมากกว่าการครอบครองวัตถุสิ่งของ จึงทำให้ความต้องการในการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศมีเพิ่มมากขึ้น และช่วงเทศกาลสงกรานต์ถือเป็นช่วงที่มีการเดินทางท่องเที่ยวมากที่สุดของคนไทย


การเลือกซื้อสินค้า Private Label และการตัดสินใจโดยคำนึงถึงงบประมาณ

    ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในกลุ่มสินค้าแบรนด์ทั่วไปจากร้านค้าที่พัฒนาและจำหน่ายโดยใช้แบรนด์หรือยี่ห้อของตนเอง (Private Label) โดยยังคงรักษาสมดุลระหว่างคุณภาพกับต้นทุนไว้ จากการวิจัยของ NIQ แสดงให้เห็นว่า 35% ของผู้บริโภคมีความเห็นว่าสินค้า Private Label มักมีคุณภาพสูงกว่าหรือเท่ากันเมื่อเทียบกับสินค้าแบรนด์เนม 

    โดยอีก 21% กล่าวว่าพวกเขายินดีจ่ายเงินเท่ากันหรือมากกว่าเพื่อซื้อสินค้า Private Label ทั้งนี้ นักการตลาดสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลนี้ได้ ด้วยการแสดงให้เห็นคุณค่าและคุณภาพของสินค้า Private Label ที่มีเมื่อเทียบกับสินค้าแบรนด์เนม และสามาถนำเสนอสินค้าตัวเลือกที่เป็นมิตรกับงบประมาณและยังมีคุณภาพดี 

 

กลยุทธ์ความเป็นผู้นำในการปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มการใช้จ่ายช่วงวันหยุดยาว

    ธุรกิจควรมุ่งเน้นไปที่การนำเสนอคุณค่าและความสะดวกสบาย และใช้ประโยชน์จากสินค้า Private Label เพื่อตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป การชี้เน้นให้เห็นถึงคุณภาพและคุณค่าของสินค้า Private Label และการทำให้ประสบการณ์การช้อปปิ้งสะดวกสบายและเป็นส่วนตัวมากขึ้น สามารถช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ปรับตัวเข้ากับแนวโน้มการใช้จ่ายช่วงวันหยุดเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ข้อแนะนำเชิงกลยุทธ์

    - ใช้ประโยชน์จากกระแสนิยมในการเฉลิมฉลองที่บ้าน ด้วยการจัดเตรียม ตัวเลือกวัตถุดิบและสินค้าในการทำทานอาหารที่ไม่เหมือนใคร ตอบสนองความต้องการในการพบปะสังสรรค์ของผู้บริโภค

    - คาดการณ์พฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความแตกต่าง ด้วยกลยุทธ์เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่คำนึงถึงงบประมาณ และกลุ่มที่ชอบประสบการณ์หรูหรา

    - ปรับใช้การตลาดที่รอบคอบ โดยเน้นนำเสนอบริการหรือสินค้าที่มอบประสบการณ์ที่มีคุณค่ามากกว่าสินค้าที่เป็นวัตถุ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในการเฉลิมฉลองช่วงวันหยุด 

    - ร้านอาหารทั่วไปและร้านอาหารหรู สามารถใช้ประโยชน์จากแนวโน้มการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการเข้าสังคม ด้วยการจัดโปรโมชั่นด้านจัดส่งและบริการจัดเลี้ยงต่างๆ 


อนาคตของกลุ่มสินค้า CPG

    จากการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มของผู้บริโภคและความกดดันทางเศรษฐกิจ ธุรกิจควรปรับข้อเสนอและกลยุทธ์การตลาดของตนให้สอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปเหล่านี้ เพื่อที่จะได้รับประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้น และสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้าของตน

    ด้วยการเปิดรับแนวคิดแบบ Less-is-more และมุ่งเน้นที่การมอบคุณค่าและความน่าเชื่อถือ แบรนด์ต่างๆ จึงจะสามารถก้าวผ่านความท้าท้ายช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองได้ ซึ่งจะทำให้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ส่งผลกระทบทางด้านบวกต่อทั้งผู้บริโภคและธุรกิจได้



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : The 1 Insight เผย ยอดใช้จ่ายสงกรานต์ปี 67 โตต่อเนื่อง หลังปี 66 เงินสะพัดจากนักท่องเที่ยว 200%

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine