‘ลาซาด้า’ ไม่หวั่นอีคอมเมิร์ซจีน ติด 3 อาวุธลับ ดันธุรกิจโตยั่งยืนระยะยาว - Forbes Thailand

‘ลาซาด้า’ ไม่หวั่นอีคอมเมิร์ซจีน ติด 3 อาวุธลับ ดันธุรกิจโตยั่งยืนระยะยาว

ลาซาด้าไม่หวั่นอีคอมเมิร์ซจีน ติด 3 อาวุธลับ ดันธุรกิจโตยั่งยืนระยะยาว มัดใจขาช็อปด้วยประสบการณ์ช็อปเฉพาะบุคคล ขยายแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟ เพิ่มลักชัวรีแบรนด์ พร้อม AI ให้ช็อปทั้งสะดวกและสนุก


    วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซในเมืองไทยมีการเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคตลอด 2 ปีที่ผ่านมา และในปี 2566 ยังเติบโตสูงกว่าปีก่อนหน้าถึง 20% และมีมูลค่าสูงถึง 9.8 แสนล้านบาท เป็นอันดับที่ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซียที่มีมูลค่าตลาด 2.73 ล้านล้านบาท ส่วนที่เหลือฟิลิปปินส์และเวียดนามมีมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซเท่ากันที่ 7 แสนล้านบาท ขณะที่มาเลเซียและสิงคโปร์มีมูลค่าตลาดที่ 5.6 แสนล้านบาท และ 3.5 แสนล้านบาท ตามลำดับ

    ด้วยศักยภาพดังกล่าว ลาซาด้า ยังคงเดินหน้าลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะตลาดอีคอมเมิร์ซเมืองไทยมีความ maturity มากกว่าประเทศอื่นๆ เพราะความพร้อมของระบบโลจิสติกส์ บริษัทจะเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ด้วยกลยุทธ์ 3 ด้าน ได้แก่ การยกระดับประสบการณ์นักช็อป เน้นสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยี และสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

    “เราพบว่า สัดส่วนนักช็อปหญิงและผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z เข้ามามีบทบาทขับเคลื่อนธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยมากขึ้น และ 35% ของนักช็อป Gen Z รับหน้าที่สั่งซื้อสินค้าให้สมาชิกทั้งครอบครัวด้วย นอกเหนือจากสินค้าแฟชั่น พรีเมียม และความงามของตัวเองแล้ว ยังมีการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ในครัวเรือนและเครื่องใช้ไฟฟ้ามากขึ้น” วาริสฐา บอก

    ดังนั้น การเพิ่มประสบการณ์การช็อปที่แตกต่าง ภายใต้แนวคิด “Customer-First” จึงถูกวางเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลได้ดียิ่งขึ้นทั้งยี่ห้อและราคา เพื่อเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำและความเหนียวแน่นของนักช็อป โดยเฉพาะในหมวดหมู่ของสินค้าพรีเมียม แฟชั่น และความงาม ที่เป็นจุดแข็งของแพลตฟอร์ม เพื่อสร้างการเติบโตของลาซาด้าในระยะยาว


    ภาพสะท้อนจากยอดขายรวมของ LazMall ช่วงเมกะแคมเปญ ซึ่งโตก้าวกระโดดมากกว่า 7 เท่าเทียบกับการขายในวันปกติ ทำให้ในโค้งสุดท้ายของปี 2567 ลาซาด้าจะเน้นเปิดตัวแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟเสริมความแข็งแกร่งของ LazMall และรุกเซ็กเมนต์สินค้าลักชัวรี ผ่านหมวดสินค้า LazMall Premium Brand มากขึ้น

    นอกจากนี้ ยังตอกย้ำ LazLOOK ในฐานะจุดหมายสินค้าแฟชั่น ผ่านแคมเปญรายสัปดาห์ที่จะเข้ามาสร้างความตื่นเต้นและสีสันให้แก่นักช้อปอย่างต่อเนื่อง

    และเพื่อให้การช็อปเป็นเรื่องสะดวกและสนุกยิ่งขึ้น ลาซาด้าจะนำเทคโนโลยี AI มาพัฒนานวัตกรรมและฟีเจอร์ต่างๆ โดยมี Gamification เป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมกับนักช็อป ที่ผ่านมา LazGame ได้รับผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากในไทย โดยมีผู้เล่นเกมกว่า 1 ล้านคนต่อวัน ซึ่งนักช็อปกลุ่มนี้มีการใช้งานแอปพลิเคชั่นนานกว่าค่าเฉลี่ยของแพลตฟอร์มถึง 3 เท่า และราว 82% กลับมาใช้งานแอปพลิเคชั่นเป็นประจำทุกวัน

    อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่สะท้อนถึงความสำเร็จของการลงทุนด้านนวัตกรรมของลาซาด้า คือฟีเจอร์ “ถามผู้ใช้งานจริง (Ask the Buyer)” ซึ่งนำเทคโนโลยี AI มาช่วยตั้งคำถามเชิญชวนให้ผู้ซื้อรายก่อนๆ มาร่วมรีวิวสินค้า เพื่อช่วยให้ผู้ซื้อรายใหม่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยปัจจุบันมีการตอบคำถามจากผู้ซื้อจริงไปแล้วกว่า 1.5 ล้านครั้ง


    สำหรับการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพผู้ขายไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนนั้น บริษัทจะพัฒนาโซลูชั่นการตลาดที่สนับสนุนผู้ขายให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมืออาชีพ เช่น เครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยี AI ช่วยปรับแต่งรูปภาพ เขียนคำอธิบายสินค้า รวมทั้งส่งเสริมผู้ขายไทยให้ประสบความสำเร็จในตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศอื่นๆ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ได้

    “การเข้ามาของอีคอมเมิร์ซจากจีน ทำให้การแข่งขันมากขึ้น ซึ่งดีกับทั้งเราและผู้บริโภคทั้งเรื่องโปรโมชั่นและราคา เราไม่เพียงแต่จะ innovate ประสบการณ์การช็อปที่ดียิ่งขึ้นในทุกการจับจ่าย เรายังให้สิทธิพิเศษผู้ประกอบการไทยซึ่งมีสัดส่วนการขายสูงสุด และร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อปกป้องผู้ซื้อด้วย” วาริสฐากล่าวทิ้งท้าย



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : KKP ชี้ e-Commerce โตแรงเร่งสินค้าจีนทะลักเข้าไทย กระตุ้นเสี่ยงขาดดุลการค้า

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine