“Lamborghini” ลงสนาม EV นำร่องด้วย “Revuelto” HPEV - Forbes Thailand

“Lamborghini” ลงสนาม EV นำร่องด้วย “Revuelto” HPEV

FORBES THAILAND / ADMIN
25 Jul 2023 | 07:00 PM
READ 838

ยนตรกรรมไฟฟ้าเป็น World Trend ที่ค่ายรถต่างๆ ต้องปรับตัวให้ทัน รวมถึงซูเปอร์คาร์แบรนด์ดังที่ขายสมรรถนะและพละกำลังเครื่องยนต์ก็ต้องลงสนาม เช่นเดียวกับ Lamborghini ซูเปอร์คาร์แบรนด์กระทิงดุสัญญาชาติอิตาลี ประกาศฉลองครบรอบ 60 ปี ด้วยการเปิดตัวรถ HPEV รุ่นแรกสู่ตลาด

    

     ปี 2566 เป็นโอกาสการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี (Automobili Lamborghini) พร้อมกันทั่วโลก ในไทยจัดขึ้นวันที่ 25 กรกฏาคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) เปิดตัวช่วงเช้าด้วยสีสันอลังการให้สื่อมวลชนได้สัมผัส ยนตรกรรมรุ่นล่าสุด “Lamborghini Revuelto” รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดเครื่องยนต์ V12 สมรรถนะสูง (High Performance Electrified Vehicle: HPEV) รุ่นแรกของแบรนด์ และในช่วงค่ำวันเดียวกันเป็นการแสดงพลังครอบครัว Lamborghini ที่บรรดาเจ้าของและผู้ใช้ซูเปอร์คาร์หรูแบรนด์นี้กว่า 150 คัน จะมานำรถ Lamborghini มารวมตัวกันที่ QSNCC เพื่อโชว์พลังอย่างพร้อมเพรียง

    

โชว์พลัง “กระทิงดุ”


    กิจกรรมในช่วงเช้า บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย ได้จัดงานเปิดตัว Lamborghini Revuelto อย่างเป็นทางการพร้อมเผยรายละเอียดสเปคและสนนราคารถที่เริ่มต้น 47.49 ล้านบาท โดย Lamborghini Revuelto คันที่นำมาโชว์ในงานเป็นซูเปอร์สปอร์ตคาร์สีขาวรูปทรงโฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ต เส้นสายอ่อนช้อยแต่ทว่าดุดันในแบบของลัมโบร์กินี ซึ่งได้รับความสนใจจากตลาดไม่น้อย และได้ยินมาว่ามียอดจองเต็มกำลังการผลิตแล้ว

    Lamborghini Revuelto เป็นการผสนานเทคโนโลยีจากรถยนต์สันดาปแบบเดิม กับมอเตอร์ไฟฟ้าของยนตรกรรมไฟฟ้า ด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมของเทคโนโลยีทั้งสองยุค เป็นการเปิดศักราชของแบรนด์ไปสู่ทศวรรษแห่งการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาปไปสู่ยนตรกรรมไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

    Francesco Scardaoni ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี กล่าวว่า รถรุ่นนี้ถือเป็นรุ่นแรกที่แบรนด์ขยายมาสู่แนวทางของยนตรกรรมไฟฟ้า โดยเริ่มจากรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดคันนี้ ซึ่งถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อสร้างนิยามใหม่ให้กับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด และกำหนดศัพท์ใหม่ HPEV ขึ้นมาโดยย่อมาจาก High Performance Electrified Vehicle เพื่อสื่อถึงการเป็นรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตปลั๊กอินไฮบริดสมรรถนะสูง แทนคำว่า PHEV หรือ Plug-in Hybrid Electric Vehicle ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน โดยรถรุ่นนี้จะมาปฏิวัติวงการรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ต จากการผสานพลังแห่งความแรงของเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อมอบสุดยอดความเร็วเหนือขีดจำกัดไว้เป็นหนึ่งเดียว

    

ก้าวแรกสู่ตลาด EV


    

    “การเปิดตัว Revuelto ถือเป็นก้าวแรกบนเส้นทางสู่ยนตรกรรมไฟฟ้า ซึ่ง Lamborghini ได้วางโรดแมพการเปลี่ยนผ่านไว้ชัดเจน เริ่มจากปี 2023 และพัฒนาต่อโดยโดยคาดว่าจะผลิตรถไฟฟ้า 100% ในปี 2028” Francesco ย้ำและว่าเทรนด์ของรถไฟฟ้าจะเติบโตต่อเนื่องและเห็นด้วยที่มีคนบอกว่า รถไฟฟ้าจะมาแทนตลาดรถยนต์กลุ่มลักซ์ชัวรี่ หากดูจากผลตอบรับของแบรนด์ หลังเปิดตัวรุ่น Revuelto ออกมาได้การตอบรับดีเกิดคาดมียอดจองเต็บไลน์ผลิตไปถึงปี 2568 แล้ว

    นอกจากนี้ในปี 2565 ที่ผ่านมา ผลประกอบการของลัมโบร์กินีทำได้ดีทั้งในแง่ยอดขายและผลกำไร โดยเฉพาะในไตรมาส 1 ปี 2566 ถือเป็นเรคคอร์ดใหม่ของรายได้ เป็นการรับรู้รายได้ที่ดีที่สุด แสดงให้เห็นถึงการยอมรับของตลาดที่ดีต่อเนื่อง ยิ่งหลายประเทศฟื้นกลับมาหลังโควิด ยิ่งทำให้การฟื้นตัวเร็วขึ้นและดีมานด์เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

    “ปัจจัยที่ทำให้ยอดขายเติบโต โดยเฉพาะในไทยมาจากพฤติกรรมลูกค้าที่ตอบรับกับข้อเสนอใหม่ๆ ของแบรนด์ และการที่ลูกค้าสามารถคัสตัมไมซ์รถยนต์ของตัวเองได้ ตรงกับความต้องการตลาดคนไทย” ผู้บริหารลัมโบร์กินี ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยืนยัน เขายังแสดงความเชื่อมั่นว่ารถ HPEV ที่ออกใหม่นี้จะตอบโจทย์และตรงใจตลาดอย่างแน่นอน

    Lamborghini Revuelto เป็นรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงด้วยพละกำลังมากถึง 1,015 แรงม้า มาพร้อมสุดยอดนวัตกรรม ทั้งโครงสร้างใหม่ล่าสุด “Monofuselage” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวถัง Monocoque ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบิน โดยรถยนต์รุ่นนี้เป็นรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตรุ่นแรกที่ใช้โครงสร้างส่วนหน้าเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ 100% ทำให้มีน้ำหนักโครงแชสซีเบาลง 10% โครงส่วนหน้าเบาลง 20% และความแข็งแรงและทนต่อแรงบิดเพิ่มขึ้นไปที่ 40,000 Nm/° ซึ่งสูงขึ้น 25% เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น Aventador การันตีสมรรถนะความเป็นเลิศด้านพลศาสตร์ที่ดีที่สุดในคลาส
ด้วยระบบส่งกำลังแบบไฮบริดรุ่นใหม่ที่ช่วยเสริมกำลังให้มอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ Lamborghini Revuelto สามารถมอบประสบการณ์ผ่านโหมดการขับขี่ที่แตกต่างกันได้ถึง 13 รูปแบบ พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ทำงานได้แม้ใช้ไฟฟ้า 100% เพื่อการปล่อยไอเสียเป็นศูนย์ (Zero-emission 4WD)


    รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดเครื่องยนต์ V12 สมรรถนะสูงรุ่นแรกของแบรนด์คันนี้มีความแตกต่างจากรถยนต์รุ่นอื่นๆ ด้วยการวางเลย์เอาต์ตำแหน่งเครื่องยนต์แบบไม่เคยมีมาก่อน โดยติดตั้งเครื่องยนต์ V12 แบบไร้ระบบอัดอากาศขนาด 6.5 ลิตรบริเวณกลางตัวรถ และมีมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว โดยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวแรกจะอยู่ที่เพลาขับคู่หน้า และอีก 1 ตัวจะติดตั้งอยู่กับชุดเกียร์ดับเบิลคลัชต์ 8 สปีดรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ชุดเกียร์ถูกติดตั้งอยู่หลังเครื่องยนต์ โดยเป็นการติดตั้งแนวขวางอยู่ด้านหลังเครื่องยนต์สันดาป V12 เป็นครั้งแรก

    นอกจากนี้ Lamborghini Revuelto ยังได้มีการติดตั้งชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกำลังสูง (4,500 วัตต์ต่อกิโลกรัม) ไว้บริเวณท่อแกนกลาง โดยตัวแบตเตอรี่บรรจุเซลล์พลังงานรวมความจุ 3.8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง เมื่อประจุลดลงเหลือศูนย์ สามารถชาร์จใหม่ได้ผ่านการใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ และแบบชาร์จในบ้านที่มีกระแสสูงสุด 7 กิโลวัตต์ โดยชาร์จเต็มในเวลา 30 นาที นอกจากนี้ ยังสามารถชาร์จไฟจากการเบรกของล้อหน้าที่ช่วยประจุไฟได้ หรือชาร์จโดยตรงจากเครื่องยนต์ V12 ในเวลา 6 นาที

    อีกหนึ่งสิ่งที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับระบบไฮบริด คือ 3 โหมดการขับขี่รูปแบบใหม่ ได้แก่ Recharge, Hybrid และ Performance เพื่อใช้ร่วมกับโหมดเดิมอย่าง Città (City), Strada, Sport และ Corsa โดยโหมด Città ถูกออกแบบมาเพื่อการขับขี่ประจำวันในย่านกลางเมืองด้วยอัตราการปล่อยไอเสียเป็นศูนย์ ซึ่งหากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่จำเป็นต้องได้รับการชาร์จไฟ แต่พื้นที่แถบนั้นไม่มีสถานีชาร์จ เครื่องยนต์ V12 จะเข้ามาทำงานเพื่อชาร์จไฟจนเต็ม (เข้าสู่โหมด Recharge) ในเวลาไม่กี่นาที

    ขณะที่โหมด Strada เหมาะสำหรับการขับขี่ประจำวันที่เน้นสัมผัสแบบไดนามิกและการวิ่งทางไกล พร้อมให้สัมผัสแนวสปอร์ตด้วยกำลังเครื่องสูงสุดที่ 886 แรงม้า โดยเครื่องยนต์ V12 จะทำงานตลอดเวลาเพื่อทำการชาร์จไฟแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยเสริมการขับขี่ในโหมด Recharge ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด หรือโหมด Corsa ที่มอบพลังอันเต็มเปี่ยมทั้งในแง่ประสิทธิภาพการขับขี่และพลังเสียง ด้วยกำลังเครื่องสูงสุด 1,015 แรงม้า โดยการควบคุมระบบไฮบริดจะทำการรีดศักยภาพของเพลาไฟฟ้า (e-axle) ออกมาทั้งหมดเพื่อสร้างประสบการณ์ขับขี่ระดับ Ultra-sport ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

    

พลิกโฉมยนตรกรรม

    

    ด้านเทคโนโลยี Lamborghini Revuelto นำเสนออินเตอร์เฟซ Human Machine Interface (HMI) ที่ออกแบบใหม่ในทุกรายละเอียด ประกอบด้วยจอแสดงผล 3 ตำแหน่ง ที่ถูกควบคุมโดย “สมองกล” ตัวเดียว ซึ่งใช้ดีไซน์อินเตอร์เฟซแบบเดียวกันทุกจอ ทำให้ผู้ใช้ไม่เกิดการสับสน รวมถึงยังมีการติดตั้งโปรแกรมผู้ช่วย Amazon Alexa ซึ่งจะช่วยให้นักขับสามารถเข้าถึงฟังก์ชั่นการควบคุมตัวรถได้อย่างรวดเร็ว ทั้งการปรับอุณหภูมิ การนำทาง และสื่อต่างๆ ผ่านการสั่งงานด้วยเสียง โดยโปรแกรม Alexa ใน Lamborghini Revuelto ยังผสานฟังก์ชั่น What3Words ซึ่งทำงานร่วมกับระบบนำทางที่ติดตั้งมากับตัวรถ ทำให้สามารถขับขี่ไปได้ทุกที่บนโลก แม้สถานที่นั้นจะไม่มีข้อมูลที่อยู่ที่ชัดเจนก็ตาม

    ด้านความปลอดภัย Lamborghini Revuelto ได้ติดตั้งระบบโทรศัพท์ฉุกเฉิน และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินไว้กับตัวรถ ซึ่งจะทำงานทันทีเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน เพื่อให้ลูกค้าได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที โดยระบบติดตามรถยนต์ Lamborghini Connect ยังสามารถตรวจจับการใช้งานรถยนต์ที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งไม่เพียงแจ้งไปยังเจ้าของรถ แต่ยังติดต่อไปยังศูนย์ความปลอดภัยที่เปิดรับสัญญาณตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าในการติดตามรถยนต์กลับคืน
นอกจากนี้ ด้วยแอปพลิเคชัน Lamborghini Unica บนสมาร์ตโฟน ทำให้นักขับสามารถตรวจสอบสถานะต่างๆ ของรถได้ตลอดเวลา ทั้งระดับเชื้อเพลิง การชาร์จแบตเตอรี่ ระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง ตำแหน่งการจอดที่แน่นอน หรือแม้กระทั่งการควบคุมรถยนต์ระยะไกล เช่น การล็อกและปลดล็อกประตู การเปิดเสียงแตรหรือเปิดแสงไฟ โดยบางฟังก์ชั่นยังสามารถสั่งการได้ผ่านทาง Apple Watch อีกด้วย

    การออกแบบภายใต้ปรัชญา "Feel like a pilot" ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากอุตสาหกรรมการบิน โดย Lamborghini Revuelto ยังคงกลิ่นอายของต้นแบบรถยนต์รุ่น Countach ในปี 1971 แต่มาในรูปโฉมดีไซน์ใหม่ที่เสมือนยานอวกาศ จากแรงบันดาลใจของอุตสาหกรรมการบิน โดยสื่อสารผ่านเส้นสายเฉพาะตัวที่พาดผ่านจากด้านหน้า โอบล้อมห้องโดยสารและเครื่องยนต์ และลู่ลงสู่ชุดท่อไอเสียทรงหกเหลี่ยมส่วนท้ายอย่างสง่างาม

    ฝากระโปรงหน้าดุดันน่าเกรงขามด้วยรูปทรงแบบ Shark-nose ที่บ่งบอกถึงสัมผัสแห่งพลังและความเร็ว ซึ่งสอดรับกันได้อย่างลงตัวกับดีไซน์รูปตัว "Y" ที่แฝงอยู่ในทุกส่วนประกอบทั้งภายในและภายนอก สะท้อนถึงปรัชญา "Feel like a pilot" ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ปิดท้ายด้วยประตูปีกนกที่เปิดในแนวตั้ง (Scissor Doors) ที่ได้สร้างคาแรกเตอร์เฉพาะตัวให้แก่ Lamborghini Revuelto สร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่พบเห็น และที่สำคัญ ลัมโบร์กินีได้มอบทางเลือกในการปรับแต่งรูปลักษณ์ผ่านงานทำสีของ Lamborghini Revuelto ที่มีให้เลือกมากถึง 400 เฉดสี ร่วมกับออปชันการปรับแต่งอีกมากมาย เพื่อรังสรรค์รถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตในฝันของลูกค้าแต่ละคนได้อย่างตรงใจ

    

โรดแมพสู่ความยั่งยืน

    

    นอกจากความสำเร็จด้านยอดขายและการทำกำไรแล้ว Francesco บอกว่า “ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี กำลังดำเนินงานภายใต้แผนงาน "Direzione Cor Tauri" เพื่อมุ่งหน้าสู่การสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม โดยภายหลังจากการเปิดตัว Lamborghini Revuelto ในวันนี้ ได้เตรียมพร้อมที่จะเปลี่ยนรถยนต์ทุกรุ่นของแบรนด์ ให้เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าภายในสิ้นปี 2024” พร้อมอธิบาย คำว่า Cor Tauri เป็นภาษาลาตินที่มีความหมายว่า หัวใจของกระทิง และยังสามารถหมายถึงดวงดาวที่สว่างที่สุดในกลุ่มดาวราศีพฤษภ ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นขอแบรนด์ ที่พร้อมจะเดินหน้าสู่อนาคตที่สดใส แต่ยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณและหัวใจของแบรนด์ไว้เป็นอย่างดี


    อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ในฐานะตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในโอกาสพิเศษครบรอบ 60 ปี แบรนด์ลัมโบร์กินีในปีนี้ ลัมโบร์กินีกำลังจะพาเราข้ามผ่านพรมแดนของประวัติศาสตร์และอนาคต โดยการเปิดตัว Lamborghini Revuelto ซูเปอร์สปอร์ตปลั๊กอินไฮบริด เครื่องยนต์ V12 สมรรถนะสูงรุ่นแรกของแบรนด์ ซึ่งถือเป็นจุดผ่านสำคัญทางเทคโนโลยีของลัมโบร์กินี เพื่อข้ามพ้นขีดจำกัดของสมรรถนะ แต่ยังคงไว้ด้วยเอกลักษณ์ดีไซน์อันเป็นตัวตนที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงของลัมโบร์กินี ซึ่งเรามั่นใจว่า ยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะตอบโจทย์ทุกประสบการณ์การขับขี่และได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ ลัมโบร์กินีทั่วประเทศอย่างแน่นอน”

    บรรยากาศภายในงานยังพาย้อนรอยไปชมความสำเร็จของเหล่าตำนานเครื่องยนต์ V12 ไม่ว่าจะเป็น Diablo, Murcielago 40th Anniversary, Aventador SV LP750-4 Coupe, Aventador LP700-4 Coupe, Aventador SVJ 63 Roadster และ Aventador Ultimae Coupe ที่แบรนด์รวบรวมมาจัดแสดง ร่วมด้วยโชว์เคส ชิ้นพิเศษในรูปแบบ Generative Art ที่ถ่ายทอดอัตลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างมีสไตล์และทรงพลัง

    

    อ่านเพิ่มเติม : KKP Research เผย ภาคอสังหาฯ โตกระจุกตัวเฉพาะในเมืองใหญ่

    ​ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine