TikTok Safety Summit 2024 ผนึกกำลังพันธมิตรและเยาวชน เสริมความปลอดภัยแพลตฟอร์มเพื่อครอบครัว - Forbes Thailand

TikTok Safety Summit 2024 ผนึกกำลังพันธมิตรและเยาวชน เสริมความปลอดภัยแพลตฟอร์มเพื่อครอบครัว

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเด็กและเยาวชนในปัจจุบันเกิดมาในยุคที่มีเทคโนโลยีดิจิทัลอยู่รอบตัว พวกเขาสามารถเข้าถึงโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยหนึ่งในแพลตฟอร์มยอดนิยมคือ TikTok แต่ใช่ว่าทุกคอนเทนต์ที่เผยแพร่บนแพลตฟอร์มจะเหมาะสมสำหรับเด็กและเยาวชน ล่าสุด TikTok จึงได้อัปเดต Guardian’s Guide ฉบับใหม่และเปิดตัวฟีเจอร์เพื่อช่วยให้ผู้ปกครองสามารถดูแลเยาวชนได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น พร้อมจับมือกับองค์กรไม่แสวงหากำไร (NGO) และให้เยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมสร้างสรรค์ชุมชนที่มีคุณภาพ อยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจและความปลอดภัย


    TikTok จัดงาน Thailand Safety Summit 2024 ขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2024 ในโอกาสนี้ สิริประภา วีระไชยสิงห์ Outreach and Partnerships Lead, Trust and Safety จาก TikTok ได้นำเสนอข้อมูลสำคัญจาก Transparency Report ที่เผยแพร่เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

    รายงานเผยว่า ช่วงไตรมาส 2 (เมษายน - มิถุนายน) ของปีนี้ เฉพาะในไทย TikTok ได้มีการนำออกคอนเทนต์ที่ละเมิดกฎ 2.8 ล้านวิดีโอ โดย 99.3% เป็นการนำออกก่อนมีการแจ้งเข้ามา และ 93.1% ดำเนินการนำออกภายใน 24 ชั่วโมง สะท้อนความพยายามด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องของแพลตฟอร์ม ทำให้ปัจจุบันปัจจุบันสามารถลบวิดีโอที่ละเมิดกฎโดยอัตโนมัติได้ถึง 80% (เพิ่มขึ้นจาก 62% จากปีที่ผ่านมา)



    สิริประภา ระบุว่า TikTok มี Content Moderator ทั่วโลกกว่า 40,000 ทำงานควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีคัดกรองคอนเทนต์ และยังมีฟีเจอร์ Account Health Check ให้ Content Creator แต่ละคนสามารถตรวจสอบได้ว่าวิดีโอที่อัปโหลดขึ้นบนแพลตฟอร์มนั้น มีคอนเทนต์ไหนที่อาจละเมิดกฎหรือไม่


ผู้ใหญ่ - เยาวชน ผนึกกำลังยกระดับชุมชน TikTok

    TikTok ยังได้เปิดตัว Guardian’s Guide และ Teen Safety Center ที่ปรับปรุงใหม่ล่าสุดเพื่อช่วยให้ทุกครอบครัวสามารถประยุกต์ใช้เครื่องมือเพื่อดูแลการใช้งานแพลตฟอร์มของเด็กและเยาวชนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมนำเสนอฟีเจอร์ที่พัฒนาเพื่อปกป้องผู้ใช้ทุกวัย ได้แก่

    Family Pairing: ฟีเจอร์ที่เปิดให้ผู้ปกครองสามารถเชื่อมบัญชีของตัวเองเข้ากับเยาวชนในความดูแลเพื่อช่วยแนะนำการท่องโลก TikTok ของพวกเขา โดยได้ร่วมมือกับ Family Online Safety Institute (FOSI) เพิ่มขีดความสามารถของเครื่องมือกรองเนื้อหา ผู้ปกครองสามารถเพิ่มคีย์เวิร์ดที่ตรงความต้องการเฉพาะของวัยรุ่นได้ รวมถึงสามารถตัดสินใจได้ว่าจะเปิดบัญชีเป็นส่วนตัวหรือสารธารณะ ตลอดจนการอนุญาตให้บุคคลอื่นสามารถแสดงความคิดเห็นและส่ง Direct Message เข้ามายังบัญชีของเยาวชน

    นอกจากนี้ จากคำแนะนำของโรงพยาบาลเด็กบอสตัน ผู้ปกครองสามารถ กำหนดเวลาการใช้งานรายวันได้ โดยแนะนำค่าเริ่มต้นที่ 60 นาที เมื่อเยาวชนใช้งานครบเวลา พวกเขาจะต้องใส่รหัสผ่านเพื่อรับชมต่อ เอื้อให้เกิดการหยุดพักและทบทวนว่าจะใช้ต่อหรือไม่ ฟีเจอร์นี้เหล่านี้ช่วยให้ครอบครัวสร้างขอบเขตทางดิจิทัลที่เหมาะสมและเคารพอำนาจการตัดสินใจที่เพิ่มขึ้นของเยาวชนในเวลาเดียวกัน

    ระบบความปลอดภัยของคอนเทนต์แบบครบวงจร: ฟีเจอร์ Content Levels ของ TikTok เป็นฟีเจอร์ที่กำกับดูแลเนื้อหาที่ซับซ้อนของแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะการปกป้องผู้ใช้งานที่เป็นเยาวชน ซึ่งระบบนี้ระบบนี้จะตรวจจับและกำหนดความเหมาะสมตามเกณฑ์อายุของผู้ชมต่อวิดีโอโดยอัตโนมัติ หรือป้องกันไม่ให้นำเสนอเนื้อหาที่มีเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่เกินไปต่อการเข้าถึงผู้ใช้อายุ 13-17 ปี    


สิริประภา วีระไชยสิงห์ Outreach and Partnerships Lead, Trust and Safety - TikTok

    TikTok ไม่ได้ละเลยเสียงของเยาวชนและมอบอำนาจให้ผู้ใหญ่ในการสร้างแพลตฟอร์มเพียงกลุ่มเดียว แต่ยังได้ TikTok Youth Council หรือ สภาเยาวชน TikTok ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2023 อันประกอบไปด้วย 15 ผู้นำเยาวชนซึ่งมาจากหลากหลายประเทศ เข้ามามีบทบาทสำคัญในการออกแบบฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยบนแพลตฟอร์ม พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกโดยตรงจากผู้ใช้รุ่นเยาว์เกี่ยวกับประเด็นต่างๆ และนำเสนอมุมมองที่ช่วยให้ผู้ใหญ่สามารถทำความเข้าใจเยาวชนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น การบอกผู้ใหญ่ให้เชื่อใจพวกเขา และอย่าลืมเคารพความเป็นส่วนตัวของพวกเขาด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถทำควบคู่ไปกับการดูแลความปลอดภัยได้

    “TikTok เป็นแพลตฟอร์มสำหรับครอบครัวที่สามารถสร้างสรรค์และแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ ร่วมกัน เราจึงพยายามที่จะส่งเสริมทุกครอบครัวด้วยเครื่องมือที่จำเป็น เรารับฟังเสียงของเยาวชนและต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายผ่านข้อเสนอแนะของพวกเขา เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ด้วยความปลอดภัยของผู้ใช้และชุมชน นับเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของเรา” สิริประภากล่าว


ขยายเครือข่ายพันธมิตร สร้างสรรค์สังคมดิจิทัล

    TikTok ไม่ได้พัฒนาแค่แอปพลิเคชั่นของตัวเอง แต่ร่วมมือกับบรรดาผู้เชี่ยวชาญและองค์กรไม่แสวงหากำไรต่างๆ ผ่าน Safety Content Advisory Councils เพื่อให้มั่นใจได้ว่านโยบายต่างๆ ตอบรับกับทิศทางของอนาคต มีความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม และเป็นมิตรกับจิตใจชองผู้ใช้งาน เช่น หากผู้ใช้งานค้นหาคอนเทนต์สุ้มเสี่ยงก็จะขึ้นช่องทางติดต่อสายด่วนกรมสุขภาพจิตและสมาคมสะมาริตันส์แห่งประเทศไทยให้

    ดร.นพ. วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุข และหนึ่งในสมาชิกของ TikTok Safety Advisory Councils กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่างเราและ TikTok ไม่ได้เพียงแต่ระบุความท้าทายหรือปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่ยังเตรียมพร้อมรับมือต่อสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตเพื่อเป็นการสร้างพื้นที่ออนไลน์ที่ปลอดภัยสำหรับเยาวชนในการแสดงตัวตนของพวกเขาได้อย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน โดยที่พวกเขาได้รับการปกป้องอย่างปลอดภัย”



    นอกจากนี้ TikTok ยังคงดำเนินการเคียงข้างกับเครือข่ายองค์กรไม่แสวงผลกำไรมากกว่า 60 แห่งทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยในประเทศไทยได้ร่วมมือกับมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาประเทศไทย เพื่อส่งมอบและเสริมสร้างความรู้ให้กับเยาวชนทั่วประเทศในหัวข้อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ทักษะการรู้เท่าทันสื่อ, การปกป้องความเป็นส่วนตัว, การรู้ทันข้อมูลเท็จ และความเป็นอยู่ที่ดีทางดิจิทัล

    ดร.ศรีดา ตันทะอธิพานิช กรรมการผู้จัดการมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย จากมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย ชี้ว่า “การสร้างความปลอดภัยทางดิจิทัล ต้องเริ่มจากการให้ความรู้ที่เหมาะสมและให้เครื่องมือแก่ครอบครัวในการจัดการภัยคุกคามทางออนไลน์ที่นับวันยิ่งทวีซับซ้อนมากขึ้น การพัฒนาของ TikTok ต่อเครื่องมือให้ใช้งานง่าย จะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถป้องกันลูกหลานด้านความปลอดภัยบนพื้นที่ออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

    TikTok จะยังคงเดินหน้าและลงทุนส่งเสริมความปลอดภัยของผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง โดยสิริประภาย้ำกว่า TikTok มีการอัปเดต Guardian’s Guide, Teen Safety Center ตลอดจนฟีเจอร์อื่นๆ สม่ำเสมอ เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป และสร้างประสบการณ์ออนไลน์เชิงบวกอย่างยั่งยืน


ภาพ: TikTok


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : แพลตฟอร์มต่างชาติยึดไทย ผูกขาดการค้าออนไลน์ ผู้ขายโอด ‘ยิ่งขาย กำไรยิ่งลด’ เร่งหาทางรอด

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine